คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 192

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,100 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นแพทย์และปลอมแปลงเอกสารราชการ ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบเงิน
จำเลยแสดงตนว่าเป็นแพทย์ และพ่อตาจำเลยเป็นแพทย์ใหญ่แม้ความจริงจำเลยและพ่อตาไม่ได้เป็นแพทย์ แต่ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเพื่อวิ่งเต้นช่วยเหลือบุตรผู้เสียหาย จำเลยย่อมมีผิดตาม มาตรา 123
ปลอมสำเนาหนังสือราชการซึ่งทำให้เห็นว่าเป็นสำเนาหนังสือที่เจ้าหน้าที่เรียบเรียงและรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริงแม้ความจริงจะไม่มีแบบหนังสือที่แท้จริงนั้นก่อนก็ตามก็ยังคงเป็นผิดตาม มาตรา 224
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเหตุเกิดที่ตำบล ก. แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพูดแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานที่ตำบล ข. แต่ได้รับเงินจากผู้เสียหายที่ตำบล ก. เช่นนี้ฟ้องของโจทก์หาผิดตำบลที่เกิดเหตุไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นแพทย์และปลอมแปลงเอกสารราชการ ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบเงิน
จำเลยแสดงตนว่าเป็นแพทย์ และพ่อตาจำเลยเป็นแพทย์ใหญ่แม้ความจริงจำเลยและพ่อตาไม่ได้เป็นแพทย์ แต่ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเพื่อวิ่งเต้นช่วยเหลือบุตรผู้เสียหาย จำเลยย่อมมีผิดตาม มาตรา 123
ปลอมสำเนาหนังสือราชการซึ่งทำให้เห็นว่าเป็นสำเนาหนังสือที่เจ้าหน้าที่เรียบเรียงและรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริงแม้ความจริงจะไม่มีแบบหนังสือที่แท้จริงนั้นก่อนก็ตามก็ยังคงเป็นผิดตาม มาตรา 224
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเหตุเกิดที่ตำบล ก. แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพูดแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานที่ตำบล ข. แต่ได้รับเงินจากผู้เสียหายที่ตำบล ก. เช่นนี้ฟ้องของโจทก์หาผิดตำบลที่เกิดเหตุไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นแพทย์และปลอมแปลงเอกสารราชการ ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบเงินให้จำเลย
จำเลยแสดงตนว่าเป็นแพทย์และพ่อตาจำเลยเป็นแพทย์ใหญ่แม้ความจริงจำเลยและพ่อตาไม่ได้เป็นแพทย์แต่ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเพื่อวิ่งเต้นช่วยเหลือบุตรผู้เสียหาย จำเลยย่อมมีผิดตาม ม.123
ปลอมสำเนาหนังสือราชการซึ่งทำให้เห็นว่าเป็นสำเนาหนังสือที่เจ้าหน้าที่เรียบเรียงและรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริง แม้ความจริงจะไม่มีแบบหนังสือที่แท้จริงนั้นก่อนก็ตามก็ยังคงเป็นผิดตาม ม.224
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเหตุเกิดที่ตำบล ก. แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพูดแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานที่ตำบล ข.แต่ได้รับเงินจากผู้เสียหายที่ตำบล ก. เช่นนี้ฟ้องของโจทก์หาผิดตำบลที่เกิดเหตุไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องตัดไม้ทำลายป่าต้องระบุที่หวงห้ามที่ชัดเจน การฟ้องไม่สมบูรณ์แม้จำเลยรับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้
ฟ้องว่าจำเลยตัดไม้หวงห้ามประเภท ก. แต่ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าตัดไม้ในที่หวงห้ามซึ่งทางการได้ประกาศตามกฎหมายแล้ว เช่นนี้เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2499)
ฟ้องที่ไม่สมบูรณ์นั้นแม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาต้องระบุรายละเอียดการกระทำผิดให้ชัดเจน แม้จำเลยรับสารภาพ หากฟ้องไม่สมบูรณ์ ศาลต้องยกฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยตัดไม้หวงห้ามประเภท ก. แต่ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าตัดไม้ในที่หวงห้ามซึ่งทางการได้ประกาศตาม ก.ม.แล้วเช่นนี้เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
(ประชุมใหญ่คครั้งที่ 4/2499)
ฟ้องไม่สมบูรณ์นั้นแม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องตัดไม้ทำลายป่าต้องระบุชัดเจนว่ากระทำในพื้นที่หวงห้ามที่ได้รับการประกาศตามกฎหมาย มิฉะนั้นฟ้องไม่สมบูรณ์
ฟ้องว่าจำเลยตัดไม้หวงห้ามประเภท ก. แต่ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าตัดไม้ในที่หวงห้ามซึ่งทางการได้ประกาศตามกฎหมายแล้ว เช่นนี้เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2499)
ฟ้องที่ไม่สมบูรณ์นั้นแม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าหรือไม่: ศาลลดโทษจากฆ่าโดยเจตนา เป็นฆ่าโดยไม่เจตนา พิจารณาจากพฤติการณ์และอาวุธ
ฟ้องของโจทก์เป็นแต่กล่าวถึงวันกระทำผิดของจำเลยว่าเป็นวันที่ 29 มี.ค. 46 ตรงกับฟ้อง แม้พยานโจทก์บางคนจะกล่าวว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 เป็นวันเสาร์ ความ ความจริงเป็นวันอาทิตย์ เมื่อข้อเท็จจริงอื่น ๆ ยังน่าเชื่อว่าวันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ที่ 29 มี.ค. 96 ซึ่งตรงกับวันที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้ที่พยานบางคนว่าเป็นวันเสาร์จึงอาจจาผิดไปเพียงเท่านี้ ยังเรียกไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
จำเลยแทงผู้ตายขณะเมาสุราอาวุธที่กระทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็กและกระทำข้างหลังผู้ตายแต่เพียงที่เดียวเพียงเท่านี้ยังไม่พอชี้ขาดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตาย โดยคำนึงถึงวันเกิดเหตุที่แตกต่างเล็กน้อย และพฤติการณ์ขณะกระทำผิด
ฟ้องของโจทก์เป็นแต่กล่าวถึงวันกระทำผิดของจำเลยว่าเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 หาได้กล่าวว่าเป็นวันอะไรไม่ พยานโจทก์ทุกคนก็ว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 ตรงกับฟ้อง แม้พยานโจทก์บางคนจะกล่าวว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 เป็นวันเสาร์ ความจริงเป็นวันอาทิตย์ เมื่อข้อเท็จจริงอื่นๆ ยังน่าเชื่อว่าวันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ที่ 29 มี.ค.96 ซึ่งตรงกับวันที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้ที่พยานบางคนว่าเป็นวันเสาร์จึงอาจจำผิดไปเพียงเท่านี้ ยังเรียกไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
จำเลยแทงผู้ตายขณะเมาสุรา อาวุธที่กระทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็กและกระทำข้างหลังผู้ตายแต่เพียงที่เดียวเพียงเท่านี้ยังไม่พอชี้ขาดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา แม้ข้อเท็จจริงวันเกิดเหตุคลาดเคลื่อนเล็กน้อย และพฤติการณ์การกระทำ
ฟ้องของโจทก์เป็นแต่กล่าวถึงวันกระทำผิดของจำเลยว่าเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 หาได้กล่าวว่าเป็นวันอะไรไม่ พยานโจทก์ทุกคนก็ว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 ตรงกับฟ้อง แม้พยานโจทก์บางคนจะกล่าวว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 เป็นวันเสาร์ ความจริงเป็นวันอาทิตย์ เมื่อข้อเท็จจริงอื่นๆ ยังน่าเชื่อว่าวันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ที่ 29 มี.ค.96 ซึ่งตรงกับวันที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้ที่พยานบางคนว่าเป็นวันเสาร์จึงอาจจำผิดไปเพียงเท่านี้ ยังเรียกไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
จำเลยแทงผู้ตายขณะเมาสุรา อาวุธที่กระทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็กและกระทำข้างหลังผู้ตายแต่เพียงที่เดียวเพียงเท่านี้ยังไม่พอชี้ขาดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีอาญา: การยุติคดีเฉพาะจำเลยเมื่อโจทก์ไม่ติดใจอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยลงโทษ
จำเลยผู้ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องไปแล้ว และโจทก์เห็นพ้องด้วย ไม่ติดใจอุทธรณ์ขึ้นมา คดีเฉพาะตัวจำเลยผู้นั้นจึงเป็นอันยุติเพียงศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จะกลับยกขึ้นมาวินิจฉัยชี้ขาดลงโทษจำเลยผู้นั้นด้วยหาได้ไม่
of 210