คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 192

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,100 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีอาญา: การยุติคดีเฉพาะจำเลยเมื่อโจทก์ไม่ติดใจอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยลงโทษ
จำเลยผู้ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องไปแล้ว และโจทก์เห็นพ้องด้วย ไม่ติดใจอุทธรณ์ขึ้นมา คดีเฉพาะตัวจำเลยผู้นั้นจึงเป็นอันยุติเพียงศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จะกลับยกขึ้นมาวินิจฉัยชี้ขาดลงโทษจำเลยผู้นั้นด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมกระทงโทษในคดีอนาจารและลักทรัพย์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการรวมโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วเข้ากับกระทงลักทรัพย์ไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำอนาจารและลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารข้อหาฐานลักทรัพย์ให้ยก โจทก์แต่ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ ดังนี้ข้อหาฐานอนาจารจึงถึงที่สุดแล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์อีกกระทงหนึ่งก็ตามศาลอุทธรณ์จะพิพากษารวมกระทงลงโทษจำเลยโดยเอาโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วมารวมเข้าด้วย(โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 288 กระทงหนึ่งและ มาตรา 246 อีกกระทงหนึ่ง รวมกระทงลงโทษจำเลยให้จำคุกจำเลย 1 ปี ฯลฯ) ดังนี้หาเป็นการชอบไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษรวมกะทงความผิดต่อเนื่อง: ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์นำโทษความผิดที่ถึงที่สุดแล้วมารวมกับโทษฐานลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำอนาจารและลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารข้อหาฐานลักทรัพย์ให้ยกโจทก์แต่ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ดังนี้ข้อหาฐานอนาจารจึงถึงที่สุดแล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์อีกกะทงหนึ่งก็ตาม ศาลอุทธรณ์จะพิพากษารวมกะทงลงโทษจำเลยโดยเอาโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วมารวมเข้าด้วย(โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ตาม ก.ม.อาญา ม.288 กะทงหนึ่ง และ ม. 246 อีกกะทงหนึ่ง แต่รวมกะทงลงโทษจำเลยให้จำคุกจำเลย 1 ปี ฯลฯ) ดังนี้หาเป็นการชอบไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชื่อผู้เสียหายในฟ้องผิดพลาด ไม่ถือเป็นข้อเท็จจริงต่างกันถึงขั้นยกฟ้อง
ในฟ้องพิมพ์ชื่อผู้เสียหายว่าโกกะ แสงประดิษฐ์ ครั้นศาลสอบผู้เสียหายแถลงว่าชื่อโก๊ะ แสงประดิษฐฺ์ ดังนี้เมื่อไม่ผิดตัวผู้เสียหายเป็นแต่กล่าวชื่อผิดเพี้ยนไปเป็นข้อเล็กน้อยปลีกย่อย หาใช่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับที่กล่าวในฟ้องอันจะเป็นเหตุให้ยกฟ้องได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความคลาดเคลื่อนชื่อผู้เสียหายในฟ้อง ไม่ถึงขั้นเป็นการผิดตัวและทำให้ต้องยกฟ้อง
ในฟ้องพิมพ์ชื่อผู้เสียหายว่าโกกะ แสงประดิษฐ์ ครั้นศาลสอบผู้เสียหายแถลงว่าชื่อโก๊ะ แสงประดิษฐ์ ดังนี้เมื่อไม่ผิดตัวผู้เสียหายเป็นแต่กล่าวชื่อผิดเพี้ยนไปเป็นข้อเล็กน้อยปลีกย่อย หาใช่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับที่กล่าวในฟ้องอันจะเป็นเหตุให้ยกฟ้องได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างจำนวนผู้กระทำผิดในชั้นพิจารณาไม่ถึงเหตุให้ยกฟ้อง หากข้อเท็จจริงสาระสำคัญยังคงตรงกับฟ้อง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวก 2 คนทำผิดฐานปล้นทรัพย์ ทางพิจารณาได้ความว่ามีผู้ร้าย 3 คน ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ที่จะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้
ข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา ม.192 วรรค 2 นั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างจำนวนผู้กระทำผิดไม่ถึงเหตุยกฟ้องหากองค์ประกอบความผิดยังคงครบถ้วน
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวก 2 คนทำผิดฐานปล้นทรัพย์ทางพิจารณาได้ความว่ามีผู้ร้าย 3 คนดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องที่จะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้
ข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 วรรคสองนั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 604/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์ vs ลักทรัพย์: การแยกแยะบทบาทและขอบเขตความรับผิดของตัวการร่วม
จำเลยที่ 1 กับอีกคนหนึ่งถือมีดคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ ในขณะที่คนร้ายอีกคนหนึ่งขู่เข็ญจะทำร้ายเจ้าทรัพย์ดังนี้จำเลยที่ 1 มีผิดตามมาตรา 301
ส่วนจำเลยที่ 2,3 เมื่อได้ก็ปลีกตัวไปเสียก่อนยังไม่ได้มีการขู่เข็ญเจ้าทรัพย์มาเกิดการขู่เข็ญขึ้นภายหลัง เป็นการขาดตอนมิได้เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 2,3 แล้ว จำเลยทั้งสองจึงเพียงแต่มีผิดตามมาตรา 294ตอน 2 ประกอบด้วย มาตรา 293 ข้อ 7-11 และ มาตรา 294ข้อ 1 เท่านั้น
ฟ้องว่าปล้นทรัพย์ได้ความว่าลักทรัพย์ ลงโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 604/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์ vs ลักทรัพย์: การแบ่งแยกความรับผิดของจำเลยตามพฤติการณ์ที่แตกต่างกัน
จำเลยที่ 1 กับอีกคนหนึ่งถือมีดคุมเชิงอยู่ใกล้ ๆ ในขณะที่คนร้ายอีกคนหนึ่งขู่เข็ญจะทำร้ายเจ้าทรัพย์ ดังนี้จำเลยที่ 1 มีผิด ตามมาตรา 301
ส่วนจำเลยที่2,3 เมื่อได้ปืนก็ปลีกตัวไปเสียก่อนยังไม่ได้มีการขู่เข็ญเจ้าทรัพย์มาเกิดการขู่เข็ญขึ้นภายหลัง เป็นการขาดตอนมิได้เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 2,3 แล้ว จำเลยทั้งสองจึงเพียงแต่มีผิดตาม ม. 294 ตอน 2 ประกอบด้วย ม.293 ข้อ 7-11 และ ม.294 ข้อ 1 เท่านั้น
ฟ้องว่าปล้นทรัพย์ได้ความว่าลักทรัพย์ลงโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยประมาททำให้ทรัพย์เสียหาย โจทก์ต้องระบุเหตุประมาทในฟ้อง มิฉะนั้นศาลลงโทษไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานจุดเผาทรัพย์มีลักษณะน่ากลัวอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่นแต่ไม่ได้กล่าวบรรยายมาในฟ้องถึงการประมาทและไม่ได้อ้างมาตราในกฎหมายเรื่องประมาทเมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำโดยประมาท ต้องด้วยกฎหมายอาญา มาตรา201(1) ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 ต้องยกฟ้อง
of 210