คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 192

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,100 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตคำขอของอัยการและผู้เสียหายในคดีอาญา: ศาลใช้ดุลพินิจลงโทษตามคำขอที่หนักกว่าได้
อัยการและผู้เสียหายต่างอุทธรณ์ด้วยกัน โดยผู้เสียหายขอให้ศาลอุทธรณ์อย่ารอการลงโทษแก่จำเลย อัยการขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษให้หนักขึ้น ดังนี้ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาตามคำขอของอัยการได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความถูกต้องของเวลาเกิดเหตุในฟ้องอาญา: ผลต่อการพิจารณาคดีและการพิพากษา
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2494 เวลากลางวัน (6.00น.)จำเลยปล้นทรัพย์แม้ทางพิจารณาได้ความว่าเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาขมุกขมัวมีแสงสว่างบ้างแล้วซึ่งจะถือว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ใกล้เคียงกันมาก จะฟ้องฟังว่าข้อเท็จจริงได้ความว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องซึ่งบรรยายว่าเหตุเกิดเวลากลางวันจึงให้ยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 ยังไม่ได้และเมื่อฟ้องของโจทก์จำเลยก็เข้าใจข้อหาได้ดีโดยไม่หลงข้อต่อสู้จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความถูกต้องของเวลาเกิดเหตุในฟ้องอาญา แม้เวลาใกล้เคียงกัน หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องไม่ถือว่าไม่สมบูรณ์
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2494 เวลากลางวัน(06.00 น.)จำเลยปล้นทรัพย์แม้ทางพิจารณาได้ความว่าเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาขมุกขมัวมีแสงสว่างบ้างแล้วซึ่งจะถือว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ใกล้เคียงกันมาก จะฟังว่าข้อเท็จจริงได้ความว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องซึ่งบรรยายว่าเหตุเกิดเวลากลางวัน จึงให้ยกฟ้องโจทก์ตาม ป.วิ.อาญา ม.192 ยังไม่ได้และเมื่อฟ้องของโจทก์จำเลยก็เข้าใจข้อหาได้ดีโดยไม่หลงข้อต่อสู้จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามป.วิ.อาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างของเวลาเกิดเหตุในฟ้องและข้อเท็จจริงในการพิจารณาคดี ไม่ทำให้ฟ้องไม่สมบูรณ์
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2494 เวลากลางวัน (06.00 น.) จำเลยปล้นทรัพย์ แม้ทางพิจารณาได้ความว่าเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาขมุกขมัวมีแสงสว่างบ้างแล้วซึ่งจะถือว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ใกล้เคียงกันมาก จะฟังว่าข้อเท็จจริงได้ความว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องซึ่งบรรยายว่าเหตุเกิดเวลากลางวัน จึงให้ยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ยังไม่ได้ และเมื่อฟ้องของโจทก์จำเลยก็เข้าใจข้อหาได้ดีโดยไม่หลงข้อต่อสู้จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไม้หวงห้ามโดยไม่แปรรูป: การพิจารณาความรับผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยมีไม้หวงห้ามโดยมิได้มีตรารอยค่าภาคหลวงประทับไว้ในความครอบครอง ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ม.69 ซึ่งได้แก้ไขใหม่โดย พ.ร.บ.ป่าไม้ ( ฉบับที่ 3 ) 2494 ม.16 แม้จำเลยให้การรับสารภาพศาลก็ลงโทษจำเลยตามขอไม่ได้เพราะตามมาตราดังกล่าวเป็นเรื่องมีไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูปไว้ในความครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไม้หวงห้ามโดยมิได้ประทับตรารอยค่าภาคหลวง ต้องเป็นไม้ที่ยังไม่ได้แปรรูป
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยมีไม้หวงห้ามโดยมิได้มีตรารอยค่าภาคหลวงประทับไว้ในความครอบครอง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 69 ซึ่งได้แก้ไขใหม่โดย พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3)2494 มาตรา 16 แม้จำเลยให้การรับสารภาพศาลก็ลงโทษจำเลยตามขอไม่ได้เพราะบทมาตราดังกล่าวเป็นเรื่องมีไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูปไว้ในความครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกทรัพย์ในหน้าที่ของลูกจ้างรายวัน และการพิพากษาความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารที่ไม่ชัดเจน
การที่จำเลยตั้งยอดเบิกเงินตามจำนวนทหารที่จะได้รับเงินเดือนนั้น จำเลยอาจต้องลงบัญชีไว้ก่อน เพื่อจะได้จ่ายในวันหลัง ดังจำเลยต่อสู้ก็ได้เมื่อไม่ได้ความว่าบัญชีไม่ตรงตามจำนวนทหารในเดือนใด การที่ทหารมารับเงินเดือนไม่ครบจำนวนจำเลยลงบัญชีจ่ายเต็มจำนวนให้ตรงกับบัญชีเงินสดประจำวันก็ไม่ได้หลักฐานว่ามีระเบียบข้อบังคับห้ามไม่ให้ทำเช่นนั้นดังนี้จะวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำการปลอมหนังสือไม่ถนัด
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดหลายกระทงขอให้ลงโทษตามมาตรา 319, ข้อ (3) ฯลฯ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าทางราชการจัดให้จำเลยทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินจำเลยยักยอกเอาเงินรายนี้ไปจริงดังนี้ ก็ตรงกับคำฟ้องส่วนที่กล่าวว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานนั้นแม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานโดยตรงก็ยังถือไม่ได้ว่าคดีได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกทรัพย์ในหน้าที่ของเจ้าพนักงาน แม้ไม่ได้พิสูจน์สถานะเจ้าพนักงานโดยตรง แต่ยังคงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์
การที่จำเลยตั้งยอดเบิกเงินตามจำนวนทหารที่จะได้รับเงินเดือนนั้น จำเลยอาจต้องลงบัญชีไว้ก่อน เพื่อจะได้จ่ายในวันหลังดั่งจำเลยต่อสู้ก็ได้ เมื่อไม่ได้ความว่าบัญชีไม่ตรงตามจำนวนทหารในเดือนใด การที่ทหารมารับเงินเดือนไม่ครบจำนวนจำเลยลงบัญชีจ่ายเต็มจำนวนให้ตรงกับบัญชีเงินสดประจำวันก็ไม่ได้หลักฐานว่ามีระเบียนข้อบังคับห้ามไม่ให้ทำเช่นนี้ ดังนี้จะวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำการปลอมหนังสือไม่ถนัด
บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดหลายกะทง ขอให้ลงโทษตามมาตรา 319 ข้อ (3) ฯลฯ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า ทางราชการจัดให้จำเลยทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินจำเลยยักยอกเอาเงินรายนี้ไปจริงดังนี้ ก็ตรงกับคำฟ้อง ส่วนที่กล่าวว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานนั้นแม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานโดยตรง ก็ยังถือไม่ได้ว่าคดีได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 892/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อาวุธปืนไม่มีทะเบียน: ศาลไม่คืนของกลางและไม่ริบเพราะฟ้องไม่ขอริบและขัดกฎหมาย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนไว้ในความครอบครองและขอให้ศาลสั่งคืนของกลางแก่เจ้าของศาลจะสั่งคืนตามคำขอไม่ได้ เพราะปืนของกลางไม่มีทะเบียน ใครครอบครองย่อมมีความผิดการสั่งคืนแก่เจ้าของย่อมเป็นการขัดต่อกฎหมายในตัวและศาลจะสั่งริบก็มิได้ เพราะโจทก์มิได้ขอไว้เป็นการเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 892/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อาวุธปืนไม่มีทะเบียน: ศาลไม่คืนของกลางและไม่ริบ เนื่องจากฟ้องไม่ได้ขอริบและเป็นของผิดกฎหมาย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนไว้ในความครอบครอง และขอให้ศาลสั่งคืนของกลางแก่เจ้าของ ศาลจะสั่งคืนตามคำขอไม่ได้ เพราะปืนของกลางไม่มีทะเบียน ใครครอบครองย่อมมีความผิด การสั่งคืนแก่เจ้าของย่อมเป็นการขัดต่อกฎหมายในตัวและศาลจะสั่งริบก็มิได้ เพราะโจทก์มิได้ขอไว้เป็นการเกินคำขอ
of 210