พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,100 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐาน: วันเวลาเกิดเหตุต่างจากฟ้อง ย่อมทำให้พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรในระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายนแต่พยานโจทก์ทุกคนเบิกความว่าการกระทำผิดเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 11,12 มิถุนายน ดังนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานความผิดที่ปรากฏจากการพิจารณา แม้ฟ้องไปอีกฐานหนึ่ง ศาลลงโทษได้ตามความผิดที่พิสูจน์ได้
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายภริยาเจ้าทรัพย์มีบาดเจ็บขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามปล้นทรัพย์ตามมาตรา 301 และ 60 นั้นเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยมีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 254 ศาลก็ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 254 ได้(อ้างฎีกาที่ 494/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย แม้ข้อกล่าวหาชิงทรัพย์ไม่เป็นผล
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยสมคบกันกระทำการชิงทรัพย์โดยจำเลยใช้มีดฟันและเตะทำร้ายร่างกายผู้เสียหายถูกตามร่างกายหลายแห่งเป็นบาดแผลปรากฏตามใบชันสูตรทั้งนี้เพื่อให้เป็นความสะดวกที่จะลักทรัพย์แล้วจำเลยได้ชิงทรัพย์ผู้เสียหายไปหลายอย่าง ฯลฯ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 300,254,63 ดังนี้ แม้ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจะฟังได้เพียงว่าจำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บเท่านั้น ไม่ได้เอาทรัพย์ด้วยศาลก็ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 217/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานพยายามลักทรัพย์ vs. พยายามชิงทรัพย์ และการลงโทษกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย
ฟ้องว่าพยายามชิงทรัพย์ ศาลลงโทษฐานพยายามลักทรัพย์ได้
พยายามลักทรัพย์ ก็เป็นการลงมือกระทำการลักทรัพย์อันเป็นเหตุร้ายจึงลงโทษกักกันได้
พยายามลักทรัพย์ ก็เป็นการลงมือกระทำการลักทรัพย์อันเป็นเหตุร้ายจึงลงโทษกักกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์เวลากลางคืน: ศาลลงโทษตามมาตราที่เกี่ยวข้องได้ แม้การฟ้องไม่ระบุเวลาที่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ ระหว่างวันนั้น ถึงวันนั้น ซึ่งเป็นเวลา 20 วันเศษเวลาใดไม่ปรากฏชัดขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 288,293 ดังนี้ย่อมกินความตลอดทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ซึ่งเมื่อจำเลยรับสารภาพว่า ลักทรัพย์เขาไปในเวลากลางคืนแล้ว ศาลก็ย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนตามมาตรา 293 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจในทางทุจริตเรียกรับเงิน, สมคบกระทำผิด, ความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยเป็นตำรวจประจำการได้สมคบกับพวกแกล้งกล่าวหาว่าเขาทำผิดกฎหมาย แล้วนำตัวเขาไปเพื่อจะดำเนินคดี ระหว่างทางเขายอมให้เงิน 60 บาทแก่พวกจำเลยตามคำเรียกร้องของจำเลยกับพวก แล้วจำเลยก็ปล่อยเขากลับบ้านได้ ดังนี้จะถือว่าจำเลยกับพวกใช้กำลังทำร้ายหรือขู่เข็ญจะทำร้ายอันจะปรับบทเป็นความผิด ฐานชิงทรัพย์ไม่ได้ แต่อาจเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 136 ได้
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่ง สมคบกันใช้วาจาขู่เข็ญผู้เสียหายว่า จะจับกุมเพราะไม่เสียภาษีและไม่ออกใบรับเงินปิดอากรแสตมป์โดยประสงค์จะเรียกร้องบังคับเอาเงินเป็นผลประโยชน์รายได้ อันมิควรจะได้ตามกฎหมายผู้เสียหายได้ถูกจับกุมไป ระหว่างทางมีความกลัวจึงให้เงินแก่พวกจำเลย เพื่อให้จำเลยปล่อยตัวฯลฯ จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจประจำสถานีฯลฯ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 136,298 ดังนี้ พอถือได้ว่าเป็นฟ้องที่มีข้อหาในฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตด้วย ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 136 ได้
สำหรับผู้ที่มิได้เป็นเจ้าพนักงานนั้น ถ้าได้สมคบกับเจ้าพนักงานกระทำผิดตามมาตรา 136 แล้ว ก็มีโทษตามมาตรา 136 ได้ แต่ผิดเพียงฐานสมรู้
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่ง สมคบกันใช้วาจาขู่เข็ญผู้เสียหายว่า จะจับกุมเพราะไม่เสียภาษีและไม่ออกใบรับเงินปิดอากรแสตมป์โดยประสงค์จะเรียกร้องบังคับเอาเงินเป็นผลประโยชน์รายได้ อันมิควรจะได้ตามกฎหมายผู้เสียหายได้ถูกจับกุมไป ระหว่างทางมีความกลัวจึงให้เงินแก่พวกจำเลย เพื่อให้จำเลยปล่อยตัวฯลฯ จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจประจำสถานีฯลฯ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 136,298 ดังนี้ พอถือได้ว่าเป็นฟ้องที่มีข้อหาในฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตด้วย ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 136 ได้
สำหรับผู้ที่มิได้เป็นเจ้าพนักงานนั้น ถ้าได้สมคบกับเจ้าพนักงานกระทำผิดตามมาตรา 136 แล้ว ก็มีโทษตามมาตรา 136 ได้ แต่ผิดเพียงฐานสมรู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากพยายามฆ่า/ทำร้ายร่างกาย เป็นประมาท และการไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนและฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บสาหัสแต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำให้เขาเกิดบาดเจ็บสาหัสโดยประมาท ดังนี้ศาลจะลงโทษจำเลยฐานประมาทไม่ได้เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในฐานนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 833/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความขัดแย้งของวันเกิดเหตุในฟ้องและหลักฐาน ทำให้ไม่สามารถลงโทษจำเลยได้
เอกสารที่โจทก์ส่งติดมาพร้อมกับฟ้องนั้น เป็นส่วนหนึ่งของฟ้องหมดทั้งฉบับ
ฟ้องหาว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเมื่อวันที่ 8 แต่ตามรายงานชันสูตรบาดแผลที่โจทก์ส่งพร้อมกับฟ้องปรากฏว่า ผู้บาดเจ็บมีบาดแผลวันที่ 5 ดังนี้ย่อมขัดกันเองฟังไม่ได้ว่า จำเลยทำผิดตามวันที่โจทก์ฟ้อง แม้จำเลยจะรับสารภาพตามฟ้อง ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
ฟ้องหาว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเมื่อวันที่ 8 แต่ตามรายงานชันสูตรบาดแผลที่โจทก์ส่งพร้อมกับฟ้องปรากฏว่า ผู้บาดเจ็บมีบาดแผลวันที่ 5 ดังนี้ย่อมขัดกันเองฟังไม่ได้ว่า จำเลยทำผิดตามวันที่โจทก์ฟ้อง แม้จำเลยจะรับสารภาพตามฟ้อง ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดฐานวางเพลิง: การกระทำโดยประมาทไม่ถึงขั้นลงโทษ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานวางเพลิงโดยเจตนาแต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้เพลิงไหม้สวนยางของโจทก์ ดังนี้จะลงโทษจำเลยฐานประมาทไม่ได้ ต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏ แต่ยังคงความผิดเดิม ฟ้องไม่ตก
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้ตาย ตายโดยเจตนาฆ่าแต่ตามท้องสำนวนได้ความว่า ผู้ตายถูกแทงด้วยของแข็งแหลมดังนี้แม้จะไม่ได้ความชัดว่า ถูกแทงด้วยมีดดังโจทก์ระบุในฟ้อง ก็เป็นการถูกแทงเช่นเดียวกัน หาใช่เป็นกรณีข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับคำบรรยายฟ้อง อันจะทำให้ฟ้องตกไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ไม่