คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 192

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,100 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1555/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความต่างของข้อเท็จจริงในฟ้องกับทางพิจารณา: การลักกระบือ และการรับของโจร
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเป็นคนร้ายลักกระบือ 3 ตัวของซ. หรือรับกระบือนั้นไว้ โดยรู้ว่าเป็นของร้าย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า กระบือที่ถูกคนร้ายลักไปเป็นกระบือของ ซ.1ตัวอีก2ตัวเป็นของผู้อื่นฝากซ.เลี้ยงไว้ และกระบือ 2 ตัวที่จับได้จากจำเลยเป็นกระบือของผู้อื่นที่ฝาก ซ. ไว้ ดังนี้ จะว่าทางพิจารณาต่างกับฟ้องหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 62/2486)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1555/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์: ความแตกต่างระหว่างข้อเท็จจริงที่ฟ้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ในชั้นพิจารณา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเป็นคนร้ายลักกระบือ 3 ตัวของ ซ.หรือรับกระบือนั้นไว้ โดยรู้ว่าเป็นของร้าย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า กระบือที่ถูกคนร้ายลักไปเป็นกระบือของ ซ. 1 ตัว อีก 2 ตัวเป็นของผู้อื่นฝาก ซ.เลี้ยงไว้และกระบือ 2 ตัวที่จับได้จากจำเลยเป็นกระบือของผู้อื่นที่ฝากซ.ไว้ ดังนี้จะว่าทางพิจารณาต่างกับฟ้องหาได้ไม่
(อ้างฎีกาที่ 62/2486)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีลักทรัพย์: ความสอดคล้องของวันเวลาเกิดเหตุตามคำฟ้องและพยานหลักฐาน
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทำผิดคืนวันที่ 3 เมษายน 2491เวลากลางคืน พยานโจทก์ว่าเกิดเหตุคืนวันแรม 9 ค่ำ เดือน4 เวลาประมาณ 5 นาฬิกา รุ่งขึ้นเป็นวันแรม 10 ค่ำซึ่งตรงกับวันที่ 3 เมษายน ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา หาต่างกับฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย แม้ข้อเท็จจริงในการพิจารณาคดีแตกต่างจากที่ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จ. กับพวกฝ่ายหนึ่ง ย.กับพวกอีกฝ่ายหนึ่งต่างใช้ มีด ไม้ ครกแตก และกำลังกายวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ย. ถึงแก่ความตายโดย จ.ใช้มีดซุยแทงย. แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่า จ.ได้เข้าวิวาทต่อสู้กับจำเลยอื่นดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง แต่ฟ้องโจทก์กล่าวชัดแล้วว่า จ. ใช้มีดซุยแทงย.โดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย ยังได้อ้าง กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249มาเป็นบทลงโทษด้วย ดังนี้ จะว่าทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องไม่ได้ จึงลงโทษจ. ตามมาตรา 249 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1400/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นการพนันที่ได้รับอนุญาต แต่เล่นก่อนเวลาที่กำหนด ไม่ถือเป็นความผิด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเล่นการพนัน โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ทางพิจารณาได้ความว่า การเล่นการพนันรายนี้ได้รับอนุญาตแล้ว หากแต่เล่นก่อนเวลาที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์มิได้ประสงค์ให้ลงโทษจะลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องเป็นเหตุให้ยกฟ้องคดีอาญา
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำผิดวันที่ 12 พฤษภาคม 2491 เวลากลางคืน ตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 6 พยานโจทก์เบิกความว่าจำเลยทำผิดเมื่อวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 เวลากลางคืนตรงกับวันที่ 13 พฤษภาคม 2491 เวลากลางคืนดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องจึงต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง ทำให้ฎีกาไม่รับตามมาตรา 219
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยถือว่าทางพิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง ก็คือถือว่า ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยทำผิดตามฟ้องนั่นเอง เป็นการพิพากษาโดยอาศัยข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงที่ไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังข้อหา ดังนี้ คดีโจทก์ต้องห้ามฎีกาต่อไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีอาญาที่ศาลยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง ทำให้ฎีกาไม่รับ เพราะเป็นการพิพากษาโดยอาศัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยถือว่าทางพิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง ก็คือถือว่า ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยทำผิดตามฟ้องนั่นเอง เป็นการพิพากษาโดยอาศัยข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงที่ไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังข้อหา ดังนี้ คดีโจทก์ต้องห้ามฎีกาต่อไป ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความคลาดเคลื่อนวันเกิดเหตุจากความทรงจำของพยานไม่กระทบต่อการฟ้องคดี หากข้อเท็จจริงโดยรวมยังคงตรงกัน
พยานหลักฐานอื่นแสดงว่าจำเลยได้กระทำผิดในวันที่โจทก์หา แต่พยานโจทก์เบิกความถึงวันเกิดเหตุผิดไป 1 วันเพราะความหลงลืม เนื่องจากพยานเบิกความภายหลังวันเกิดเหตุหลายสิบวัน ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญา: วันเวลาผิดและรายละเอียดทรัพย์ไม่ชัดเจน
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2491 ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2491 ซึ่งเป็นเวลากลางคืนตามกฎหมาย ตามปฏิทินวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2491ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 3 แต่พยานเบิกความว่าการกระทำผิดเกิดขึ้นเมื่อวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 3 เวลากลางคืน 2.00 น. เศษ รุ่งเช้าเป็นวันขึ้น 8 ค่ำดังนี้ เป็นคนละคืนกับที่กล่าวในฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ไปรวมเป็นเงิน 6,045 บาท โดยไม่ปรากฏว่าทรัพย์นั้นเป็นอะไรบ้าง ทั้งบัญชีทรัพย์ก็ไม่มี ดังนี้ จำเลยย่อมเข้าใจข้อหาเกี่ยวกับทรัพย์นั้นไม่ได้ จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย (อ้างฎีกาที่ 931/2485)
of 210