คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 192

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,100 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการอาฆาตและการกระทำโดยตรง แม้พบผู้ตายโดยบังเอิญ
เดิมจำเลยต้องหาว่าชิงทรัพย์ ผู้ตายเป็นผู้ใหญ่บ้านได้จับจำเลยได้ในที่สุดศาลพิพากษาจำคุก จำเลยหลบหนีเรือนจำและเคยพูดอาฆาตผู้ตายไว้ วันเกิดเหตุผู้ตายเห็นจำเลยเดินลุยน้ำมา จึงร้องทักไป จำเลยจำเสียงผู้ตายได้จึงตรงเข้าแทงผู้ตายตามที่พูดอาฆาตไว้ ผู้ตายรักษาตัวอยู่ 21 วันก็ตาย ดังนี้ รูปคดีหาใช่เป็นเรื่องจำเลยแทงเพราะผู้ตายเข้าทำการจับกุมไม่ คดีไม่เข้าบทมาตรา250 ข้อ 2 ฐานฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งทำการตามหน้าที่ และจะลงโทษจำเลยตามมาตรา 250 ข้อ 3ฐานฆ่าคนตายโดยความพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมายก็ไม่ได้ เพราะแม้จำเลยจะแทงผู้ตายด้วยความพยาบาท ก็ขาดความพยายามโดยจำเลยมาพบผู้ตายเข้าในที่เกิดเหตุโดยบังเอิญ การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายโดยแรง จนทะลุถึงน้ำดี ประกอบกับจำเลยเคยพูดอาฆาตไว้ก่อนแล้ว ดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: เพียงรับทรัพย์ที่รู้ว่าได้มาจากการกระทำผิด ก็มีความผิดตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องที่เกิดเหตุรวม 2 ตำบล ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยได้กระทำผิดในตำบลหนึ่งนั้น ไม่เรียกว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง ลงโทษจำเลยได้
การรับของโจร ไม่จำต้องรับไว้จากคนร้ายที่ลักมาโดยตรง เพียงแต่รับไว้โดยรู้ว่าทรัพย์นั้นได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย ก็มีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 321 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายธนบัตรปลอม: ฟ้องไม่ชัดเจน ขอบเขตฟ้องไม่ครอบคลุมของกลาง ศาลไม่สามารถลงโทษได้
ฟ้องโจทก์ข้อ 1 ว่า จำเลยสมคบกันมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจำหน่าย 40 ฉบับราคา 400 บาท และได้จำหน่ายธนบัตรจำนวนนั้นให้แก่นายดีไปทั้งหมด ข้อ 2 กล่าวว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้และได้ธนบัตรของกลาง 35ฉบับเท่าที่ค้นได้ และเหลือจำหน่ายในหีบในห้องนอนของจำเลย ขอให้ลงโทษจำเลย ดังนี้คำบรรยายฟ้องในข้อ 1 ไม่กินถึงธนบัตรของกลาง 35 ฉบับในข้อ 2 และเมื่อโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงองค์ความผิดประกอบประการใดในฟ้องข้อ 2 จึงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดเกี่ยวกับธนบัตรของกลาง 35ฉบับนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานทำร้ายร่างกายแม้ฟ้องกล่าวถึงการวิวาท ศาลยึดตามการกระทำที่จำเลยรับสารภาพ
แม้ฟ้องจะกล่าวว่าจำเลยสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันก็ดีแต่ก็ได้บรรยายโดยชัดแจ้งว่า จำเลยที่ 1 ได้ใช้มีดพับทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 2 ที่ 3 ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 ได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานทำร้ายร่างกายแม้ฟ้องกล่าวถึงการวิวาท ศาลลงโทษตามมาตรา 254 ได้
แม้ฟ้องจะกล่าวว่าจำเลยสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันก็ดี แต่ก็ได้บรรยายโดยชัดแจ้งว่า จำเลยที่ 1 ได้ใช้มีดพับทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 2 ที่ 3 ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 ได้ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความขัดแย้งคำให้การพยาน การงดสืบพยาน และการพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า วันเกิดเหตุคือคืนวันที่ 5-6 พ.ค. 91(ตรงกับวันแรม 11-12 ค่ำ เดือน 5) พยานโจทก์เบิกความว่าวันเกิดเหตุคือ คืนวันแรม13-14ค่ำเดือน5โจทก์จึงส่งคำให้การชั้นสอบสวนของนายนุ้ยพยานโจทก์เป็นพยานต่อศาล ซึ่งในชั้นสอบสวนนายนุ้ยเบิกความว่าเป็นวันที่ 5-6 พ.ค. 91 และจะขอสืบเจ้าพนักงานสอบสวนว่านายนุ้ยพยานโจทก์ได้ให้การไว้ดังนั้นจริง ดังนี้ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานโจทก์ต่อไปและพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะถึงสืบไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะไม่เป็นหลักฐานคำพยานที่จะยืนยันได้ว่าคำเบิกความของพยานในศาลนั้นไม่ตรงกับความจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์เมื่อทรัพย์สินยังอยู่ในความครอบครองของเจ้าของ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยยักยอกเก็บของตก. ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยลักทรัพย์ต้องยกฟ้อง โจทก์
เจ้าทรัพย์กับจำเลยช่วยกันเข็นเรือ อยู่ห่างกัน 1 ศอกไม่มีใครคั่นขณะเข็นเรืออยู่นั้น เงินของเจ้าทรัพย์ตกจากกระเป๋าเสื้อชั้นในลงมาจำเลยก็หยิบเอาไปเสียในทันใดนั้นเอง ดังนี้ ขณะที่จำเลยหยิบธนบัตรขึ้นมานั้นธนบัตรยังหาได้ขาดจากความครอบครองของเจ้าทรัพย์โดยเด็ดขาดไม่ เมื่อเจ้าทรัพย์ยังครอบครองอยู่การที่จำเลยหยิบเอาไป ก็มีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ฟ้องต้องมีเหตุอันควร: ฟ้องผิดวัน จำเลยเสียเปรียบ
พฤติการณ์ที่ถือว่า ไม่มีเหตุอันควรที่โจทก์จะขอแก้ฟ้องได้ ตามมาตรา 163 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดวันทางจันทรคติไม่ทำให้ฟ้องตก หากวันสุริยคติถูกต้องและจำเลยให้การยืนยันวันจันทรคติที่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องหาจำเลยอ้างวันทางสุริยคติถูกต้อง เป็นแต่เทียบวันทางจันทรคติผิดไป และจำเลยให้การเรื่องวันจันทรคติถูกต้องตรงกับความจริงแล้ว จะถือเป็นเหตุยกฟ้องหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำผิด เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2489 ตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย ทางพิจารณาพยานให้การว่าวันเกิดเหตุที่โจทก์กล่าวในฟ้องตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือนยี่ และจำเลยก็ให้การเรื่องวันทางจันทรคติตรงกับความจริง ดังนี้ ไม่ถือว่าฟ้องผิดวัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 572/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุเวลาในฟ้องอาญา: แม้ไม่ระบุกลางวัน/กลางคืน ฟ้องก็สมบูรณ์หากระบุเวลาชัดเจน
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดเวลา 18.00 นาฬิกา โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นเวลากลางวัน หรือ กลางคืน ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
of 210