พบผลลัพธ์ทั้งหมด 128 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1338/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคำร้องเรื่องการกระทำอันไม่เป็นธรรมของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ การนำสืบข้อเท็จจริงในชั้นศาล และหน้าที่ในการนำสืบหักล้าง
การพิจารณาคำร้องเรื่องการกระทำอันไม่เป็นธรรมของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯมาตรา 41,121,124 ต้องปรับด้วยมาตรา 43 มิใช่มาตรา 28ซึ่งเป็นการพิจารณาข้อพิพาทของผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานพระราชบัญญัติ ญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 43 เป็นบทบัญญัติให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารสำหรับการปฏิบัติตามหน้าที่เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงสำหรับการวินิจฉัยชี้ขาดตาม มาตรา41 แต่มาตราทั้งสองก็หาได้บัญญัติว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ มาตามมาตรา 43 ถือเป็นยุติไม่และเมื่อผู้กล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวหานำคดีไปสู่ศาลตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา 8 วรรคท้ายแล้วคู่ความย่อมนำสืบข้อเท็จจริงได้ทุกอย่างทุกประการเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์และให้ได้ความแจ้งชัดในข้อเท็จจริงแห่งคดีตามความต้องการ ของพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯมาตรา 44,45 การสืบพยานในคดีแรงงานมีข้อแตกต่างจากคดีแพ่งสามัญโดยพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 45 วรรคสองให้ศาลแรงงานเป็นผู้ซักถามพยาน ตัวความหรือทนายความจะซักถามพยานได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากศาลแรงงาน การที่โจทก์นำสืบข้อเท็จจริงทั้งหลายในคดีได้ ย่อมถือได้ว่าศาลแรงงานกลางอนุญาตแล้ว แม้ว่าโจทก์จะมิได้นำสืบข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ โจทก์ก็นำสืบข้อเท็จจริงในชั้นพิจารณาต่อศาลได้ และจำเลยมีหน้าที่นำสืบหักล้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4490/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบภายหลัง การถามค้าน และขอบเขตการรับฟังพยานหลักฐานในคดีเช็ค
จำเลยซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเบิกความว่าได้สั่งจ่ายเช็คชำระค่ามัดจำซื้อที่ดิน 200,000 บาท ให้แก่ ส.แทนโจทก์ไป และตอบคำถามด้านทนายโจทก์ว่าจำเลยไม่เคยได้รับเงินจากโจทก์ให้ไปซื้อที่ดินนี้ และว่าโจทก์ไม่เคยจ่ายเงินค่าซื้อที่ดินบ่อทรายดังกล่าวให้ ส.เลย เช่นนี้ พอถือได้ว่าโจทก์ได้ถามค้านจำเลยในเรื่องที่ว่าเงินที่จ่ายตามเช็คของจำเลยให้ ส.นั้นเป็นเงินของโจทก์แล้ว โจทก์จึงนำสืบภายหลังได้ว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน 200,000 บาท ให้จำเลยนำเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยเพื่อให้ ส.สามารถนำเช็คของจำเลยมารับเงินได้หาเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4490/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเช็คและการนำสืบภายหลังเกี่ยวกับแหล่งเงินทุนของเช็ค ศาลพิจารณาจากพยานหลักฐานและคำถามค้าน
จำเลยซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเบิกความว่าได้สั่งจ่ายเช็คชำระค่ามัดจำซื้อที่ดิน 200,000 บาทให้แก่ ส. แทนโจทก์ไป และตอบคำถามค้านทนายโจทก์ว่าจำเลยไม่เคยได้รับเงินจากโจทก์ให้ไปซื้อที่ดินนี้ และว่าโจทก์ไม่เคยจ่ายเงินค่าซื้อที่ดินบ่อทรายดังกล่าวให้ ส. เลย เช่นนี้พอถือได้ว่าโจทก์ได้ถามค้านจำเลยในเรื่องที่ว่าเงินที่จ่ายตามเช็คของจำเลยให้ ส. นั้น เป็น เงิน ของโจทก์แล้วโจทก์จึงนำสืบภายหลังได้ว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน200,000 บาท ให้จำเลยนำเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยเพื่อให้ส. สามารถนำเช็คของจำเลยมารับเงินได้ หาเป็นการต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4490/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเช็คและการพิสูจน์แหล่งที่มาของเงินค่ามัดจำซื้อที่ดิน ศาลฎีกาพิจารณาจากพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่สอดคล้องกัน
จำเลยซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเบิกความว่าได้สั่งจ่ายเช็คชำระค่ามัดจำซื้อที่ดิน 200,000 บาทให้แก่ ส. แทนโจทก์ไป และตอบคำถามค้านทนายโจทก์ว่าจำเลยไม่เคยได้รับเงินจากโจทก์ให้ไปซื้อที่ดินนี้ และว่าโจทก์ไม่เคยจ่ายเงินค่าซื้อที่ดินบ่อทรายดังกล่าวให้ ส. เลย เช่นนี้พอถือได้ว่าโจทก์ได้ถามค้านจำเลยในเรื่องที่ว่าเงินที่จ่ายตามเช็คของจำเลยให้ ส. นั้น เป็น เงิน ของโจทก์แล้วโจทก์จึงนำสืบภายหลังได้ว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน200,000 บาท ให้จำเลยนำเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยเพื่อให้ส. สามารถนำเช็คของจำเลยมารับเงินได้ หาเป็นการต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2599/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังเอกสารประกอบพยานหลักฐาน การนำสืบ และการคัดค้านพยาน
จำเลยเป็นฝ่ายนำสืบก่อน ขณะจำเลยเบิกความโจทก์มิได้นำเอกสารซึ่งโจทก์อ้างว่าจำเลยเป็นผู้ทำขึ้นเองมาถามค้านจำเลยไว้เลย เมื่อตัวโจทก์เบิกความถึงและอ้างส่งเอกสารจำเลยก็คัดค้านว่าศาลไม่ควรรับฟังเอกสารฉบับนี้ เพราะโจทก์ไม่ได้ซักค้านในขณะที่จำเลยเข้าเบิกความ จำเลยไม่มีโอกาสอธิบาย ดังนี้ศาลไม่รับฟังเอกสารดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2599/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐาน: เอกสารที่ไม่ซักค้านในชั้นสืบพยานย่อมไม่รับฟัง
จำเลยเป็นฝ่ายนำสืบก่อน ขณะจำเลยเบิกความโจทก์มิได้นำเอกสารซึ่งโจทก์อ้างว่าจำเลยเป็นผู้ทำขึ้นเองมาถามค้านจำเลยไว้เลย เมื่อตัวโจทก์เบิกความถึงและอ้างส่งเอกสารจำเลยก็คัดค้านว่าศาลไม่ควรรับฟังเอกสารฉบับนี้ เพราะโจทก์ไม่ได้ซักค้านในขณะที่จำเลยเข้าเบิกความ จำเลยไม่มีโอกาสอธิบาย ดังนี้ศาลไม่รับฟังเอกสารดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานเพิ่มเติมและการปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญา การผิดสัญญาเนื่องจากไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนด
ในวันที่โจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนนำพยานเข้าเบิกความ จำเลยกับทนายจำเลยไม่ได้มาศาลโดยทนายจำเลยมอบฉันทะ ให้ เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและให้โจทก์สืบพยานไปฝ่ายเดียว ต่อมาจำเลยได้นำสืบ เปลี่ยนแปลงแก้ไข คำของพยานโจทก์ที่นำสืบไว้ดังกล่าว เช่นนี้ เป็นเรื่องทนายจำเลย ไม่มีโอกาสซักค้านพยานโจทก์ มิใช่ทนายจำเลยไม่ถามค้านเพื่อเอาเปรียบ ในเชิงคดีเมื่อ เรื่องที่จำเลยนำสืบนั้นตรงตามข้อต่อสู้ในคำให้การ ซึ่งเป็น ประเด็นข้อพิพาทในคดีแล้ว ข้อนำสืบของจำเลยจึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ทั้งในวรรคสามของมาตรานี้ยังให้ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจรับฟังคำพยานเช่น ว่านี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมได้อีกด้วย
สัญญาได้กำหนดเวลาให้โจทก์ปฏิบัติการชำระหนี้แก่จำเลยไว้ชัดแจ้งแล้ว ไม่มีระบุไว้ในข้อใดให้โจทก์ต้องสอบถามจำเลยก่อนชำระหนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ตาม สัญญาเพราะโจทก์ ไม่อาจกระทำการชำระหนี้ได้ภายในเวลาที่ กำหนดไว้ดังกล่าว โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา
สัญญาได้กำหนดเวลาให้โจทก์ปฏิบัติการชำระหนี้แก่จำเลยไว้ชัดแจ้งแล้ว ไม่มีระบุไว้ในข้อใดให้โจทก์ต้องสอบถามจำเลยก่อนชำระหนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ตาม สัญญาเพราะโจทก์ ไม่อาจกระทำการชำระหนี้ได้ภายในเวลาที่ กำหนดไว้ดังกล่าว โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานหลังสืบพยานไปฝ่ายเดียว และการผิดสัญญาจากการไม่ปฏิบัติตามกำหนดเวลา
ในวันที่โจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนนำพยานเข้าเบิกความจำเลยกับทนายจำเลยไม่ได้มาศาลโดยทนายจำเลยมอบฉันทะ ให้ เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและให้โจทก์สืบพยานไปฝ่ายเดียวต่อมาจำเลยได้นำสืบ เปลี่ยนแปลงแก้ไข คำของพยานโจทก์ที่นำสืบไว้ดังกล่าวเช่นนี้ เป็นเรื่องทนายจำเลย ไม่มีโอกาสซักค้านพยานโจทก์มิใช่ทนายจำเลยไม่ถามค้านเพื่อเอาเปรียบ ในเชิงคดีเมื่อ เรื่องที่จำเลยนำสืบนั้นตรงตามข้อต่อสู้ในคำให้การ ซึ่งเป็น ประเด็นข้อพิพาทในคดีแล้วข้อนำสืบของจำเลยจึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ทั้งในวรรคสามของมาตรานี้ยังให้ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจรับฟังคำพยานเช่น ว่านี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมได้อีกด้วย สัญญาได้กำหนดเวลาให้โจทก์ปฏิบัติการชำระหนี้แก่จำเลยไว้ชัดแจ้งแล้ว ไม่มีระบุไว้ในข้อใดให้โจทก์ต้องสอบถามจำเลยก่อนชำระหนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ตาม สัญญาเพราะโจทก์ ไม่อาจกระทำการชำระหนี้ได้ภายในเวลาที่ กำหนดไว้ดังกล่าว โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยาน & สิทธิจำเลยในการนำสืบพยานในคดีอาญา
พยานที่โจทก์อ้างมาเองเป็นสมุห์บัญชีธนาคารเบิกความเกี่ยวกับงานในหน้าที่ที่พยานปฏิบัติอยู่ แม้จะไม่เป็นประโยชน์แก่โจทก์ก็ไม่มีข้อต้องห้ามมิให้ศาลรับฟังคำเบิกความของพยานดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 95 แต่อย่างใด
ในคดีอาญา จำเลยมีอำนาจนำพยานเข้าสืบพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของจำเลยได้โดยไม่จำต้องซักค้านพยานโจทก์ในข้อเท็จจริงที่จำเลยจะนำสืบพยานต่อไปได้
ในคดีอาญา จำเลยมีอำนาจนำพยานเข้าสืบพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของจำเลยได้โดยไม่จำต้องซักค้านพยานโจทก์ในข้อเท็จจริงที่จำเลยจะนำสืบพยานต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2549/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานข้ามฝ่าย - การไม่คัดค้านพยานคู่ความในชั้นสืบพยานทำให้ไม่อาจยกขึ้นเป็นเหตุโต้แย้งภายหลังได้
จำเลยตอบคำถามค้านว่า เคยขายไม้ซุงให้ผู้อื่น ในช่วงที่ทำสัญญาขายไม้ให้โจทก์ พยานไม่เคยขายไม้ให้ใครคำเบิกความดังกล่าวพอถือได้ว่าโจทก์ได้ถามค้านพยานจำเลยในเรื่องจำเลยกู้เงินโจทก์ไปทำไม้เสาเข็มส่งผู้สร้างหมู่บ้านจัดสรร ไม่เกี่ยวกับเงินวางมัดจำตามสัญญาซื้อไม้
ตอนที่โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบพยานภายหลังนำพยานเข้าสืบไม่ปรากฏว่าจำเลยได้คัดค้านการนำสืบพยานของโจทก์เสียในขณะที่พยานเบิกความตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา89 วรรค 2จำเลยจะมาคัดค้านภายหลังไม่ได้
ตอนที่โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบพยานภายหลังนำพยานเข้าสืบไม่ปรากฏว่าจำเลยได้คัดค้านการนำสืบพยานของโจทก์เสียในขณะที่พยานเบิกความตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา89 วรรค 2จำเลยจะมาคัดค้านภายหลังไม่ได้