พบผลลัพธ์ทั้งหมด 160 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากการเข้าใจผิดและมีปัจจัยลดโทษจากความชราและบาดแผลของผู้กระทำ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1,2 ฝ่ายหนึ่งสมคบกันใช้ปืนและหอกทำร้ายผู้ตายและจำเลยที่ 3 โดยเจตนาฆ่าจำเลยที่ 3 กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งสมคบกันใช้กำลังกายและมีดทำร้ายจำเลยที่ 1 และ 2 ฟ้องของโจทก์เช่นนี้เป็นฟ้องที่ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้ ในเมื่อปรากฏตามทางพิจารณาว่า จำเลยที่ 1 ใช้หอกแทงผู้ตายถึงแก่ความตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การช่วยเหลือหลังการลักทรัพย์: ไม่ถือเป็นความร่วมมือในการกระทำผิด
คนร้ายลักโคจูงมาระหว่างทางพบจำเลย ๆ ช่วยคนร้ายไล่ต้อนโคโดยรู้ว่าเป็นโคของผู้อื่นและเมื่อพวกเจ้าทรัพย์มาพบก็วิ่งหนีไปด้วยกัน ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้สมคบหรือสมรู้กับคนร้ายในการลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1947/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์โค: การกระทำที่เชื่อมโยงถึงการชำแหละเนื้อสัตว์
ใช้ปืนยิงโคของผู้อื่นในตอนบ่ายแล้วตอนเย็นจึงมาชำแหละเอาเนื้อโคย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์แล้ว ส่วนผู้ที่มาร่วมชำแหละเนื้อโคด้วยในตอนหลังยังไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายบทจากการกระทำต่อเนื่องในที่เกิดเหตุเดียวกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ ก.ม.อาญา ม.73 แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่าจะต้องเพิ่มโทษจำเลยตาม ม.72 ศาลก็เพิ่มโทษจำเลยตาม ม.72 ได้ไม่เป็นการเกินคำขอ
จำเลยทำการชิงทรัพย์และได้ทำให้ทรัพย์ของเจ้าของทรัพย์เสียหายด้วย เมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเกิดขึ้นในถานที่เดียวกันในเวลาติดต่อเนื่องกันด้วยเจตนามุ่งหวังในทรัพย์ไม่ขาดตอนกันเช่นนี้การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นความผิดหลายบทไม่ใช่หลายกะทง.
จำเลยทำการชิงทรัพย์และได้ทำให้ทรัพย์ของเจ้าของทรัพย์เสียหายด้วย เมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเกิดขึ้นในถานที่เดียวกันในเวลาติดต่อเนื่องกันด้วยเจตนามุ่งหวังในทรัพย์ไม่ขาดตอนกันเช่นนี้การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นความผิดหลายบทไม่ใช่หลายกะทง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุกรุกเคหสถานและการลักทรัพย์: ศาลฎีกาพิจารณาจากพฤติการณ์และเจตนาของผู้กระทำผิด
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจเข้าไปในเคหะสถานที่อยู่อาศัยของนางสินโดยเจ้าของมิได้อนุญาตให้เข้าไปแล้วลักเอาสร้อยคอ 1 เส้นราคา 600 บาท ของนางสินไปโดยใช้กริยาฉกฉวยพาหนีไปต่หน้า ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.294,297,60
ดังนี้แม้ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยยืนเมาสุราแล้วถือวิสาสะเข้าไปลวนลามเจ้าทรัพย์จำเลยไม่มีเถยยะจิตต์คิดจะเอาทรัพย์แต่อย่างใด แต่จำเลยรับว่าได้เข้าไปในเคหะของเจ้าทรัพย์จริงและไม่ได้ฟังว่าเจ้าทรัพย์เรียกจำเลยเข้าไปคุยด้วย ก็ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตาม ม.329(2) ได้.
ดังนี้แม้ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยยืนเมาสุราแล้วถือวิสาสะเข้าไปลวนลามเจ้าทรัพย์จำเลยไม่มีเถยยะจิตต์คิดจะเอาทรัพย์แต่อย่างใด แต่จำเลยรับว่าได้เข้าไปในเคหะของเจ้าทรัพย์จริงและไม่ได้ฟังว่าเจ้าทรัพย์เรียกจำเลยเข้าไปคุยด้วย ก็ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตาม ม.329(2) ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานทางอ้อมพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์ และการขาดการร้องทุกข์ในความผิดฐานฉ้อโกง
ที่จะมีความผิดฐานลักทรัพย์นั้นแม้ไม่มีประจักษ์พยานเห็นว่าจำเลยเป็นคนร้ายเข้าไปลักกระบือแต่ได้ความว่ากระบือหายเวลาค่อนแจ้ง กำนันจับจำเลยได้ขณะขี่กระบือในวันรุ่งขึ้นเวลาบ่าย จำเลยก็รับว่าไม่รู้จักเจ้าทรัพย์แม้บ้านก็ไม่รู้จัก ครั้นจำเลยได้ประกันตัวไปจากอำเภอเพื่อนำหลักฐานมาแสดง จำเลยก็ตรงไปหาเจ้าทรัพย์ถูก ซ้ำยังหลอกลวงว่าจะไปไถ่กระบือคืนให้ ๆ เจ้าทรัพย์มอบตั๋วพิมพ์รูปพรรณไปพฤติการณ์ดังนี้เป็นเหตุแวดล้อมให้เห็นว่าจำเลยนั่นเองเป็นผู้เข้าไปลักกระบือรายนี้
อันความผิดฐานฉ้อโกงนั้นแม้ในฟ้องจะกล่าวว่า เจ้าทุกข์ได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานสอบสวนจัดการดำเนินคดีแก่จำเลยก็ดีแต่เวลาโจทก์นำสืบไม่ปรากฎว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงาน ขอให้ดำเนินคดีในความผิดฐานี้เลย ทั้งหลักฐานการร้องทุกข์ก็ไม่ปรากฎฉนั้นจะฟังว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีแก่จำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงยังไม่ได้
อันความผิดฐานฉ้อโกงนั้นแม้ในฟ้องจะกล่าวว่า เจ้าทุกข์ได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานสอบสวนจัดการดำเนินคดีแก่จำเลยก็ดีแต่เวลาโจทก์นำสืบไม่ปรากฎว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงาน ขอให้ดำเนินคดีในความผิดฐานี้เลย ทั้งหลักฐานการร้องทุกข์ก็ไม่ปรากฎฉนั้นจะฟังว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีแก่จำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง: การกระทำของลูกจ้างที่ได้รับมอบหมายดูแลไม้ซุงแล้วลักทรัพย์
จำเลยมีหน้าที่เฝ้าไม้ซุงแล้วถูกใช้ให้คุมแพซุงล่องลงมาระหว่างทางจำเลยได้ลักไม้ซุงที่คุมไป จำเลยย่อมมีผิดฐานลักทรัพย์ของนายจ้าง เพราะผู้อื่นเป็นผู้มีหน้าที่ตรวจควบคุมดูแลไม้ที่ล่องโดยตรง ไม่ใช่หน้าที่ของจำเลยจำเลยไม่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลรักษาหรือจัดการหรือใช้สอยโดยฉะเพาะในการนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไล่ติดตามและจับสัตว์ของผู้อื่นเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์ แม้จะไม่ได้ครอบครองต่อ
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยไล่ติดตามจับเอาโคของเจ้าทรัพย์ไปห่างจากทำเลที่เลี้ยงโคของเจ้าทรัพย์เพียง 5 เส้นเศษจำเลยไม่ได้รับโคไว้ต่อจากผู้อื่น จึงมีผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำฐานลักทรัพย์ แม้ระยะเวลาพ้นโทษก่อนหน้าเกิน 5 ปี ศาลมีอำนาจพิจารณาจากพฤติการณ์
จำเลยต้องโทษฐานลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้งตาม ม. 294 และ ม. 293 แม้ครั้งหลังจะเนิ่นนานเกิน 5 ปี จึงมาทำผิดฐานลักทรัพย์ตาม ม. 294 ในคดีนี้ ศาลก็ถือว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้าย และลงโทษกักกันจำเลย
ศาลชั้นต้นจำคุก 1 ปี ไม่ลงโทษกักกัน ศาลอุทธรณืแก้เฉพาะให้ส่งไปกักกันมีกำหนด 3 ปี จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
ศาลชั้นต้นจำคุก 1 ปี ไม่ลงโทษกักกัน ศาลอุทธรณืแก้เฉพาะให้ส่งไปกักกันมีกำหนด 3 ปี จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างของสถานที่เกิดเหตุในฟ้อง กับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ศาลพิจารณาจากพยานหลักฐาน
พฤติการณ์ที่ถือว่าข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดเหตุต่างกับฟ้อง