พบผลลัพธ์ทั้งหมด 93 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินชายตลิ่งสาธารณสมบัติ vs. การรอนสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดิน
โจทก์ซื้อที่ดิน(ที่มือเปล่า)จากผู้อื่น ด้านยาวทิศใต้จดถนนหลวงด้านกว้างทิศตะวันออกจดคลอง แล้วให้จำเลยเช่าโดยระบุว่า เช่าเพื่อปลูกอาศัย จำเลยใช้ที่ของโจทก์ทำคอกเป็ดและเลี้ยงเป็ด แต่ปลูกโรงเรือนอยู่ในที่ดินต่อกับเขตที่ของโจทก์ออกไปทางทิศตะวันออก เป็นที่ซึ่งน้ำในลำคลองท่วมถึงเป็นปกติเกือบตลอดปี ที่ซึ่งจำเลยปลูกโรงเรือนนี้ย่อมเป็นที่ชายตลิ่งสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามมาตรา 1304 ไม่ใช่ที่งอกริมตลิ่งตามมาตรา 1308 แม้โจทก์จะได้ครอบครองที่รายนี้มา 10 ปีเศษแล้ว แต่เมื่อตรงที่จำเลยปลูกโรงเรือนเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโจทก์ก็จะอ้างสิทธิครอบครองว่าเป็นของตนหาได้ไม่
แม้โรงเรือนของจำเลยจะไม่บังที่ดินของโจทก์ด้านถนนหลวง แต่ก็ปลูกอยู่ในที่ชายตลิ่งด้านที่ที่ดินโจทก์ติดริมคลอง เป็นที่กีดขวางระหว่างที่ดินของโจทก์กับคลองทำให้ที่ดินของโจทก์ด้านนั้นถูกริดรอนความสะดวกไปบ้างโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยให้รื้อถอนโรงเรือนไปเสียได้ตามมาตรา 1337
โจทก์มุ่งหมายเรียกค่าเสียหายเฉพาะที่ขาดประโยชน์ที่ควรได้จากการเช่า เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อโรงเรือนอย่าให้ปิดบังกีดขวางหน้าที่ดินของโจทก์ โดยมิใช่เหตุเพราะผิดสัญญาเช่า ศาลก็ไม่บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายด้วย
แม้โรงเรือนของจำเลยจะไม่บังที่ดินของโจทก์ด้านถนนหลวง แต่ก็ปลูกอยู่ในที่ชายตลิ่งด้านที่ที่ดินโจทก์ติดริมคลอง เป็นที่กีดขวางระหว่างที่ดินของโจทก์กับคลองทำให้ที่ดินของโจทก์ด้านนั้นถูกริดรอนความสะดวกไปบ้างโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยให้รื้อถอนโรงเรือนไปเสียได้ตามมาตรา 1337
โจทก์มุ่งหมายเรียกค่าเสียหายเฉพาะที่ขาดประโยชน์ที่ควรได้จากการเช่า เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อโรงเรือนอย่าให้ปิดบังกีดขวางหน้าที่ดินของโจทก์ โดยมิใช่เหตุเพราะผิดสัญญาเช่า ศาลก็ไม่บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: การฟ้องแบ่งทรัพย์สินเดิมที่เคยฟ้องแล้ว แม้จะแยกเป็นส่วนของที่งอก ก็ถือเป็นฟ้องซ้ำ
ก่อนฟ้องคดีก่อน โจทก์ ทราบอยู่แล้วว่าที่ดินพิพาทมีที่งอก ครั้นเวลาโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีก่อน ฟ้องขอแบ่งเพียงที่ดินภายในโฉนด ไม่ได้ฟ้องขอแบ่งที่งอกด้วย เหตุที่ฟ้องอ้างว่า ที่พิพาทเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับนางเปลื้องผู้ตายซึ่งเป็นมารดาจำเลย ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดไปแล้ว ต่อมา โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีหลัง ขอแบ่งที่งอกอีกอ้างว่าเป็นสินสมรสเช่นคดีก่อน ถือว่าฟ้องคดีหลังเป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: การฟ้องขอแบ่งที่งอกหลังเคยฟ้องขอแบ่งที่ดินเดิมแล้ว แม้ไม่ได้ระบุในฟ้องเดิม
ก่อนฟ้องคดีก่อน โจทก์ทราบอยู่แล้วว่าที่ดินพิพาทมีที่งอกครั้นเวลาโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีก่อน ฟ้องขอแบ่งเพียงที่ดินภายในโฉนดไม่ได้ฟ้องขอแบ่งที่งอกด้วยเหตุที่ฟ้องอ้างว่า ที่พิพาทเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับนางเปลื้องผู้ตายซึ่งเป็นมารดาจำเลย ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดไปแล้ว ต่อมา โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีหลังขอแบ่งที่งอกอีกอ้างว่าเป็นสินสมรสเช่นคดีก่อนถือว่าฟ้องคดีหลังเป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินงอกใหม่: การครอบครองปรปักษ์เริ่มต้นเมื่อใด?
ก่อนเป็นที่งอก ที่พิพาทเป็นที่น้ำท่วมถึงเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ต่อมาที่พิพาทเริ่มเป็นของจำเลยโดยเป็นที่งอกหน้าที่ดินของจำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 1308 เมื่อ 3 ปีมานี้ การที่โจทก์ครอบครองปรปักษ์ ต่อที่ดินของจำเลยดั่งกล่าวนี้เพียง 3 ปี โจทก์ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินงอกริมตลิ่ง: การครอบครองปรปักษ์ต้องเริ่มนับเมื่อที่ดินนั้นเป็นของเอกชนแล้ว
ก่อนเป็นที่งอก ที่พิพาท เป็นที่น้ำท่วมถึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินต่อมาที่พิพาทเริ่มเป็นของจำเลยโดยเป็นที่งอกหน้าที่ดินของจำเลยตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1308เมื่อ 3 ปีมานี้ การที่โจทก์ครอบครองปรปักษ์ต่อที่ดินของจำเลยดังกล่าวนี้เพียง 3 ปีโจทก์ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองร่วมกันในที่ดินที่งอก แม้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเดิม หากมีการแบ่งแยกและใช้สิทธิร่วมกัน
แม้ที่พิพาทจะเป็นที่งอกของที่ดิน ที่มีโฉนดอันจำต้องตกเป็นสิทธิของจำเลยตามกฎหมายในเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่มีโฉนดนั้นให้แก่จำเลยก็จริง แต่ถ้าที่พิพาทที่เป็นที่งอกนั้น ได้แบ่งแยกออกเป็นส่วนสัดจนได้รังวัดเพื่อออกโฉนดและได้รับเลขที่ดินต่างหากแล้วก่อนมีการโอนที่มีโฉนดเดิมให้แก่จำเลยแต่ผู้เดียว และทั้งโจทก์จำเลยก็เคยครอบครองร่วมกันมาก่อนและยังใช้สิทธิครอบครองที่พิพาทร่วมกันต่อมาภายหลัง โอนที่มีโฉนดเช่นนี้ ต้องถือว่า โจทก์จำเลยมีสิทธิครอบครองร่วมกันในที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองร่วมกันในที่ดินที่งอก แม้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเดิม
แม้ที่พิพาทจะเป็นที่งอกของที่ดินที่มีโฉนดอันจำต้องตกเป็นสิทธิของจำเลยตามกฎหมายในเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่มีโฉนดนั้นให้แก่จำเลยก็จริง แต่ถ้าที่พิพาทที่เป็นที่งอกนั้น ได้แบ่งแยกออกเป็นส่วนสัดจนได้รังวัดเพื่อออกโฉนดและได้รับเลขที่ดินต่างหากแล้วก่อนมีการโอนที่มีโฉนดเดิมให้แก่จำเลยแต่ผู้เดียว และทั้งโจทก์จำเลยก็เคยครอบครองร่วมกันมาก่อนและยังใช้สิทธิครอบครองที่พิพาทร่วมกันต่อมาภายหลังโอนที่มีโฉนดเช่นนี้ ต้องถือว่า โจทก์จำเลยมีสิทธิครอบครองร่วมกันในที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่งอกริมตลิ่งต้องเกิดตามธรรมชาติ ไม่ใช่จากการถมที่สาธารณะสมบัติ
ที่งอกริมตลิ่งตามความหมายของมาตรา 1308 แพ่ง ป.พ.พ.คือที่งอกตามธรรมชาติ ไม่ใช่เป็นที่ดินซึ่งได้ถมขึ้นในที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน
(อ้างฎีกา 534/2485)
(อ้างฎีกา 534/2485)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่งอกริมตลิ่งตามธรรมชาติ แตกต่างจากที่ดินถมในสาธารณสมบัติ
ที่งอกริมตลิ่งตามความหมายของมาตรา 1308 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คือที่งอกตามธรรมชาติ ไม่ใช่เป็นที่ดินซึ่งได้ถมขึ้นในที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน(อ้างฎีกาที่ 534/2485)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินงอกริมตลิ่ง: กรรมสิทธิ์เป็นของเจ้าของที่ดินเดิม ครอบครองปรปักษ์ต้อง 10 ปี
ที่ดินซึ่งมีโฉนดมีเจ้าของกรรมสิทธิ์เกิดที่งอกริมตลิ่งออกไป ที่งอกใหม่นั้นย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินโฉนดแปลงนั้น ผู้ที่อ้างว่าเจ้าครอบครองปรปักษ์จะต้องครอบครองที่งอกริมตลิ่งนั้นเป็นเวลาสิบปีจึงจะได้กรรมสิทธิ์