พบผลลัพธ์ทั้งหมด 93 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินงอกริมตลิ่งเป็นกรรมสิทธิ์เจ้าของที่ดินโฉนด การครอบครองปรปักษ์ต้อง 10 ปี
ที่ดินซึ่งมีโฉนดมีเจ้าของกรรมสิทธิ์เกิดที่งอกริมตลิ่งออกไปที่งอกใหม่นั้นย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินโฉนดแปลงนั้นผู้ที่อ้างว่าเข้าครอบครองปรปักษ์จะต้องครอบครองที่งอกริมตลิ่งนั้นเป็นเวลาสิบปีจึงจะได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งที่ดินริมตลิ่ง: ศาลชี้ขาดตามข้อตกลง หากวิธีแบ่งเป็นธรรม
คู่ความตกลงกะประเด็นและแถลงร่วมกันยอมให้ศาลชี้ขาดตัดสินว่าจะจัดแบ่งที่ริมตลิ่งอย่างวิธีของโจทก์หรือวิธีของ จำเลยโดยต่างไม่สืบพยาน เมื่อศาลเห็นว่าการแบ่งตามวิธีที่จำเลยเสนอเป็นวิธีที่สามารถจะแบ่งได้ และเป็นธรรมแก่คู่ความแล้ว ก็พิพากษาแบ่งไปตามวิธีที่จำเลยเสนอได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงให้ศาลชี้ขาดแบ่งที่ดินริมตลิ่งโดยไม่สืบพยาน ศาลชี้ขาดตามวิธีที่เสนอได้และเป็นธรรม
คู่ความตกลงกะประเด็นและแถลงร่วมกันยอมให้ศาลชี้ขาดตัดสินว่าจะจัดแบ่งที่ริมตลิ่งอย่างวิธีของโจทก์หรือวิธีของจำเลยโดยต่างไม่สืบพยาน เมื่อศาลเห็นว่าการแบ่งตามวิธีที่จำเลยเสนอเป็นวิธีที่สามารถจะแบ่งได้และเป็นธรรมแก่คู่ความแล้วก็พิพากษาแบ่งไปตามวิธีที่จำเลยเสนอได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการครอบครองที่ดิน: การสิ้นสุดสิทธิเมื่อสัญญาเช่าระงับ แม้ไม่ได้เป็นคู่สัญญา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทซึ่งอยู่ตอนหน้าที่ดินโฉนดของโจทก์ โดยอ้างว่าจำเลยทำสัญญาเช่า แล้วขัดขืน ไม่ยอมทำสัญญาใหม่ แม้จำเลยจะต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะก็ตาม เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าที่พิพาทอยู่หน้าที่ ดินของโจทก์จริงและการที่จำเลยเข้าไปอยู่ในที่พิพาทก็โดยภริยาจำเลยขอเช่าที่พิพาทจากโจทก์ จำเลยก็รู้เห็นด้วย แต่มิได้เป็นคู่สัญญาเพราะโจทก์เห็นว่าจำเลยเป็นคนตาบอด ทำสัญญาเช่าแล้วภริยาจำเลยก็ปลุกเรือนขึ้น จำเลย ก็มาอยู่ด้วยดังนี้ เมื่อภริยาจำเลยผู้เช่าถูกโจทก์ฟ้องขับไล่ออกจากที่พิพาทแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะอยู่ต่อไปได้ เมื่อ จำเลยขัดขืนโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการครอบครองที่ดินโดยไม่เป็นคู่สัญญาเช่า: การฟ้องขับไล่เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุด
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินซึ่งอยู่ตอนหน้าที่ดินโฉนดของโจทก์โดยอ้างว่าจำเลยทำสัญญาเช่า แล้วขัดขืนไม่ยอมทำสัญญาใหม่ แม้จำเลยจะต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะก็ตาม เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าที่พิพาทอยู่หน้าที่ดินของโจทก์จริง และการที่จำเลยเข้าไปอยู่ในที่พิพาทก็โดยภริยาจำเลยขอเช่าที่พิพาทจากโจทก์ จำเลยก็รู้เห็นด้วยแต่มิได้เป็นคู่สัญญาเพราะโจทก์เห็นว่าจำเลยเป็นคนตาบอด ทำสัญญาเช่าแล้วภริยาจำเลยก็ปลูกเรือนขึ้น จำเลยก็มาอยู่ด้วยดังนี้ เมื่อภริยาจำเลยผู้เช่าถูกโจทก์ฟ้องขับไล่ออกจากที่พิพาทแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะอยู่ต่อไปได้ เมื่อจำเลยขัดขืนโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1769/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่งอกริมตลิ่งต้องเป็นแปลงเดียวกับที่ดินเดิม หากมีถนนคั่นถือไม่ได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินเจ้าของ
ที่งอกริมตลิ่งที่จะถือว่าเป็นของเจ้าของที่ดินแปลงนั้น ต้องเป็นที่งอกที่ติดต่อเป็นแปลงเดียวกับที่ดินของเจ้าของ หากมีถนนหรือทางหลวงคั่นอยู่ระหว่างที่ของเจ้าของที่งอกแล้วจะอ้างว่าที่งอกเป็นของตนด้วยไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1769/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่งอกริมตลิ่งต้องติดต่อกับที่ดินเดิม หากมีถนนคั่นถือเป็นคนละส่วน เจ้าของที่ดินเดิมจึงไม่มีสิทธิในที่งอกนั้น
ที่งอกริมตลิ่งที่จะถือว่าเป็นของเจ้าของที่ดินแปลงนั้นต้องเป็นที่งอกที่ติดต่อเป็นแปลงเดียวกับที่ดินของเจ้าของ หากมีถนนหรือทางหลวงคั่นอยู่ระหว่างที่ของเจ้าของที่งอกแล้วจะอ้างว่าที่งอกเป็นของตนด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินถูกน้ำเซาะพังกลายเป็นทางน้ำ กรรมสิทธิ์ในที่ดินงอกใหม่เป็นของใคร ต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ที่ดินที่ถูกน้ำเซาะพัง+เปลี่ยนสภาพกลาย+ทางน้ำแล้ว ก็จะเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน+คลังผู้ใดจะได้กรรมสิทธิ+นั้นก็ต้องเป็นไปตาม+ว่าด้วยการได้มาแห่ง+สิทธิ
+เพียงแต่ตลิ่งพังทลายลง+ไปชั่วคราวอาจยังไม่พอถือว่าตรงนั้นเป็นทางน้ำ+ต้องฟังข้อเท็จจริงให้+ว่าที่ดินที่พังลงไปนั้นทางน้ำมาแล้วหรือไม่
+เพียงแต่ตลิ่งพังทลายลง+ไปชั่วคราวอาจยังไม่พอถือว่าตรงนั้นเป็นทางน้ำ+ต้องฟังข้อเท็จจริงให้+ว่าที่ดินที่พังลงไปนั้นทางน้ำมาแล้วหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินถูกน้ำเซาะกลายเป็นทางน้ำ กลายเป็นสาธารณสมบัติ แลกเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย
ที่ดินที่ถูกน้ำเซาะพังลงจนเปลี่ยนสภาพกลายเป็นทางน้ำแล้ว ก็จะเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ภายหลังผู้ใดจะได้กรรมสิทธิ์ที่ตรงนั้น ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการได้มาแห่งกรรมสิทธิ์
เพียงแต่ตลิ่งพังทลายลงแม่น้ำไปชั่วคราวอาจยังไม่พอที่จะถือว่าตรงนั้นเป็นทางน้ำก็ได้ ต้องฟังข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่าที่ดินที่พังลงไปนั้นเป็นทางน้ำมาแล้วหรือไม่
เพียงแต่ตลิ่งพังทลายลงแม่น้ำไปชั่วคราวอาจยังไม่พอที่จะถือว่าตรงนั้นเป็นทางน้ำก็ได้ ต้องฟังข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่าที่ดินที่พังลงไปนั้นเป็นทางน้ำมาแล้วหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่งอกชายเลน: การครอบครองและอาสัยใช้ประโยชน์
เมื่อข้อเท็ดจิงเปนเรื่องที่งอกชายเลนหน้าที่ดินโจท และจำเลยขออาสัยปลูกเรือนหยู่จึงอ้างมาตรา 1309 ฯ อันเปนเรื่องเกาะ ฯลฯ มาตรา 1375 วัค 8 เรื่องแย่งการครอบครองและมาตรา 1382 ซึ่งเปนเรื่องการครอบครองโดยปรปักส์มาปรับกับรูปคดีดังกล่าวไม่ได้