คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 574

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและการเรียกร้องค่าเสียหาย: สัญญาเดิมมีผลผูกพันจนกว่าจะครบกำหนด
ขณะจำเลยที่ 1 ทำสัญญารับช่วงสัญญาเช่าซื้อต่อจากสามาซึ่งถึงแก่กรรมนั้น มีค่าเช่าซื้อที่ค้างส่งอยู่แล้วรวม 10 งวด การที่โจทก์ตกลงให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามสัญญาต่อไป เห็นได้ว่าโจทก์ไม่ประสงค์ที่จะบอกเลิกสัญญา เพราะเหตุผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อ 10 งวดนั้นแล้ว เมื่อจำเลยที่ 1 ทำสัญญารับช่วงสัญญาเช่าซื้อแล้วผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้ออีกเพียง 1 งวด จึงไม่ใช่เป็นการผิดนักชำระค่าเช่าซื้อสองคราวติดกัน โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและกลับเข้าครองทรัพย์สินนั้นพร้อมกับเรียกค่าใช้ทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 และมาตรา 391 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คเพื่อชำระหนี้ค่าเช่าซื้อและการฟ้องร้องความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
เดิมจำเลยทั้งสองค้างชำระค่าเช่าซื้อรถแทรกเตอร์โจทก์ร่วม แล้วทำหนังสือรับสภาพหนี้และได้ออกเช็คพิพาทชำระหนี้นั้น ดังนี้ ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระนั้น จำเลยทั้งสองได้ชำระให้โจทก์ร่วมแล้วด้วยเช็คพิพาท ครั้นต่อมาจำเลยผิดนัดและโจทก์ร่วมนั้นบอกเลิกสัญญา โจทก์ร่วมจึงมีสิทธิริบเงินค่าเช่าซื้อที่ได้ใช้มาแล้วแต่ก่อนเลิกสัญญาด้วยการออกเช็คพิพาทนี้ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 ดังนั้น เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คโดยจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น และออกเช็คโดยในขณะออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินตามเช็คได้ จำเลยทั้งสองย่อมมีความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: การผ่อนผันชำระหนี้และการบอกเลิกสัญญา ต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากไม่ครบถ้วน จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา
โจทก์เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกสิบล้อจากจำเลย สัญญาเช่าซื้อได้กำหนดการชำระค่าเช่าซื้อไว้ทุกวันที่ 25 ของเดือน แต่เมื่อโจทก์ไม่ชำระค่าเช่าซื้อตรงตามกำหนดเวลาหลายงวด โจทก์ขอผ่อนผัน จำเลยก็ยินยอมผ่อนผันให้ และเมื่อโจทก์นำค่าเช่าซื้อมาชำระหลังจากเกินกำหนดเวลาตามงวดแล้ว จำเลยก็ยินยอมรับไว้มิได้ทักท้วง เมื่อจำเลยยึดรถยนต์ไปจากโจทก์แล้ว จำเลยยังมีหนังสือให้โจทก์เอาเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างมาชำระตามพฤติการณ์แสดงว่าในทางปฏิบัติคู่สัญญาไม่ถือเอากำหนดเวลาชำระหนี้ตามสัญญาเป็นสำคัญ ดังนี้ จะถือว่าโจทก์ผิดสัญญา สัญญาจึงเลิกกันตามข้อกำหนดในสัญญาไม่ได้ จำเลยจะเลิกสัญญาได้ก็แต่ด้วยการแสดงเจตนาบอกเลิกตามมาตรา 386 และการบอกเลิกสัญญาก็จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 387 และ 388 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
อุทธรณ์ของจำเลยไม่ได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้ ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์มิได้
ค่าฤชาธรรมเนียมนั้นเป็นอำนาจของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 ที่จะใช้ดุลพินิจพิพากษาให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เสียค่าฤชาธรรมเนียมหรือจะให้เป็นพับไปก็ได้ โดยคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือในการดำเนินคดีของคู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: การผ่อนผันการชำระหนี้, การบอกเลิกสัญญา, และการยึดรถโดยพลการ
โจทก์เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกสิบล้อจากจำเลย สัญญาเช่าซื้อได้กำหนดการชำระค่าเช่าซื้อไว้ทุกวันที่ 25 ของเดือน แต่เมื่อโจทก์ไม่ชำระค่าเช่าซื้อตรงตามกำหนดเวลาหลายงวดโจทก์ขอผ่อนผัน จำเลยก็ยินยอมผ่อนผันให้ และเมื่อโจทก์นำค่าเช่าซื้อมาชำระหลังจากเกินกำหนดเวลาตามงวดแล้ว จำเลยก็ยินยอมรับไว้มิได้ทักท้วง เมื่อจำเลยยึดรถยนต์ไปจากโจทก์ แล้ว จำเลยยังมีหนังสือให้โจทก์เอาเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างมาชำระ ตามพฤติการณ์แสดงว่าในทางปฏิบัติคู่สัญญาไม่ถือเอากำหนดเวลาชำระหนี้ตามสัญญาเป็นสำคัญดังนี้ จะถือว่าโจทก์ ผิดสัญญา สัญญาจึงเลิกกันตามข้อกำหนดในสัญญาไม่ได้ จำเลยจะเลิกสัญญาได้ก็แต่ด้วยการแสดงเจตนาบอกเลิกตามมาตรา 386 และการบอกเลิกสัญญาก็จะต้องปฏิบัติตามมาตรา387 และ 388 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
อุทธรณ์ของจำเลยไม่ได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้ ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์มิได้
ค่าฤชาธรรมเนียมนั้นเป็นอำนาจของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 ที่จะใช้ดุลพินิจพิพากษาให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เสียค่าฤชาธรรมเนียมหรือจะให้เป็นพับไปก็ได้ โดยคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือในการดำเนินคดีของคู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1132/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทสัญญาเช่าซื้อ: ความรับผิดในความเสียหายของรถ, ดอกเบี้ย, และค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้
เช่าซื้อรถ ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อจนผู้ให้เช่าซื้อเลิกสัญญาและติดตามเอารถคืน ผู้ให้เช่าซื้อเรียกค่าเสียหายได้ มิใช่เรียกเอาเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างได้ทุกงวด ค่าเสียหายนั้น ถ้าไม่ปรากฏตามที่นำสืบ ศาลกำหนดให้ตามสมควร หนังสือรับสภาพหนี้ไม่ใช่แปลงหนี้ใหม่ ถ้าไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายตามจำนวนในหนังสือรับสภาพหนี้ ศาลก็ไม่ให้ใช้เงินตามที่รับสภาพไว้ เช็คที่ออกให้ตามสัญญาเช่าซื้อก็ไม่มีมูลหนี้ที่จะต้องชำระ
ค่าซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าซื้อเพราะเสียหายนอกเหนือกว่าการใช้ทรัพย์โดยชอบ ผู้เช่าซื้อต้องรับผิด
ดอกเบี้ยในต้นเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างกับค่าติดตามเก็บเงินที่ค้างต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 15 ตามสัญญา เงินอื่นๆนอกนั้นไม่อยู่ในสัญญา จึงเสียดอกเบี้ยร้อยละ 71/2 ต่อปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพรางสัญญาซื้อขายเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการเดินรถ สัญญาเช่าซื้อยังคงมีผลบังคับ
โจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกมาจากจำเลยที่ 1 เพื่อนำไปเข้าร่วมเดินรถกับบริษัทสหรถเมล์เล็กธนบุรี จำกัด ผู้ได้รับอนุญาตให้เดินรถประจำทาง ตามระเบียบของกระทรวงคมนาคม บริษัทฯ จะต้องมีรถของตนเอง ถ้าจะนำรถของผู้อื่นมาร่วมจะต้องโอนทะเบียนรถให้เป็นของบริษัทฯ เสียก่อน โจทก์จึงขอให้จำเลยที่ 1 ทำสัญญาซื้อขายรถให้โจทก์ เพื่อโจทก์จะได้นำสัญญาซื้อชายไปโอนทะเบียนรถยนต์ให้เป็นของบริษัทฯ การทำสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ก็เพื่อช่วยเหลือโจทก์ให้นำรถยนต์ที่โจทก์เช่าซื้อจากจำเลยที่ 1 เข้าร่วมในกิจการเดินรถของบริษัทฯ ได้เท่านั้น คู่สัญญาไม่มีเจตนาผูกพันกันตามสัญญาซื้อขาย แต่มีเจตนาผูกพันกันตามสัญญาเช่าซื้อ สัญญาซื้อขายเป็นแต่เพียงการแสดงเจตนาลวงและเป็นนิติกรรมอำพราง จึงไม่มีผลบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 เมื่อโจทก์ค้างชำระค่าเช่าซื้อหลายงวดติดต่อกัน จำเลยที่ 1 ก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ และยึดรถกลับคืนได้ ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์
เอกสารซึ่งเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญในคดี แม้จำเลยจะไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารให้โจทก์ ศาลก็มีอำนาจรับฟังได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพรางสัญญาซื้อขายเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการเช่าซื้อรถยนต์ ศาลวินิจฉัยสัญญาสิ้นผล
โจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกมาจากจำเลยที่ 1 เพื่อนำไปเข้าร่วมเดินรถกับบริษัทสหรถเมล์เล็กธนบุรี จำกัด ผู้ได้รับอนุญาตให้เดินรถประจำทาง ตามระเบียบของกระทรวงคมนาคม บริษัทฯ จะต้องมีรถของตนเอง ถ้าจะนำรถของผู้อื่นมาร่วมจะต้องโอนทะเบียนรถให้เป็นของบริษัทฯ เสียก่อน โจทก์จึงขอให้จำเลยที่ 1 ทำสัญญาซื้อขายรถให้โจทก์เพื่อโจทก์จะได้นำสัญญาซื้อขายไปโอนทะเบียนรถยนต์ให้เป็นของบริษัทฯการทำสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ก็เพื่อช่วยเหลือโจทก์ให้นำรถยนต์ที่โจทก์เช่าซื้อจากจำเลยที่ 1 เข้าร่วมในกิจการเดินรถของบริษัทฯ ได้เท่านั้น คู่สัญญาไม่มีเจตนาผูกพันกันตามสัญญาซื้อขาย แต่มีเจตนาผูกพันกันตามสัญญาเช่าซื้อสัญญาซื้อขายเป็นแต่เพียงการแสดงเจตนาลวงและเป็นนิติกรรมอำพราง จึงไม่มีผลบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 เมื่อโจทก์ค้างชำระค่าเช่าซื้อหลายงวดติดต่อกัน จำเลยที่ 1 ก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ และยึดรถกลับคืนได้ ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์
เอกสารซึ่งเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญในคดี แม้จำเลยจะไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารให้โจทก์ ศาลก็มีอำนาจรับฟังได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: ความรับผิดของผู้เช่าซื้อกรณีทรัพย์สินสูญหาย และการชำระค่าเช่าซื้อให้ครบถ้วน
สัญญาเช่าซื้อกำหนดไว้ว่า "ถ้าทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกโจรภัย อัคคีภัย วินาศภัย สูญหาย บุบสลาย ถูกทำลาย ถูกอายัด ถูกยึด หรือถูกริบไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัยหรือโดยเหตุใด ๆ ผู้เช่าซื้อยอมรับผิดฝ่ายเดียวและจะแจ้งให้เจ้าของทราบทันที ยอมติดตามฟ้องร้องเอาคืน ยอมซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิม และยอมชำระค่าเช่าซื้อจนครบ......" ตามข้อสัญญาดังกล่าวมา ศาลฎีกาเห็นว่าในกรณีที่ทรัพย์ที่เช่าซื้อสูญหายไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัย หรือ โดยเหตุใด ๆ ผู้เช่าซื้อ (จำเลย) ยอมรับผิดชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาจนครบ แม้ตามสัญญาข้อนี้จะเรียกว่าค่าเช่าซื้อก็ตามแต่ก็มิได้ระบุให้ผู้เช่าซื้อผ่อนชำระเป็นงวด ๆ ดังกรณีที่ทรัพย์ที่เช่าซื้อไม่สูญหาย ด้วยเหตุนี้ความหมายของคำว่า "ยอมชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาจนครบ" จึงมีเพียงว่า ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อจนครบตามที่ระบุไว้ในสัญญา เมื่อปรากฏว่าโจทก์ยังได้รับชำระเงินไม่ครบตามราคาค่าเช่าซื้อที่ตกลงกับจำเลยจึงต้องชำระค่าเช่าซื้อที่ยังขาดอยู่ให้แก่โจทก์จนครบ (อ้างฎีกา 1404/2519)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: ความรับผิดของผู้เช่าซื้อเมื่อทรัพย์สินสูญหาย และขอบเขตของคำว่า 'ชำระค่าเช่าซื้อจนครบ'
สัญญาเช่าซื้อกำหนดไว้ว่า "ถ้าทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกโจรภัย อัคคีภัย วินาศภัย สูญหาย บุบสลาย ถูกทำลาย ถูกอายัด ถูกยึด หรือถูกริบ ไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัยหรือโดนเหตุใด ๆ ผู้เช่าซื้อยอมรับผิดฝ่ายเดียว และจะแจ้งให้เจ้าของทราบทันที ยอมติดตามฟ้องร้องเอาคืน ยอมซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิม และยอมชำระค่าเช่าซื้อจนครบ......" ตามข้อสัญญาดังกล่าวมา ศาลฎีกาเห็นว่าในกรณีที่ทรัพย์ที่เช่าซื้อสูญหายไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัย หรือโดยเหตุใด ๆ ผู้เช่าซื้อ (จำเลย) ยอมรับผิดชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาจนครบ แม้ตามสัญญาข้อนี้จะเรียกว่าค่าเช่าซื้อก็ตาม แต่ก็มิได้ระบุให้ผู้เช่าซื้อผ่อนชำระเป็นงวด ๆ ดังกรณีที่ทรัพย์ที่เช่าซื้อไม่สูญหาย ด้วยเหตุนี้ความหมายของคำว่า "ยอมชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาจนครบ" จึงมีเพียงว่า ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อจนครบตามที่ระบุไว้ในสัญญา เมื่อปรากฏว่าโจทก์ยังได้รับชำระเงินไม่ครบตามราคาค่าเช่าซื้อที่ตกลงกันจำเลยจึงต้องชำระค่าเช่าซื้อที่ยังขาดอยู่ให้แก่โจทก์จนครบ (อ้างฎีกาที่ 1405/2519)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คชำระค่าเช่าซื้อเรือ: สิทธิเรียกร้องเงินตามเช็คแม้สัญญาเลิกกันแล้ว
จำเลยที่ 2 เช่าซื้อเรือประมงจากโจทก์ ในวันทำสัญญาเช่าซื้อจำเลยที่ 2 มอบเช็คพิพาทซึ่งมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังให้โจทก์เพื่อชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญา เช็คดังกล่าวถือได้ว่าเป็นค่าเช่าซื้อเรือที่โจทก์ได้รับชำระไว้แล้วโดยจำเลยที่ 2 ชำระด้วยเช็คแทนเงิน มิใช่เป็นค่าเช่าซื้อที่โจทก์ยังไม่ได้รับและจำเลยที่ 2 ยังค้างชำระ ดังนั้น เมื่อเช็คพิพาทขึ้นเงินไม่ได้และแม้ว่าสัญญาเช่าซื้อเลิกกันแล้วโดยปริยาย โจทก์ก็มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองชำระเงินตามเช็คนั้นได้ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คแก่โจทก์
of 24