คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 574

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3722/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าปรับสัญญาเช่าซื้อ, มูลหนี้จากการรับสภาพหนี้, การลดค่าเสียหายที่สูงเกินควร, ศาลฎีกาพิพากษากลับ
สัญญาเช่าซื้อระบุว่า หากสัญญาเช่าซื้อถูกยกเลิกไปผู้เช่าซื้อต้องรับผิดในจำนวนค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระและค่าเสียหายพร้อมด้วยค่าปรับร้อยละสิบแปดต่อปี ข้อตกลงดังกล่าวไม่เป็นการขัดต่อ ป.พ.พ. มาตรา 574 เพราะเป็นเพียงข้อกำหนดในการชำระค่าเช่าซื้อระหว่างที่ยังมิได้มีการเลิกสัญญากันพร้อมทั้งเบี้ยปรับกรณีผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อเท่านั้นและค่าปรับดังกล่าวเป็นการกำหนดค่าเสียหายวิธีหนึ่ง มีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับ หากกำหนดไว้สูงเกินส่วนศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3113/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขผ่อนชำระ vs. สัญญาเช่าซื้อ: ข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์รถยนต์
ข้อความในสัญญาระบุชัดเจนว่าเป็นหนังสือสัญญาซื้อขายมีข้อตกลงให้ผ่อนชำระเงินเป็นรายเดือน เมื่อชำระครบแล้วจะโอนรถยนต์ให้ทันที โดยไม่มีข้อความตอนใดระบุว่าเป็นการเช่าซื้อและไม่มีข้อสัญญาว่าในกรณีผิดนัดสองคราวติด ๆ กัน หรือกระทำผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญให้เจ้าของทรัพย์สินบอกเลิกสัญญาได้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 574 ป.พ.พ. สัญญาดังกล่าวจึงเป็นสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไข หาใช่สัญญาเช่าซื้อไม่ โจทก์ไม่มีใบเสร็จรับเงินงวดที่ 11 มาแสดงเพราะหายไป แต่โจทก์มีใบเสร็จรับเงินงวดหลังจากนั้นมาแสดง ประกอบกับจำเลยใช้บุตรชายไปเก็บเงินงวดที่ 18 จากโจทก์โดยเขียนข้อความและลงลายมือชื่อรับเงินไว้หลังใบเสร็จรับเงินงวดที่ 16จึงฟังได้ว่าโจทก์ชำระราคาให้ครบถ้วนซึ่งรวมทั้งงวดที่ 11 ด้วยแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1600/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อที่ไม่ชอบและผลกระทบต่ออำนาจฟ้องของโจทก์ รวมถึงการฟ้องผู้ค้ำประกัน
ตามใบตอบรับไปรษณีย์ระบุว่า ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของโจทก์ถึงจำเลยที่ 1 ที่บ้านพักนายตำรวจสถานีตำรวจทางหลวงบางประกง แต่จำเลยที่ 1 ได้ย้ายไปประจำที่อื่นก่อนที่จะได้มีการส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ การส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแก่จำเลยที่ 1 จึงไม่ชอบ ดังนั้น เมื่อตามคำฟ้องของโจทก์มีความมุ่งหมายที่จะบังคับให้จำเลยที่ 1 รับผิดต่อโจทก์อันเป็นผลที่เนื่องมาจากการบอกเลิกสัญญา แต่ปรากฏว่าการบอกเลิกสัญญากระทำโดยไม่ชอบ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 และแม้โจทก์จะได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแก่จำเลยที่ 2 แล้วก็ตามแต่จำเลยที่ 2 มีฐานะเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยที่ 2 ด้วยเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1600/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อที่ไม่ชอบ และผลกระทบต่ออำนาจฟ้องของโจทก์ต่อจำเลยทั้งสอง
ตามใบตอบรับไปรษณีย์ระบุว่า ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของโจทก์ถึงจำเลยที่ 1 ที่บ้านพักนายตำรวจสถานีตำรวจทางหลวงบางปะกง แต่จำเลยที่ 1 ได้ย้ายไปประจำที่อื่นก่อนที่จะได้มีการส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้ว การส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแก่จำเลยที่ 1 จึงไม่ชอบ ดังนั้น เมื่อตามคำฟ้องของโจทก์มีความมุ่งหมายที่จะบังคับให้จำเลยที่ 1 รับผิดต่อโจทก์อันเป็นผลที่เนื่องมาจากการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 และแม้โจทก์จะได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแก่จำเลยที่ 2 แล้วก็ตาม แต่จำเลยที่ 2 มีฐานะเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ด้วยเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1600/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อโดยไม่ชอบ ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง
ตามใบตอบรับไปรษณีย์ระบุว่า ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของโจทก์ถึงจำเลยที่ 1 ที่บ้านพักนายตำรวจสถานีตำรวจทางหลวงบางปะกง แต่จำเลยที่ 1 ได้ย้ายไปประจำที่อื่นก่อนที่จะได้มีการส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ การส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแก่จำเลยที่ 1 จึงไม่ชอบ ดังนั้น เมื่อตามคำฟ้องของโจทก์มีความมุ่งหมายที่จะบังคับให้จำเลยที่ 1รับผิดต่อโจทก์อันเป็นผลที่เนื่องมาจากการบอกเลิกสัญญา แต่ปรากฏว่าการบอกเลิกสัญญากระทำโดยไม่ชอบ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 และแม้โจทก์จะได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแก่จำเลยที่ 2 แล้วก็ตาม แต่จำเลยที่ 2 มีฐานะเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ด้วยเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาคู่สัญญาสำคัญกว่าข้อตกลง หากมีการผ่อนผันและยอมรับชำระหนี้ต่อเนื่อง แม้มีข้อตกลงเลิกสัญญา
แม้สัญญาเช่าซื้อจะระบุว่าถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้องวดหนึ่งงวดใด ให้ถือว่าสัญญาเช่าซื้อเลิกกันและผู้เช่าซื้อต้อง ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อโดยพลันก็ตาม แต่ ปรากฏว่าจำเลยผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่ต้นตลอดมา โดย มิได้ชำระตรงตามกำหนดแต่ละงวด ซึ่งโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อก็ผ่อนผัน ยอมรับค่าเช่าซื้อที่ชำระไม่ตรงตามกำหนดนั้นตลอดมา แสดงว่าโจทก์ ไม่ถือเอาข้อสัญญาดังกล่าวเป็นสาระสำคัญแต่โจทก์กลับยังถือว่าสัญญาเช่าซื้อยังมีผลต่อไปจึงได้ยอมรับค่าเช่าซื้อไว้ เมื่อคู่สัญญามี เจตนาถือว่าสัญญาเช่าซื้อ ยัง มีผลต่อกัน และต่อมาก็มิได้มีการบอกเลิก สัญญาแก่กันเช่นนี้โจทก์จึง ยังไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหาย เนื่องจากจำเลยไม่ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนจากจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาของคู่สัญญาสำคัญกว่าข้อตกลงในสัญญา หากมีการผ่อนผันและรับชำระหนี้ต่อเนื่อง สัญญาเดิมยังคงมีผล
แม้สัญญาเช่าซื้อจะระบุว่าถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้องวดหนึ่งงวดใดให้ถือว่าสัญญาเช่าซื้อเลิกกันและผู้เช่าซื้อต้อง ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อโดยพลันก็ตาม แต่ปรากฏว่าจำเลยผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่ต้นตลอดมา โดยมิได้ชำระตรงตามกำหนดแต่ละงวด ซึ่งโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อก็ผ่อนผัน ยอมรับค่าเช่าซื้อที่ชำระไม่ครบตามกำหนดนั้นตลอดมา แสดงว่า โจทก์ไม่ถือเอาข้อสัญญาดังกล่าวเป็นสาระสำคัญ แต่โจทก์กลับยังถือว่า สัญญาเช่าซื้อมีผลต่อไป จึงได้ยอมรับค่าเช่าซื้อไว้ เมื่อคู่สัญญา มีเจตนาถือว่าสัญญาเช่าซื้อยังมีผลต่อกัน และต่อมาก็มิได้มีการ บอกเลิกสัญญาแก่กันเช่นนี้ โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้องเรียก ค่าเสียหายเนื่องจากจำเลยไม่ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนจากจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อริบค่าเช่าซื้อได้ แต่ผู้เช่าซื้อยังต้องชำระหนี้ค้างอยู่ เช็คเป็นหลักฐานหนี้ผูกพัน
นอกจากสัญญาเช่าซื้อที่จำเลยผู้เช่าซื้อทำไว้กับโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อจะระบุว่าเมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิริบค่าเช่าซื้อที่ได้ชำระไว้ทั้งสิ้นแล้ว ผู้เช่าซื้อยังมีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระอยู่ก่อนสัญญาเลิกกันด้วย ดังนี้ข้อกำหนดในสัญญาดังกล่าวเป็นการกำหนดค่าเสียหายวิธีหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับไว้ล่วงหน้าอันเป็นการกำหนดความรับผิดของผู้เช่าซื้อนอกเหนือและแตกต่างไปจากความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 วรรคแรก แต่บทบัญญัติมาตราดังกล่าวมิใช่กฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และข้อกำหนดในสัญญาดังกล่าวมิได้เป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนจึงใช้บังคับได้ เมื่อปรากฏว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยออกเพื่อชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างก่อนโจทก์บอกเลิกสัญญาและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยจึงต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 608/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ, ความรับผิดผู้เช่าซื้อเมื่อทรัพย์สินถูกยึด, สภาพทรัพย์สินชำรุด, การไม่ขอรับคืนทรัพย์สิน
ตามสัญญาเช่าซื้อระบุว่า "ถ้าทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกโจรภัยอัคคีภัย วินาศภัย สูญหาย ชำรุด บุบสลาย ถูกทำลาย ถูกอายัดถูกยึดหรือถูกริบไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัยหรือโดยเหตุใด ๆ ผู้เช่าซื้อยอมรับผิดฝ่ายเดียวและจะแจ้งให้เจ้าของทราบทันที ยอมติดตามฟ้องร้องเอาคืน...และยอมชำระเงินค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบ" และปรากฏจากคำเบิกความพยานจำเลยซึ่งเป็นผู้ยึดรถยนต์พิพาทว่า ปัจจุบันรถยนต์พิพาทอยู่ในสภาพใช้การไม่ได้ พังไปหมดแล้ว เพราะถูกน้ำท่วมใหญ่2 ครั้ง รถยนต์พิพาทยังอยู่ระหว่างการยึดไว้เป็นของกลาง ยังไม่สามารถส่งมอบคืนแก่เจ้าของได้ จะคืนได้ต่อเมื่อศาลได้มีคำพิพากษาในคดีอาญาที่ยึดรถยนต์พิพาทไว้เป็นของกลางแล้ว จำเลยผู้เช่าซื้อจึงต้องรับผิดในกรณีที่รถยนต์พิพาทถูกยึดและโจทก์ไม่อาจขอรับรถยนต์พิพาทคืนได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: ข้อตกลงกำหนดค่าเสียหายล่วงหน้ามีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ มิใช่การเรียกราคาทรัพย์ที่ยังขาด
ข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อที่ว่า เมื่อเจ้าของยึดทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนมาแล้วนำออกขาย หากได้เงินไม่พอชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และค่าเช่าซื้อคงเหลือ ผู้เช่าซื้อยอมชำระเงินจำนวนที่ยังขาดอยู่จนครบ เป็นวิธีการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในกรณีผู้เช่าซื้อผิดสัญญา มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ โดยเฉพาะข้อความที่ว่า หากเอาทรัพย์ที่เช่าซื้อออกขายได้เงินไม่พอชำระค่าเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อยอมชำระเงินจำนวนที่ยังขาดอยู่จนครบก็เป็นเพียงวิธีการคำนวณหาจำนวนเบี้ยปรับเท่านั้น มิใช่เป็นการเรียกร้องเอาราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อที่ยังขาดอยู่
of 24