คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 197

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 813/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำให้การหลังขาดนัด: ศาลไม่ต้องสั่งไม่รับคำให้การหากไม่อนุญาตขยายเวลา
การขออนุญาตยื่นคำให้การตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 199 นั้นจะต้องเป็นกรณีที่ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา197 วรรคแรกแล้ว จำเลยที่ 2 จึงขออนุญาตยื่นคำให้การก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งว่า จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การไม่ได้
คำร้องของจำเลยที่ 2 บรรยายไว้ชัดว่าจำเลยที่ 2ได้รับหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2525และพ้นกำหนดที่จำเลยที่ 2 จะต้องยื่นคำให้การแก้คดีแล้วการที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การ จึงเท่ากับเป็นการขอให้ศาลมีคำสั่งขยายระยะเวลายื่นคำให้การให้แก่ จำเลยที่2 ซึ่งกรณีนี้เมื่อศาลสั่งอนุญาตแล้วจึงจะถึงขั้นพิจารณา เกี่ยวกับการสั่งรับหรือไม่รับคำให้การ หากศาลสั่งไม่อนุญาตก็ไม่ต้อง พิจารณาถึงการสั่งรับหรือไม่รับคำให้การต่อไป ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้น ไม่ขยายระยะเวลายื่นคำให้การให้แก่จำเลยที่ 2 จึงไม่จำต้องสั่งไม่รับ คำให้การของจำเลยที่ 2 ด้วย
คำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การไม่ใช่คำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(5) เพราะไม่ได้ตั้งประเด็น ระหว่างคู่ความฉะนั้นคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลา จึงไม่ใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความและเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาจำเลยที่ 2 จะอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นในระหว่างพิจารณาไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 813/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำให้การหลังขาดนัด และขอบขยายเวลา ศาลไม่ต้องสั่งไม่รับคำให้การ หากไม่ขยายเวลา
การขออนุญาตยื่นคำให้การตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 199 นั้น จะต้องเป็นกรณีที่ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 197 วรรคแรกแล้ว จำเลยที่ 2 จึงขออนุญาตยื่นคำให้การก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การไม่ได้
คำร้องของจำเลยที่ 2 บรรยายไว้ชัดว่าจำเลยที่ 2 ได้รับหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2525 และพ้นกำหนดที่จำเลยที่ 2 จะต้องยื่นคำให้การแก้คดีแล้ว การที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การ จึงเท่ากับเป็นการขอให้ศาลมีคำสั่งขยายระยะเวลายื่นคำให้การให้แก่จำเลยที่ 2 ซึ่งกรณีนี้เมื่อศาลสั่งอนุญาตแล้วจึงจะถึงขั้นพิจารณาเกี่ยวกับการสั่งรับหรือไม่รับคำให้การ หากศาลสั่งไม่อนุญาตก็ไม่ต้อง พิจารณาถึงการสั่งรับหรือไม่รับคำให้การต่อไป ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้น ไม่ขยายระยะเวลายื่นคำให้การให้แก่จำเลยที่ 2 จึงไม่จำต้องสั่งไม่รับคำให้การของจำเลยที่ 2 ด้วย
คำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การไม่ใช่คำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1 (5) เพราะไม่ได้ตั้งประเด็นระหว่างคู่ความฉะนั้นคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาจึงไม่ใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความและเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 2 จะอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นในระหว่างพิจารณาไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3263/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีอนาถาและการจำวันนัด: ผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
จำเลยไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ถือว่าจำเลยไม่มีพยานให้ศาลไต่สวนให้ได้ความว่าจำเลยเป็นคนอนาถาให้ยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์เสียเท่ากับวินิจฉัยในเนื้อหาแห่งคำร้องของจำเลยแล้วว่าจำเลยไม่ใช่คนอนาถาต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยได้ไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา อ้างเหตุว่าจำวันนัดผิดพลาด การขาดนัดไต่สวนคำร้องมิได้เป็นไปโดยเจตนาศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยจะอ้างเหตุว่าจำวันนัดคลาดเคลื่อนมาเป็นข้ออ้างหาได้ไม่ให้ยกคำร้องของจำเลยเสีย ดังนี้ย่อมมีผลเช่นเดียวกับคำสั่งเดิมที่ว่าจำเลยไม่ใช่คนอนาถา เมื่อจำเลยอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3003/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันสืบพยานคือวันเริ่มต้นสืบพยาน การไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลยไม่ใช่ขาดนัดพิจารณา
วันสืบพยานตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(10)หมายความถึงวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยาน ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว นัดสืบพยานจำเลย การที่จำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลย จึงไม่ใช่เป็นการขาดนัดพิจารณาตามมาตรา 197 วรรคสองศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบให้งดสืบพยานจำเลย แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ดังนี้ จำเลยจะต้องอุทธรณ์ต่อไป จะยื่นคำร้องว่าไม่จงใจขาดนัด ขอให้พิจารณาคดีใหม่หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2592/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภูมิลำเนาบริษัทตามที่จดทะเบียนสำคัญกว่าการย้ายสำนักงานที่ยังไม่แจ้งจดทะเบียน การส่งหมายเรียกที่สำนักงานเดิมชอบด้วยกฎหมาย
ตราบใดที่จำเลยยังมิได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงถิ่นที่ตั้ง สำนักงานแห่งใหญ่ของจำเลยไปตั้งอยู่ ณ สถานที่แห่งอื่น ก็ต้องถือว่า จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ ณ ถิ่นที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ตามที่ได้จดทะเบียนไว้ การที่โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย ณ ถิ่นที่ตั้ง สำนักงานแห่งใหญ่ จึงเป็นการส่งโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เมื่อจำเลย มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนดเวลาตามที่กฎหมายบังคับไว้ ต้องถือว่า จำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2592/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภูมิลำเนาบริษัทตามที่จดทะเบียนสำคัญกว่าการย้ายสำนักงานจริง การส่งหมายเรียกที่สำนักงานใหญ่ที่จดทะเบียนจึงชอบด้วยกฎหมาย
ตราบใดที่จำเลยยังมิได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงถิ่นที่ตั้ง สำนักงานแห่งใหญ่ของจำเลยไปตั้งอยู่ ณ สถานที่แห่งอื่นก็ต้องถือว่า จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ ณ ถิ่นที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ตามที่ได้จดทะเบียนไว้การที่โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย ณ ถิ่นที่ตั้ง สำนักงานแห่งใหญ่ จึงเป็นการส่งโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วเมื่อจำเลย มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนดเวลาตามที่กฎหมายบังคับไว้ ต้องถือว่า จำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนคำสั่งรับคำให้การและการแจ้งคำสั่งให้จำเลยทราบ จำเลยไม่ทราบคำสั่งเพิกถอน จึงไม่อาจคัดค้านได้
ศาลชั้นต้นสั่งเพิกถอนคำสั่งเดิมที่สั่งรับคำให้การจำเลยที่ 2 ไว้ แล้วสั่งใหม่เป็นว่า ไม่รับคำให้การจำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การแต่ศาลชั้นต้นไม่ได้แจ้งคำสั่งดังกล่าวให้จำเลยที่ 2 ทราบ ทั้งพฤติการณ์ที่ปรากฏในสำนวนก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ได้ทราบถึงคำสั่งดังกล่าว จำเลยที่ 2 จึงไม่อาจยกขึ้นคัดค้านได้ก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ที่ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อมาถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ให้สัตยาบันในคำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่แจ้งคำสั่งศาลเพิกถอนการรับคำให้การ ทำให้จำเลยไม่ทราบและไม่อาจคัดค้านได้ ถือไม่ได้ว่าให้สัตยาบัน
ศาลชั้นต้นสั่งเพิกถอนคำสั่งเดิมที่สั่งรับคำให้การจำเลยที่ 2 ไว้ แล้วสั่งใหม่เป็นว่า ไม่รับคำให้การ จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การแต่ศาลชั้นต้นไม่ได้แจ้งคำสั่งดังกล่าวให้จำเลยที่ 2 ทราบ ทั้งพฤติการณ์ที่ปรากฏในสำนวนก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ได้ทราบถึงคำสั่งดังกล่าว จำเลยที่ 2 จึงไม่อาจยกขึ้นคัดค้านได้ก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ที่ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อมาถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ให้สัตยาบันในคำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากโจทก์ไม่มาศาลเพื่อสืบพยานต่อ แม้ศาลจะยังไม่ดำเนินกระบวนการฝ่ายจำเลย
การที่โจทก์ไม่มาศาลหลังจากสืบพยานโจทก์บ้างแล้วนั้นศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา166 ได้ เพราะโจทก์ยังมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติต่อศาลคือนำพยานเข้าสืบอีก หากไม่ติดใจสืบก็ต้องแถลงให้ศาลทราบ และเรื่องการไม่มาศาลตามกำหนดนัดนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้บัญญัติไว้ชัดแจ้งแล้ว จึงจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรื่องการพิจารณาโดยขาดนัดมาอนุโลมบังคับหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากโจทก์ไม่มาศาลและไม่แจ้งเหตุ แม้สืบพยานไปบ้างแล้ว
การที่โจทก์ไม่มาศาลหลังจากสืบพยานโจทก์บ้างแล้วนั้น ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา166 ได้ เพราะโจทก์ยังมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติต่อศาล คือนำพยานเข้าสืบอีก หากไม่ติดใจสืบก็ต้องแถลงให้ศาลทราบ และเรื่องการไม่มาศาลตามกำหนดนัดนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้บัญญัติไว้ชัดแจ้งแล้ว จึงจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรื่องการพิจารณาโดยขาดนัดมาอนุโลมบังคับหาได้ไม่
of 24