พบผลลัพธ์ทั้งหมด 237 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการแก้ไขข้อบกพร่องความสามารถของโจทก์ก่อนพิพากษาคดีขับไล่
การที่หญิงมีสามีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านและจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แม้จะปรากฏว่าโจทก์ฟ้องโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี และบ้านนั้นเป็นสินบริคณห์ ศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถไม่ควรจะยกมาตรา 1469 มายกฟ้องโจทก์เสียทีเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและการมีสิทธิฎีกาข้อยกเว้นตาม ป.วิ.แพ่ง
การที่ศาลล่างสั่งว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การนั้น เท่ากับสั่งไม่รับคำให้การจำเลย คดีจึงปรับเข้าอยู่ใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 228(3) ประกอบด้วยมาตรา 18 วรรค 3 ซึ่งเป็นข้อยกเว้น ให้จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้.
จำเลยยื่นคำให้การพ้นกำหนดไป 2 วัน และยื่นคำร้องว่า การที่มิได้ยื่นคำให้การในกำหนด มิได้เป็นไปโดยจงใจ ดังนี้ ถือว่ามิได้มีพฤตติการณ์พิเศษแต่อย่างใด เป็นความผิดของจำเลยเอง
จำเลยยื่นคำให้การพ้นกำหนดไป 2 วัน และยื่นคำร้องว่า การที่มิได้ยื่นคำให้การในกำหนด มิได้เป็นไปโดยจงใจ ดังนี้ ถือว่ามิได้มีพฤตติการณ์พิเศษแต่อย่างใด เป็นความผิดของจำเลยเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดยื่นคำให้การ: สิทธิฎีกาข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
การที่ศาลล่างสั่งว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การนั้นเท่ากับสั่งไม่รับคำให้การจำเลย คดีจึงปรับเข้าอยู่ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(3) ประกอบด้วยมาตรา 18 วรรคสาม ซึ่งเป็นข้อยกเว้น ให้จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้
จำเลยยื่นคำให้การพ้นกำหนดไป 2 วัน และยื่นคำร้องว่า การที่มิได้ยื่นคำให้การในกำหนดมิได้เป็นไปโดยจงใจ ดังนี้ ถือว่ามิได้มีพฤติการณ์พิเศษแต่อย่างใด เป็นความผิดของจำเลยเอง
จำเลยยื่นคำให้การพ้นกำหนดไป 2 วัน และยื่นคำร้องว่า การที่มิได้ยื่นคำให้การในกำหนดมิได้เป็นไปโดยจงใจ ดังนี้ ถือว่ามิได้มีพฤติการณ์พิเศษแต่อย่างใด เป็นความผิดของจำเลยเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1191/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดยื่นคำให้การและการมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกา
การที่ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การเท่ากับสั่งไม่รับคำให้การจำเลย คดีจึงปรับเข้าอยู่ใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 228(3) ประกอบด้วยมาตรา 18 วรรค 3 ซึ่งเป็นข้อยกเว้นให้จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1191/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลที่ถือว่าเป็นการไม่รับคำให้การ ทำให้จำเลยมีสิทธิฎีกาได้ แม้คำสั่งนั้นจะเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
การที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การเท่ากับสั่งไม่รับคำให้การจำเลยคดีจึงปรับเข้าอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(3) ประกอบด้วยมาตรา 18 วรรค 3 ซึ่งเป็นข้อยกเว้นให้จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดินเกิน 3 ปี ต้องทำตามแบบ หากไม่ถูกต้องบังคับคดีได้แค่ 3 ปี
ทำสัญญาเช่าที่ดินวันเดียวกัน 2 ฉบับมีกำหนดการเช่าฉบับละ 3 ปีอันเป็นเวลาต่อกันไปเป็น 6 ปีนั้น ถือว่าการเช่าที่เกิน 3 ปีขัดต่อมาตรา 538 จึงบังคับคดีได้เพียง 3 ปี
ข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง และจำเลยมิได้ปฏิเสธข้ออ้างหรือมิได้ให้การถึง ต้องถือว่าจำเลยรับข้อเท็จจริงนั้นๆ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบอีก และในกรณีเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องขาดนัดยื่นคำให้การ
ข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง และจำเลยมิได้ปฏิเสธข้ออ้างหรือมิได้ให้การถึง ต้องถือว่าจำเลยรับข้อเท็จจริงนั้นๆ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบอีก และในกรณีเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องขาดนัดยื่นคำให้การ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดินเกิน 3 ปี ต้องทำตามแบบ หากไม่ทำบังคับได้แค่ 3 ปี
ทำสัญญาเช่าที่ดินวันเดียวกัน 2 ฉบับมีกำหนดการเช่าฉบับละ 3 ปีอันเป็นเวลาต่อกันไปเป็น 6 ปีนั้น ถือว่าการเช่าที่เกิน 3 ปีขัดต่อมาตรา 538 จึงบังคับคดีได้เพียง 3 ปี
ข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง และจำเลยมิได้ปฏิเสธข้ออ้าง หรือมิได้ให้การถึง ต้องถือว่าจำเลยรับข้อเท็จจริงนั้น ๆ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบอีกและในกรณีเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องขาดนัดยื่นคำให้การ.
ข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง และจำเลยมิได้ปฏิเสธข้ออ้าง หรือมิได้ให้การถึง ต้องถือว่าจำเลยรับข้อเท็จจริงนั้น ๆ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบอีกและในกรณีเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องขาดนัดยื่นคำให้การ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ไปศาลของผู้คัดค้านการเลือกตั้งและการดำเนินการตามกระบวนการสอบสวนของศาล
คดีคัดค้านการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร ผู้คัดค้านไม่ไปศาลในวันนัดสืบพะยานครั้งแรก แต่ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีและขอให้ศาลซึ่งตนมีภูมิลำเนาโทรเลขขอเลื่อนและส่งคำร้องไปยังศาลเจ้าของคดีก่อนวันนัดหนึ่งวันดังนี้ ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นสอบสวนแล้วสั่งตามกระบวนความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่รับคำให้การและการขาดนัดยื่นคำให้การ กรณีจำเลยไม่สามารถระบุรายละเอียดบางส่วนของข้อต่อสู้ได้ ศาลต้องพิจารณาประเด็นอื่นประกอบ
จำเลยให้การต่อสู้เป็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายไว้หลายประเด็นศาลชั้นต้นให้จำเลยระบุให้ชัดเจนในประเด็นข้อหนึ่งว่า 'สิ่งของตามบัญชีที่โจทก์ฟ้องบางส่วนนั้นมีอะไรบ้าง' จำเลยแถลงว่าไม่สามารถระบุให้ชัดเจนได้ ดังนี้ ยังไม่เป็นเหตุที่จะไม่รับคำให้การจำเลย และถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การได้ เพราะนอกจากประเด็นที่ศาลตำหนิแล้วยังมีประเด็นอื่นที่จะพิจารณาอยู่อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณา - หน้าที่นำสืบพยาน - ทนายจำเลยมาศาล
ในวันนัดพิจารณาซึ่งศาลกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนจำเลยไม่มาศาลคงมีแต่ทนายจำเลยมาศาลตามกำหนดนัด กรณีเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา และจะถือว่าจำเลยละเลยไม่นำพยานมาสืบไม่ได้