คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 801

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 167 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกบริษัทเนื่องจากผู้ถือหุ้นไม่ครบตามกฎหมาย และการฟ้องคดีโดยผู้ถือหุ้นและกรรมการ
ผู้จัดการบริษัทในฐานะกรรมการและผู้ถือหุ้นฟ้องกรรมการด้วยกัน ขอให้เลิกบริษัทได้ไม่จำเป็นต้องให้กรรมการของบริษัททั้งหมดมอบอำนาจก่อนเพราะไม่ใช่ฟ้องในฐานะตัวแทนของบริษัท
เมื่อผู้ถือหุ้นตายลง การโอนหุ้นเป็นหน้าที่ของกรรมการบริษัทจัดทำ
ศาลพิพากษาให้เลิกบริษัทโดยชี้ขาดว่า ผู้ถือหุ้นไม่ครบจำนวน และบริษัททำไปมีแต่ขาดทุน แม้จำเลยจะสืบพะยานได้ว่า บริษัทอาจมีหวังฟื้นตัวได้ ก็ไม่อาจชนะคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกบริษัทเนื่องจากจำนวนผู้ถือหุ้นไม่ครบ และการฟ้องคดีโดยกรรมการในฐานะผู้ถือหุ้น
ผู้จัดการบริษัทในฐานะกรรมการและผู้ถือหุ้นฟ้องกรรมการด้วยกัน ขอให้เลิกบริษัทได้ไม่จำเป็นต้องให้กรรมการของบริษัททั้งหมดมอบอำนาจก่อนเพราะไม่ใช่ฟ้องในฐานะตัวแทนของบริษัท
เมื่อผู้ถือหุ้นตายลง การโอนหุ้นเป็นหน้าที่ของกรรมการบริษัทจัดทำ
ศาลพิพากษาให้เลิกบริษัทโดยชี้ขาดว่า ผู้ถือหุ้นไม่ครบจำนวนและบริษัททำไปมีแต่ขาดทุนแม้จำเลยจะสืบพยานได้ว่าบริษัทอาจมีหวังฟื้นตัวได้ก็ไม่อาจชนะคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีจากใบมอบอำนาจทั่วไป และการยอมรับข้อเท็จจริงจากเอกสารประกอบ
ตัวการมอบอำนาจให้ตัวแทนมีอำนาจทั่วไปในการจัดการทรัพย์สินของตน และในใบมอบอำนาจนั้นได้ระบุไว้ชัดว่าให้กินความถึงการฟ้องความด้วยเช่นนี้ เป็นใบมอบอำนาจให้ฟ้องความได้ตามกฎหมาย
เอกสารหนังสือยกที่ดินให้ที่ศาลฟังเพื่อประกอบข้อเท็จจริงอย่างหนึ่ง แต่ศาลมิได้ยึดถือว่าเป็นเอกสารสมบูรณ์แห่งการแสดงกรรมสิทธิ ไม่ต้องปฏิบัติตาม ป.แพ่งพาณิชย์ มาตรา 525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีจากใบมอบอำนาจทั่วไป และการใช้เอกสารประกอบข้อเท็จจริงในการพิสูจน์กรรมสิทธิ์
ตัวการมอบอำนาจ ให้ตัวแทนมีอำนาจทั่วไปในการจัดการทรัพย์สินของตนและในใบมอบอำนาจนั้นได้ระบุไว้ชัดว่าให้กินความถึงการฟ้องความด้วยเช่นนี้ เป็นใบมอบอำนาจให้ฟ้องความได้ตามกฎหมาย
เอกสารหนังสือยกที่ดินให้ที่ศาลฟังเพื่อประกอบข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งแต่ศาลมิได้ยึดถือว่าเป็นเอกสารสมบูรณ์แห่งการแสดงกรรมสิทธิ์ ไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนสัญญาซื้อขาย, เหตุสุดวิสัย, การปฏิบัติตามสัญญา, เบี้ยปรับ, และการลดเบี้ยปรับ
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์แล้วโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้จำเลยแพ้ แต่จำเลยได้กล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ต้องยกขึ้นพิจารณาจะถือว่าประเด็นนั้นยุติแล้วไม่ได้
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา1(3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษ จำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆ ได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่เฉพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดังกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆ หนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้น จะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกัน ไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่
พฤติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนสัญญาซื้อขาย, เหตุสุดวิสัย, การผิดสัญญา และเบี้ยปรับ
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์แล้วโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้จำเลยแพ้ แต่จำเลยได้กล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ต้องยกขึ้นพิจารณาจะถือว่าประเด็นนั้นยุตติแล้วไม่ได้
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.1 (3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพะยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษจำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตต์ของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่ฉะเพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้ เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดั่งกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆหนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้นจะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤตติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกันไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่พฤตติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 892/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกัน, อำนาจกรรมการ, การยกประเด็นใหม่, การอ้างพยาน: หลักเกณฑ์และข้อจำกัด
สัญญาค้ำประกันไม่จำต้องระบุสถานที่ทำ และไม่ต้องมีชื่อพยานและผู้เขียนค้ำประกันหนี้ในอนาคต และไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้เจ้าหนี้ผ่อนให้ลูกหนี้ชำระเป็นงวดๆ และให้หาประกันมาใหม่อีกได้ไม่ทำให้ผู้ค้ำประกันเดิมหลุดพ้น ข้อบังคับของบริษัทให้อำนาจกรรมการคนเดียวลงนามแทนบริษัทได้ก็ย่อมมีอำนาจลงนามผู้เดียวมอบอำนาจให้ผู้อื่นฟ้องความได้ ตาม มาตรา 1144 ไม่เกี่ยวกับ มาตรา 801 ข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลล่าง จะยกขึ้นฎีกาไม่ได้ คำแถลงในศาลล่างนั้นไม่ถือว่าเป็นประเด็นที่ยกขึ้นว่ากล่าว ในชั้นนั้นเพราะคำแถลงเป็นเพียงอธิบายประเด็นแห่งคดี การที่จะอ้างพยานเป็นครั้งแรกในศาลอุทธรณ์ได้หรือไม่นั้นหากอ้างได้ก็อยู่ในดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ที่จะอนุญาตหรือไม่ก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัว: สิทธิฟ้องของนายตำรวจกับผู้รับประกันเป็นสิทธิส่วนตัว ไม่ใช่สิทธิของทางราชการ
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาต่อนายตำรวจนั้น นายตำรวจหามีสิทธิฟ้องผู้รับประกันเป็นส่วนตัวไม่ ฟ้องของโจทก์ระบุว่า พ.ต.ต.สงวน ตันสถิตย์โจทก์เกิดปีมะแม อายุ 35 ปี ตั้งบ้านเรือนอยู่หมู่ที่ 2 ฯลฯ ขอยื่นฟ้องนายพรมจำเลยและในรายละเอียดของฟ้องได้กล่าวว่า จำเลยได้ทำสัญญาประกันให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดพระตะบองและท้ายฟ้องว่าได้แต่งตั้งให้พนักงานอัยการเป็นทนายความว่าต่าง เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์เป็นคำฟ้องส่วนตัว หาใช่ของทางราชการแต่อย่างใดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัว: สิทธิการฟ้องของผู้รับประกันเมื่อผู้ต้องหาไม่มาตามนัด ศาลตัดสินว่าเป็นการฟ้องเรียกร้องหนี้ส่วนตัว
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาต่อนายตำหรวดนั้น นายตำหรวดหามีสิทธิฟ้องผู้รับประกันเปนส่วนตัวไม่.
ฟ้องของโจทระบุว่า พ.ต.ต.สงวน ตันสถิตย์ โจท เกิดปีมะแม อายุ 35 ปี ตั้งบ้านเรือนหยู่ หมู่ที่ 2 +ขอยื่นฟ้องนายพามจำเลยและไนรายละเอียดของฟ้องได้กล่าวว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันไห้แก่โจทซึ่งเปนหัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำหรวดภูธรจังหวัดพระตะบองและท้ายฟ้องว่าได้แต่งตั้งไห้พนักงานอัยการเปนทนายความว่าต่าง เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าคำฟ้องของโจทเปนคำฟ้องส่วนตัว หาไช่ของทางราชการแต่หย่างได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีของห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนและข้อกำหนดเรื่องตัวแทน
ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทเบียนไปทำสัญญาไนนามของห้างหุ้นส่วน ๆ ย่อมมีอำนาดฟ้องคดีเกี่ยวกับสัญญานั้นได้
ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทเบียนนั้นแม้ตั้งผู้จัดการไว้สองคน ผู้จัดการแต่ละคนก็มีอำนาดจัดการได้ตามลำพัง
ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนสามัญจดทเบียนไปทำสัญญาไนนามของห้างหุ้นส่วนนั้นไม่ตกหยู่ไนบังคับ ม. 801,804 แห่งประมวนแพ่งฯ
สาลไม่สงสัยความแท้จิงของไบมอบอำนาดไห้ฟ้องความและอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่คัดค้านความแท้จิงดังนี้ ไม่ต้องทำตามแบบไน ม. 47 แห่ง ป.ม.วิธีพิจารนาความแพ่ง.
of 17