คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 824

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 195 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3598/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสัญญาชดใช้ค่าเสียหายจากการชนท่าเรือ และความรับผิดของตัวแทน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามข้อตกลงในคำร้องขอนำเรือเข้าท่าภายในอาณาบริเวณของโจทก์ที่จำเลยที่3ในฐานะตัวแทนจำเลยที่1ทำไว้กับโจทก์โดยคำร้องดังกล่าวมีข้อความว่าข้าพเจ้ายอมรับผิดในผลแห่งละเมิดซึ่งเรือที่นำเข้าได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์เพื่อนำเรือเข้ามาจอดซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนาของจำเลยที่1ที่จะยอมรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่เรือซัมเมอร์เบย์ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์อันเป็นนิติกรรมอย่างหนึ่งการแสดงเจตนาดังกล่าวย่อมมีผลผูกพันจำเลยที่1และกรณีนี้ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้จึงมีอายุความ10ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา164 จำเลยที่1เป็นนิติบุคคลต่างประเทศมีสำนักงานสาขาอยู่ในประเทศไทยถือได้ว่าจำเลยที่1มีภูมิลำเนาประเทศไทยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา71การที่จำเลยที่2ซึ่งเป็นผู้จัดการสาขาของจำเลยที่1ในประเทศไทยและจำเลยที่3ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยที่2ให้ติดต่อกับโจทก์แทนจำเลยที่1ทำสัญญากับโจทก์แทนจำเลยที่1จึงไม่ใช่กรณีทำแทนตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศอันจะอยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา824จำเลยที่2ที่3จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นส่วนตัวและการที่จำเลยที่2และจำเลยที่3เข้าทำการเกี่ยวข้องกับโจทก์เป็นการทำในฐานะที่เป็นตัวแทนของจำเลยที่1จำเลยที่2และจำเลยที่3จึงไม่ต้องร่วมกับจำเลยที่1รับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2519/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนโดยปริยายในสัญญาประกันภัยต่อ: ความรับผิดของตัวแทนเมื่อตัวการต่างประเทศ
ถึงจำเลยจะเป็นเพียงบริษัทนายหน้าในการประกันภัย และที่ปรึกษาประกันภัย แต่ตามพฤติการณ์ที่จำเลยแสดงออกในการติดต่อให้โจทก์นำเอาความเสี่ยงภัยที่โจทก์รับประกันภัยไว้ไปประกันภัยต่อแก่ผู้รับประกันภัยซึ่งอยู่ต่าง-ประเทศนั้นเกินเลยกว่าการเป็นนายหน้า แม้ผู้รับประกันภัยต่อมิได้มีหนังสือแต่งตั้งจำเลยเป็นตัวแทนให้กระทำในกิจการดังกล่าว แต่การปฏิบัติของผู้รับประกันภัยต่อได้ยินยอมให้จำเลยปฏิบัติงานแทนตนตลอดมา จำเลยย่อมอยู่ในฐานะเป็นตัวแทนของผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศโดยปริยายตาม ป.พ.พ. มาตรา 797 วรรคสองในกรณีเช่นนี้ตัวการไม่จำต้องแต่งตั้งตัวแทนเป็นหนังสือและไม่อยู่ในบังคับของมาตรา798 เมื่อตัวการซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยต่ออยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่าง-ประเทศ จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนทำสัญญาประกันภัยต่อแทนตัวการ จึงต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัยต่อตามลำพังตาม ป.พ.พ. มาตรา 824
จำเลยฎีกาว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยจึงไม่ใช่บุคคลภายนอกตามความหมายในหมวดที่ว่าด้วยความรับผิดของตัวการและตัวแทนต่อบุคคลภายนอกจำเลยไม่มีสิทธิรับประกันภัยตามกฎหมายเพราะไม่มีใบอนุญาตและไม่มีวัตถุประสงค์ในการรับประกันภัย จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ แต่จำเลยไม่ได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นต่อสู้เป็นประเด็นไว้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2519/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนโดยปริยายในสัญญาประกันภัยต่อ ความรับผิดของตัวแทนต่อตัวการต่างประเทศ
ถึงจำเลยจะเป็นเพียงบริษัทนายหน้าในการประกันภัย และที่ปรึกษาประกันภัย แต่ตามพฤติการณ์ที่จำเลยแสดงออกในการติดต่อให้โจทก์นำเอาความเสี่ยงภัยที่โจทก์รับประกันภัยไว้ไปประกันภัยต่อแก่ผู้รับประกันภัยซึ่งอยู่ต่างประเทศนั้นเกินเลยกว่าการเป็นนายหน้า แม้ผู้รับประกันภัยต่อมิได้มีหนังสือแต่งตั้งจำเลยเป็นตัวแทนให้กระทำในกิจการดังกล่าว แต่การปฏิบัติของผู้รับประกันภัยต่อได้ยินยอมให้จำเลยปฏิบัติงานแทนตนตลอดมา จำเลยย่อมอยู่ในฐานะเป็นตัวแทนของผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศโดยปริยายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797 วรรคสอง ในกรณีเช่นนี้ตัวการไม่จำต้องแต่งตั้งตัวแทนเป็นหนังสือและไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 798 เมื่อตัวการซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยต่ออยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนทำสัญญาประกันภัยต่อแทนตัวการ จึงต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัยต่อตามลำพังตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 824 จำเลยฎีกาว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยจึงไม่ใช่บุคคลภายนอกตามความหมายในหมวดที่ว่าด้วยความรับผิดของตัวการและตัวแทนต่อบุคคลภายนอก จำเลยไม่มีสิทธิรับประกันภัยตามกฎหมายเพราะไม่มีใบอนุญาตและไม่มีวัตถุประสงค์ในการรับประกันภัย จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ แต่จำเลยไม่ได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นต่อสู้เป็นประเด็นไว้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2519/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนประกันภัยต่อต่างประเทศ: ความสัมพันธ์ทางกฎหมายและการรับผิดในสัญญา
การที่จำเลยเข้ามาติดต่อกับบริษัทผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศรับโอนการเสี่ยงภัยของโจทก์เพื่อเฉลี่ยความรับผิดที่อาจจะเกิดมีขึ้นต่อทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยตามความต้องการของโจทก์นั้น การกระทำของจำเลยเกินเลยกว่าหน้าที่ของนายหน้าซึ่งเป็นเพียงผู้ชี้ช่องหรือจัดการให้เขาได้ทำสัญญากับบุคคลภายนอกเท่านั้น แม้ที่หัวกระดาษหนังสือตอบโต้ของจำเลยระบุว่า จำเลยเป็นนายหน้าและที่ปรึกษาประกันภัยก็ตาม แต่ตามพฤติการณ์ที่จำเลยแสดงออกตั้งแต่มีหนังสือถึงโจทก์แจ้งข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆในกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศให้โจทก์ทราบ การรับเบี้ยประกันภัยจากโจทก์ การจ่ายค่าสินไหมทดแทนความเสียหายของผู้เอาประกันภัยตามจำนวนที่โจทก์แจ้งให้จำเลยทราบและจำเลยได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ตามที่เรียกร้องอีกทั้งเมื่อโจทก์ทวงถามให้จำเลยจ่ายคืนเบี้ยประกันภัยส่วนที่เกินจำเลยก็แจ้งให้โจทก์ทราบว่ากำลังติดต่อเร่งรัดบริษัทผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศอยู่ และในการติดต่อบริษัทผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศของโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบมาทุกระยะ และเมื่อบริษัทผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศดำเนินการต่าง ๆ ก็กระทำผ่านจำเลย ดังนี้ แม้ว่าบริษัทผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศมิได้มีหนังสือแต่งตั้งจำเลยเป็นตัวแทนให้กระทำในกิจการดังกล่าวแต่การปฏิบัติของบริษัทผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศได้ยินยอมให้จำเลยปฏิบัติงานแทนตนตลอดมา จำเลยย่อมอยู่ในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศโดยปริยายตาม ป.พ.พ.มาตรา 797 วรรคสอง ในกรณีเช่นนี้ตัวการไม่จำต้องแต่งตั้งตัวแทนเป็นหนังสือ และไม่อยู่ในบังคับตามมาตรา 798 เมื่อตัวการอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนทำสัญญาประกันภัยต่อแทนตัวการ จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัยต่อตามลำพังตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 824

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3642/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องจำเลยต่างประเทศและบริษัทในเครือ: การพิสูจน์ฐานะสำนักงานสาขาหรือตัวแทน
จำเลยที่ 1 จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดในประเทศไทย จำเลยที่ 2และที่ 3 จดทะเบียนเป็นบริษัทอยู่ในต่างประเทศ โจทก์ทำสัญญาซื้อขายกับจำเลยที่ 2 แม้จำเลยที่ 2 จะถือหุ้นใหญ่ในบริษัทจำเลยที่ 1 ก็หาทำให้บริษัทจำเลยที่ 1 เป็นสำนักงานสาขาของจำเลยที่ 2 ไม่ จำเลยที่ 1 และที่ 2 มิใช่บุคคลคนเดียวกัน ทั้งจำเลยที่ 2และที่ 3 ก็มิได้จดทะเบียนให้จำเลยที่ 1 เป็นสำนักงานสาขาของของตนในประเทศไทย ดังนี้โจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ได้สำหรับจำเลยที่ 1 นั้นเมื่อไม่ได้เป็นสำนักงานสาขาของจำเลยที่ 2และที่ 3 ทั้งมิได้เป็นคู่สัญญากับโจทก์ และไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวการอยู่ต่างประเทศ โจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 1ไม่ได้เช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5138/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นตัวแทน สัญญาซื้อขาย และการนำสืบพยาน: กรณีตัวแทนสั่งซื้อสินค้าแล้วบริษัทไม่รับ
จำเลยที่ 2 ได้ติดต่อขอซื้อสินค้าจากโจทก์โดยแจ้งว่าเป็นตัวแทนของบริษัทในต่างประเทศ และได้ทำสัญญาสั่งซื้อกับโจทก์ตรวจสอบสินค้าและออกใบรับรองการตรวจสินค้าให้โจทก์ ซึ่งเป็นการ กระทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทในต่างประเทศ จำเลยที่ 2จึงเป็นตัวแทนของบริษัทดังกล่าวในการซื้อสินค้าจากโจทก์ ต้องรับผิดตามสัญญาที่ทำกับโจทก์ แม้โจทก์ให้ค่าตอบแทนแก่จำเลยที่ 2ด้วยก็เพราะจำเลยที่ 2 นำผลประโยชน์ทางการค้ามาให้โจทก์ หาทำให้ จำเลยที่ 2 กลายเป็นนายหน้าของโจทก์ไม่ โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 ชำระค่าสินค้า จำเลยที่ 2 ให้การเพียงว่า การที่โจทก์ไม่ได้รับชำระเป็นความผิดของโจทก์ที่มิได้ปฏิบัติตามสัญญา แต่มิได้อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธว่าโจทก์ผิดสัญญาอย่างไร จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177วรรคสอง จำเลยที่ 2 ย่อมไม่มีสิทธิที่จะนำสืบตามคำให้การ ส่วนนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5138/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนตามสัญญาซื้อขาย: การพิสูจน์ความเป็นตัวแทนและขอบเขตความรับผิด
จำเลยที่ 2 ได้ติดต่อขอซื้อสินค้าจากโจทก์โดยแจ้งว่าเป็นตัวแทนของบริษัทในต่างประเทศ และได้ทำสัญญาสั่งซื้อกับโจทก์ ตรวจสอบสินค้าและออกใบรับรองการตรวจสินค้าให้โจทก์ ซึ่งเป็นการกระทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทในต่างประเทศ จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวแทนของบริษัทดังกล่าวในการซื้อสินค้าจากโจทก์ต้องรับผิดตามสัญญาที่ทำกับโจทก์ แม้โจทก์ให้ค่าตอบแทนแก่จำเลยที่ 2 ด้วยก็เพราะจำเลยที่ 2 นำผลประโยชน์ทางการค้ามาให้โจทก์ หาทำให้จำเลยที่ 2 กลายเป็นนายหน้าของโจทก์ไม่
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 ชำระค่าสินค้า จำเลยที่ 2 ให้การเพียงว่า การที่โจทก์ไม่ได้รับชำระเป็นความผิดของโจทก์ที่มิได้ปฏิบัติตามสัญญาแต่มิได้อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธว่าโจทก์ผิด สัญญาอย่างไร จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยที่ 2 ย่อมไม่มีสิทธิที่จะนำสืบตามคำให้การส่วนนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งทางทะเล กรณีสินค้าสูญหาย และอายุความในการฟ้องร้องค่าเสียหาย
เรือต้องคลื่นลมแรงและสภาวะอากาศที่เลวร้ายมากในระหว่างทาง เมื่อไม่ปรากฏว่าคลื่นลมและสภาวะอากาศดังกล่าวมีความร้ายแรงถึงขนาดที่ไม่อาจจะป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่สินค้าในเรือได้ คลื่นลมและสภาวะอากาศเช่นนั้นจึงมิใช่เหตุสุดวิสัยตาม ป.พ.พ. มาตรา 8 อันจะทำให้ผู้ขนส่งหลุดพ้นความรับผิดในกรณีสินค้าสูญหายระหว่างการขนส่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 616
ป.พ.พ. มาตรา 824 บัญญัติให้ตัวแทนในประเทศรับผิดแทนตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศต่อบุคคลภายนอกก็เฉพาะแต่กรณีที่ตัวแทนผู้นั้นได้ทำสัญญากับบุคคลภายนอกแทนตัวการเท่านั้น เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทำสัญญาขนส่งสินค้ากับบุคคลภายนอกแทนตัวการ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามสัญญาดังกล่าวแต่ลำพังตนเอง
จำเลยเป็นผู้ทำหน้าที่ขนถ่ายสินค้าจากเรือไปเก็บในคลังสินค้า เป็นผู้จัดหาผู้รับเหมามาจัดการขนถ่ายสินค้า เป็นตัวแทนเรือเดินทะเลหลายบริษัทรวมทั้งบริษัทฟ. ซึ่งไม่มีตัวแทนอื่นในประเทศไทย และหากมีผู้ใดต้องการส่งสินค้าโดยเรือของบริษัท ฟ. จำเลยจะเป็นผู้รับติดต่อและเป็นผู้ออกใบตราส่งให้แก่ผู้ส่งสินค้า และเก็บค่าระวางเรือส่งไปให้เจ้าของเรือ เมื่อเรือของบริษัทดังกล่าวมาถึงประเทศไทยจำเลยมีหน้าที่ต้องติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการขนถ่ายสินค้า แจ้งให้ลูกค้าผู้สั่งซื้อสินค้าทราบถึงกำหนดเรือเข้า ออกใบปล่อยสินค้าเพื่อให้ลูกค้านำไปขอรับสินค้า และจำเลยรับเอาใบตราส่งจากลูกค้าไว้ พฤติการณ์เช่นนี้ของจำเลยเป็นลักษณะร่วมกันขนส่งสินค้าและเป็นการขนส่งหลายทอดตามวิธีการขนส่งทางทะเลโดยจำเลยทำหน้าที่ผู้ขนส่งทอดหลังที่สุด จำเลยจึงต้องรับผิดร่วมด้วยในกรณีสินค้าที่ขนส่งสูญหายตาม ป.พ.พ. มาตรา 618 ซึ่งเป็นบทกฎหมายใกล้เคียงกับกฎหมายว่าด้วยการรับขนทางทะเล
การรับขนของจากต่างประเทศมายังประเทศไทยทางทะเล แม้ของจะมาถึงประเทศไทยแล้ว ก็ยังเป็นสัญญาในการรับขนของทางทะเล ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยการรับขนทางทะเลโดยเฉพาะการเรียกร้องค่าเสียหายจึงต้องใช้อายุความทั่วไปตาม ป.พ.พ.มาตรา 164 มีกำหนด 10 ปี ซึ่งเป็นบทกฎหมายใกล้เคียงยิ่งกว่าที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. ลักษณะ 8 เรื่องรับขน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางเรือ และขอบเขตความรับผิดของตัวแทนเรือ
เรือฉลอมลำน้ำของโจทก์ถูกเรือ อ. ชนจมลงเมื่อวันที่ 11เมษายน 2520 โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าบริษัท ท. เป็นผู้รับประกันวินาศภัยเรือ อ. ขอให้เรียกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2523 ซึ่งเป็นเวลากว่าสองปี นับแต่วันวินาศภัย คดีโจทก์สำหรับจำเลยร่วมจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882
ทนายจำเลยร่วมมีหนังสือถึงโจทก์ว่าเรื่องที่เรือโจทก์เกิดชนกับเรือ อ. และโจทก์ขอเรียกค่าเสียหายได้ส่งเรื่องให้ตัวการคือเจ้าของเรือ อ.พิจารณาต่อไปแล้วจะแจ้งผลการพิจารณาให้โจทก์ทราบภายในเวลาอันสมควรกับได้ให้เจ้าของเรือที่ได้รับความเสียหายส่งสำเนาใบประเมินความเสียหายมาให้รายละ 3 ฉบับนั้น การกระทำของจำเลยร่วมดังกล่าวเป็นเพียงแต่จะพิจารณาเรื่องค่าเสียหายยังไม่เป็นการแน่นอนว่าจะใช้ค่าเสียหายตามที่โจทก์เรียกร้อง จึงไม่เป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัย ตระหนักเป็นปริยายว่าจำเลยร่วมยอมรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
จำเลยเป็นเพียงตัวแทนเจ้าของเรือต่างประเทศ มีหน้าที่ในการรับขนสินค้าลงจากเรือ ติดต่อดำเนินพิธีการด้านการท่าเรือ การศุลกากรและการตรวจคนเข้าเมือง จำเลยไม่ต้องรับผิดในการที่กัปตันผู้ควบคุมเรือซึ่งเป็นลูกจ้างเจ้าของเรือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ตัวแทนต้องรับผิดในผลละเมิดที่ลูกจ้างของตัวการได้กระทำไปในหน้าที่การงานของตัวการ ไม่ว่าตัวการจะอยู่ต่างประเทศหรือในประเทศ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากประกันภัยทางทะเล และข้อยกเว้นความรับผิดของตัวแทน
เรือฉลอมลำน้ำของโจทก์ถูกเรือ อ. ชนจมลงเมื่อวันที่ 11เมษายน 2520 โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าบริษัท ท. เป็นผู้รับประกันวินาศภัยเรือ อ. ขอให้เรียกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2523 ซึ่งเป็นเวลากว่าสองปี นับแต่วันวินาศภัย คดีโจทก์สำหรับจำเลยร่วมจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882
ทนายจำเลยร่วมมีหนังสือถึงโจทก์ว่าเรื่องที่เรือโจทก์เกิดชนกับเรือ อ. และโจทก์ขอเรียกค่าเสียหายได้ส่งเรื่องให้ตัวการคือเจ้าของเรือ อ.พิจารณาต่อไปแล้วจะแจ้งผลการพิจารณาให้โจทก์ทราบภายในเวลาอันสมควรกับได้ให้เจ้าของเรือที่ได้รับความเสียหายส่งสำเนาใบประเมินความเสียหายมาให้รายละ 3ฉบับนั้น การกระทำของจำเลยร่วมดังกล่าวเป็นเพียงแต่จะพิจารณาเรื่องค่าเสียหายยังไม่เป็นการแน่นอนว่าจะใช้ค่าเสียหายตามที่โจทก์เรียกร้อง จึงไม่เป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัย ตระหนักเป็นปริยายว่าจำเลยร่วมยอมรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
จำเลยเป็นเพียงตัวแทนเจ้าของเรือต่างประเทศ มีหน้าที่ในการรับขนสินค้าลงจากเรือ ติดต่อดำเนินพิธีการด้านการท่าเรือ การศุลกากรและการตรวจคนเข้าเมือง จำเลยไม่ต้องรับผิดในการที่กัปตันผู้ควบคุมเรือซึ่งเป็นลูกจ้างเจ้าของเรือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ตัวแทนต้องรับผิดในผลละเมิดที่ลูกจ้างของตัวการได้กระทำไปในหน้าที่การงานของตัวการ ไม่ว่าตัวการจะอยู่ต่างประเทศหรือในประเทศ.
of 20