พบผลลัพธ์ทั้งหมด 406 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดอาญา: การกระทำร่วมกันเป็นกรรมเดียวกัน
จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเฮโรอีนจำนวนเดียว กันออกนอกประเทศแต่ แบ่งแยกหน้าที่กันซุกซ่อน โดย จำเลยที่ 1 ซุกซ่อน ติดตัว ไป 3 ก้อนจำเลยที่ 2 ซุกซ่อน ติดตัว ไป 9 ก้อน จำเลยทั้งสองนั่งรถแท็กซี่คันเดียวกันไปยังท่าอากาศยานกรุงเทพเพื่อเดินทางออกนอกประเทศโดย เครื่องบินลำเดียวกัน และถูก จับในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะอยู่ห่างกัน 40 เมตร ดังนี้ การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการร่วมกันกระทำผิดในกรรมเดียวกัน เมื่อจำเลยที่ 2 เคยถูก โจทก์ฟ้องและมีคำพิพากษาถึงที่สุดในกรรมนี้ไปแล้ว โจทก์มาฟ้องจำเลยที่ 2อีกจึงเป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(4) ศาลชอบที่จะยกฟ้องโจทก์เฉพาะตัว จำเลยที่ 2.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในคดีร่วมกระทำผิด: การพิพากษาถึงที่สุดในคดีหนึ่งย่อมห้ามมิให้ฟ้องคดีซ้ำในความผิดเดียวกัน
จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเฮโรอีนจำนวนหนึ่งออกนอกประเทศ โดยแบ่งแยกกันซุกซ่อนตามร่างกายของจำเลยทั้งสองแล้วนั่งรถแท๊กซี่คันเดียวกันไปยังท่าอากาศยานกรุงเทพเพื่อเดินทางออกนอกประเทศโดยเครื่องบินลำเดียวกัน ถูกจับที่ท่าอากาศยานในเวลาไล่เลี่ยกันขณะอยู่ห่างกัน 40 เมตร ดังนี้ การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการร่วมกันกระทำผิดในกรรมเดียวกัน เมื่อจำเลยที่ 2 เคยถูกฟ้องและมีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว โจทก์มาฟ้องจำเลยที่ 2 อีกเป็นฟ้องซ้ำศาลชอบที่จะยกฟ้องโจทก์เฉพาะตัวจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในคดีพนัน: การฟ้องดำเนินคดีซ้ำในความผิดกรรมเดียว ย่อมระงับตามกฎหมาย
จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันป๊อกที่บ้านจำนวน2 วง โดยแต่ละวงมีผู้เข้าร่วมเล่นหลายคน การกระทำของจำเลยที่ 1จึงเป็นความผิดกรรมเดียว แต่โจทก์ได้ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็น 2 คดีตามจำนวนวงการพนันในข้อหาว่าเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันป๊อกเมื่อคดีสำนวนหนึ่งศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดลงโทษจำเลยที่ 1ไปแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 อีกคดีหนึ่งย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ฟ้องซ้ำ สิทธิระงับ
จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันป๊อกที่บ้านจำนวน 2 วง โดยแต่ละวงมีผู้เข้าร่วมเล่นหลายคน การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดกรรมเดียว แต่โจทก์ได้ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็น 2 คดี ตามจำนวนวงการพนันในข้อหาว่าเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันป๊อก เมื่อคดีสำนวนหนึ่งศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดลงโทษจำเลยที่ 1 ไปแล้วสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 อีกคดีหนึ่ง ย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4).(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำเบิกความเท็จ: การฟ้องซ้ำเกิดขึ้นเมื่อข้อกล่าวหาในคดีใหม่มีเนื้อหาซ้ำกับคดีที่เคยฟ้องแล้ว แม้จะต่างกรรมต่างวาระ
โจทก์ฟ้องจำเลยข้อหาเบิกความเท็จในคดีก่อน ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์มาฟ้องจำเลยใหม่เป็นคดีนี้ โดยข้อความที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยเบิกความเท็จในคดีนี้เป็นข้อความในเรื่องเดียวกันมีเนื้อหาสาระอย่างเดียวกับที่โจทก์เคยฟ้องจำเลยในคดีก่อน แม้การเบิกความดังกล่าวเป็นคนละคราวกัน แต่ข้อความที่เบิกความมีมูลเหตุอันเดียวกันและเป็นการกล่าวตามครรลองของเรื่องเท่านั้น การที่โจทก์นำมาฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยเบิกความเท็จซ้ำอีก จึงเป็นฟ้องซ้ำ เพราะมิฉะนั้นแล้วจำเลยย่อมถูกฟ้องร้องไม่มีวันสิ้นสุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำเบิกความเท็จ: การฟ้องซ้ำในข้อหาเดิม แม้ต่างคราว หากมีมูลเหตุเดียวกัน
โจทก์ฟ้องจำเลยข้อหาเบิกความเท็จในคดีก่อน ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์มาฟ้องจำเลยใหม่เป็นคดีนี้ โดย ข้อความที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยเบิกความเท็จในคดีนี้ เป็นข้อความในเรื่องเดียวกันมีเนื้อหาสาระอย่างเดียวกับที่โจทก์เคยฟ้องจำเลยในคดีก่อน แม้การเบิกความดังกล่าวเป็นคนละคราวกันแต่ ข้อความที่เบิกความมีมูลเหตุอันเดียวกันและเป็นการกล่าวตาม ครรลอง ของเรื่องเท่านั้น การที่โจทก์นำมาฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยเบิกความเท็จซ้ำ อีก จึงเป็นฟ้องซ้ำ เพราะมิฉะนั้นแล้วจำเลยย่อมถูก ฟ้องร้องไม่มีวันสิ้นสุด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6678/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดเดียว: สิทธิฟ้องระงับเมื่อรับของโจรคราวเดียวกันแต่แยกฟ้อง
จำเลยรับของโจรทรัพย์ 13 รายการไว้ในคราวเดียวกัน แม้จะปรากฏว่าทรัพย์ดังกล่าวแต่ละรายการเป็นของผู้เสียหายหลายคนต่างกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดกรรมเดียว การที่โจทก์แยกฟ้องจำเลยเป็นแต่ละคดีตามจำนวนของผู้เสียหายรวมทั้งคดีนี้ด้วยนั้น เมื่อได้ความว่าศาลชั้นต้นในคดีอื่นได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดลงโทษจำเลยในความผิดฐานรับของโจรทรัพย์บางรายการที่จำเลยรับมาในคราวเดียวกับคดีนี้แล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิจะนำคดีมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานรับของโจรเป็นคดีนี้อีก เพราะสิทธินำคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6678/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดเดียว: การระงับสิทธิฟ้องเมื่อรับของโจรในคราวเดียวกันแต่ถูกฟ้องแยกคดี
จำเลยรับของโจรทรัพย์รวม 13 รายการไว้ในคราวเดียวกันแม้จะปรากฏว่าทรัพย์ดังกล่าวแต่ละรายการเป็นของผู้เสียหายหลายคนต่างกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดกรรมเดียว การที่โจทก์แยกฟ้องจำเลยเป็นแต่ละคดีตามจำนวนของผู้เสียหายรวมทั้งคดีนี้ด้วยนั้น เมื่อได้ความว่าศาลชั้นต้นในคดีอื่นได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดลงโทษจำเลยในความผิดฐานรับของโจร ทรัพย์บางรายการที่จำเลยรับมาในคราวเดียวกับคดีนี้แล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิจะนำคดีมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานรับของโจรเป็นคดีนี้อีก เพราะสิทธินำคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6678/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดเดียวกัน – รับของโจรหลายรายการพร้อมกัน – สิทธิฟ้องระงับตามมาตรา 39(4)
จำเลยรับของโจรทรัพย์ 13 รายการไว้ในคราวเดียวกันแม้จะปรากฏว่าทรัพย์ดังกล่าวแต่ละรายการเป็นของผู้เสียหายหลายคนต่างกันการกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดกรรมเดียว การที่โจทก์แยกฟ้องจำเลยเป็นแต่ละคดีตามจำนวนของผู้เสียหายรวมทั้งคดีนี้ด้วยนั้น เมื่อได้ความว่าศาลชั้นต้นในคดีอื่นได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดลงโทษจำเลยในความผิดฐานรับของโจรทรัพย์บางรายการที่จำเลยรับมาในคราวเดียวกับคดีนี้แล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิจะนำคดีมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานรับของโจรเป็นคดีนี้อีกเพราะสิทธินำคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5429/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดฐานจัดหางาน: การกระทำความผิดกรรมเดียว แม้มีผู้เสียหายหลายราย
จำเลยถูกฟ้องในข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 30,82 รวม 2 คดี คดีก่อนเกิดเหตุในช่วงระยะเวลาเดียวกันกับคดีนี้ แม้จำเลยจะกระทำความผิดแก่ผู้เสียหายหลายราย แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้หยุดดำเนินกิจการจัดหางานในช่วงระยะเวลาดังกล่าว จำเลยจึงมีเจตนาที่จะดำเนินกิจการจัดหางานในคราวเดียวกัน การกระทำของจำเลยทั้งสองคดีจึงเป็นความผิดกรรมเดียวกัน เมื่อคดีก่อนศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดให้ลงโทษจำเลยฟ้องโจทก์คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำกับคดีก่อน สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)