พบผลลัพธ์ทั้งหมด 406 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาต่างกรรมต่างวาระ การรับสารภาพ และอำนาจการสอบถามจำเลยของศาล
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็น 2 คดี คดีแรกฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรโคจำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร ศาลลงโทษไปแล้ว คดีหลังฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรกระบือ โดยโจทก์บรรยายฟ้องให้เห็นว่ามีผู้พบเห็นจำเลยครอบครองโคกระบือของกลางทั้งสองคดีอยู่ในขณะเดียวกันและแถลงรับว่าฟ้องคดีโดยอาศัยข้อเท็จจริงที่มีผู้พบเห็นจำเลยครอบครองของกลางดังกล่าว จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจรอีกกับแถลงรับตามที่ศาลสอบถามว่า จำเลยกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกันกับคดีก่อน เช่นนี้ แม้โจทก์ไม่สืบพยาน ศาลก็ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรในคดีหลังได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ และการที่ศาลถามจำเลยดังกล่าวก็เป็นการสอบถามในรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริง ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 235 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำซ้อนหลังศาลทหารไม่รับคำฟ้อง และขอบเขตอำนาจศาล
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลทหารหาว่าปล้นทรัพย์ ฯลฯ ศาลทหารวินิจฉัยว่าพฤติการณ์ของจำเลยส่อไปในทางน่าสงสัย จำเลยอาจกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรก็ได้ แต่ไม่อยู่ในอำนาจของศาลทหารจะวินิจฉัย จึงไม่วินิจฉัยให้เด็ดขาดลงไป แต่การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ โจทก์ย่อมนำคดีมาฟ้องจำเลยศาลพลเรือนหาว่าลักทรัพย์หรือรับของโจร ของกลางรายเดียวกันนั้นใหม่ได้ สิทธินำคดีมาฟ้องหาระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำหลังศาลทหารไม่รับอำนาจ พิจารณาคดีอาญาฐานลักทรัพย์/รับของโจร และผลกระทบต่อการดำเนินคดีในศาลพลเรือน
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลทหารหาว่าปล้นทรัพย์ ฯลฯศาลทหารวินิจฉัยว่าพฤติการณ์ของจำเลยส่อไปในทางน่าสงสัยจำเลยอาจกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรก็ได้แต่ไม่อยู่ในอำนาจของศาลทหารจะวินิจฉัยจึงไม่วินิจฉัยให้เด็ดขาดลงไป แต่การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ โจทก์ย่อมนำคดีมาฟ้องจำเลยต่อศาลพลเรือนหาว่าลักทรัพย์หรือรับของโจรของกลางรายเดียวกันนั้นใหม่ได้สิทธินำคดีมาฟ้องหาระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: การนำความผิดทำร้ายร่างกายที่ศาลทหารตัดสินแล้ว มาเป็นองค์ความผิดในคดีบุกรุกต่อศาลอาญา
จำเลยถูกฟ้องยังศาลทหารฐานทำร้ายร่างกายและศาลพิพากษาลงโทษจำเลย คดีเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว ต่อมาอัยการยังฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาฐานบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายอีก โดยเอาการทำร้ายร่างกายครั้งเดียวกันนั่นเองมาเป็นองค์ความผิดของคดีหลังนี้ด้วย ดังนี้ ต้องถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: การนำความผิดเดิมที่ศาลทหารตัดสินแล้วมาเป็นองค์ความผิดในคดีอาญาใหม่ ถือเป็นการฟ้องซ้ำตามกฎหมาย
จำเลยถูกฟ้องยังศาลทหารฐานทำร้ายร่างกายและศาลพิพากษาลงโทษจำเลย คดีเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว ต่อมาอัยการยังฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาฐานบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายอีก โดยเอาการทำร้ายร่างกายครั้งเดียวกันนั่นเองมาเป็นองค์ความผิดของคดีหลังนี้ด้วยดังนี้ ต้องถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: ฉุดคร่าและข่มขืน แม้ต่อเนื่องกันก็เป็นคนละกรรมได้
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายจากทางเดินนำเข้าป่าข้างทางห่างทางเดิน 7-8 วา แล้วร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในป่านั้น เป็นการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
มาตรา 281 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่ใช่บทลงโทษ ไม่จำต้องยกขึ้นปรับบทลงโทษ
มาตรา 281 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่ใช่บทลงโทษ ไม่จำต้องยกขึ้นปรับบทลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรม: ฉุดคร่าและข่มขืนกระทำชำเรา แม้ต่อเนื่องกันก็เป็นคนละกรรมได้
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายจากทางเดิน นำเข้าป่าข้างทางห่างทางเดิน 7-8 วา แล้วร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในป่านั้น เป็นการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
มาตรา 281 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่ใช่บทลงโทษ ไม่จำต้องยกขึ้นปรับบทลงโทษจำเลย
มาตรา 281 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่ใช่บทลงโทษ ไม่จำต้องยกขึ้นปรับบทลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1520/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายหลายคนต่างกรรมต่างวาระ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ แม้ศาลเคยพิพากษาลงโทษในคดีหนึ่งไปแล้ว
การที่จำเลยใช้ไม้ตีทำร้ายผู้เสียหายสามคนในระยะเวลาติดต่อกันนั้น ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยต่างกรรมต่างวาระกัน เมื่อโจทก์ฟ้องและศาลลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายคนหนึ่งแล้ว คดีก็ย่อมเสร็จเด็ดขาดไปเฉพาะกระทงความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายคนนั้นเท่านั้นส่วนกระทงความผิดที่จำเลยทำร้ายผู้เสียหายอื่นยังหาได้มีการพิจารณาพิพากษาเสร็จเด็ดขาดไปไม่ โจทก์จึงฟ้องจำเลยอีกได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1520/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายหลายคนต่างกรรมต่างวาระ ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ สิทธิฟ้องยังไม่ระงับ
การที่จำเลยใช้ไม้ตีทำร้ายผู้เสียหายสามคนในระยะเวลาติดต่อกันนั้น ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยต่างกรรมต่างวาระกัน เมื่อโจทก์ฟ้องและศาลลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายคนหนึ่งแล้ว คดีก็ย่อมเสร็จเด็ดขาดไปเฉพาะกระทงความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายคนนั้นเท่านั้นส่วนกระทงความผิดที่จำเลยทำร้ายผู้เสียหายอื่นยังหาได้มีการพิจารณาพิพากษาเสร็จเด็ดขาดไปไม่ โจทก์จึงฟ้องจำเลยอีกได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉุดคร่าห์และการข่มขืนเป็นคนละกรรมต่างวาระ แม้มีเจตนาเชื่อมโยงกัน
จำเลยฉุดคร่าห์หญิงไปเพื่อการอนาจารแล้วต่อมาในวันเดียวกันจำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราหญิงนั้นด้วย ถือว่าความผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารและความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจาร ในคดีหนึ่งไปแล้ว ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยฐานข่มขืนกระทำชำเราในอีกคดีหนึ่งได้