พบผลลัพธ์ทั้งหมด 197 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนอุทธรณ์และการส่งคำร้องให้คู่ความอีกฝ่าย รวมถึงการดำเนินการของศาลอุทธรณ์ก่อนมีคำพิพากษา
จำเลยฝ่ายเดียวเป็นผู้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นและได้ร้องขอถอนฟ้องอุทธรณ์นั้นในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ศาลชั้นต้นจำต้องจัดการส่งสำเนาคำร้องขอถอนฟ้องอุทธรณ์ให้อีกฝ่ายหนึ่ง แล้วส่งคำร้องไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อสั่ง และศาลอุทธรณ์ต้องสั่งคำร้องนั้นก่อนมีคำพิพากษา การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีและศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินการส่งสำเนาคำร้องขอถอนอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ และศาลอุทธรณ์ยังมิได้สั่งคำร้องขอถอนอุทธรณ์ของจำเลย จึงเป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการส่งสำเนาคำร้องขอถอนฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยแล้วส่งศาลอุทธรณ์เพื่อสั่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องอุทธรณ์ต้องแจ้งอีกฝ่ายและรอคำสั่งศาลอุทธรณ์ก่อนมีคำพิพากษา การเพิกเฉยเป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
จำเลยฝ่ายเดียวเป็นผู้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นและได้ร้องขอถอนฟ้อง อุทธรณ์นั้นในระหว่างการพิจารณา ของศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นจำต้องจัดการส่งสำเนาคำร้องขอถอนฟ้อง อุทธรณ์ให้อีกฝ่ายหนึ่ง แล้วส่งคำร้องไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อสั่ง และศาลอุทธรณ์ต้องสั่งคำร้องนั้นก่อนมีคำพิพากษา การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีและศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินการส่งสำเนาคำร้องขอถอนอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ และศาลอุทธรณ์ยังมิได้สั่งคำร้องขอถอนอุทธรณ์ของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการส่งสำเนาคำร้องขอถอนฟ้อง อุทธรณ์ของจำเลยแล้วส่งศาลอุทธรณ์เพื่อสั่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินมรดก: ส.ค.1 ไม่ใช่เอกสารเด็ดขาดในการพิสูจน์สิทธิ
จำเลยแจ้งการครอบครองที่พิพาทตาม ส.ค.1 โดยระบุการได้มาว่า โจทก์ซึ่งเป็นพี่สาวแบ่งให้ ก็นำสืบได้ว่าที่พิพาทเดิมเป็นของบิดามารดา เมื่อบิดามารดาตายโจทก์จำเลยและพี่น้องได้ร่วมทำกินในที่พิพาทแล้วแบ่งปันกันเพราะ ส.ค.1 ไม่ใช่เอกสารที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีมาแสดง จึงไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 ที่ไม่ให้สืบพยานบุคคลแก้ไข
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินมรดก: ส.ค.1 ไม่ห้ามนำสืบข้อเท็จจริงเดิมได้
แม้จำเลยจะแจ้งการครอบครองที่พิพาทตาม ส.ค. 1 โดยระบุการได้มาว่าโจทก์ซึ่งเป็นพี่สาวแบ่งให้ก็ตาม จำเลยก็ยังสามารถนำสืบได้ว่า ที่พิพาทเดิมเป็นของบิดามารดา เมื่อบิดามารดาตาย โจทก์จำเลยและพี่น้องได้ร่วมทำก้นในที่พิพาทแล้วแบ่งปันกันได้ เพราะ ส.ค. 1 ไม่ใช่เอกสารที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีมาแสดง จึงไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 ที่ไม่ให้สืบพยานบุคคลแก้ไข.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งที่ดินโดยการแบ่งมรดกและการแจ้งการครอบครอง ส.ค.๑ ไม่ขัดต่อการนำสืบพยาน
จำเลยแจ้งการครอบครองที่พิพาทตาม ส.ค.๑ โดย ระบุการได้ มาว่าโจทก์ซึ่ง เป็นพี่สาวแบ่งให้ ก็นำสืบได้ว่าที่พิพาทเดิม เป็นของบิดามารดา เมื่อบิดามารดาตาย โจทก์จำเลยและพี่น้องได้ ร่วมทำกินในที่พิพาทแล้วแบ่งปันกัน เพราะ ส.ค.๑ ไม่ใช่เอกสารที่กฎหมายบังคับให้ต้อง มีมาแสดง จึงไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๙๔ ที่ไม่ให้สืบพยานบุคคลแก้ไข.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งที่ดินโดยการแบ่งมรดกและการครอบครอง ส.ค.1 ไม่ใช่เอกสารที่ต้องแสดงตาม มาตรา 94
จำเลยแจ้งการครอบครองที่พิพาทตาม ส.ค.1 โดย ระบุการได้ มาว่าโจทก์ซึ่ง เป็นพี่สาวแบ่งให้ ก็นำสืบได้ว่าที่พิพาทเดิม เป็นของบิดามารดา เมื่อบิดามารดาตาย โจทก์จำเลยและพี่น้องได้ ร่วมทำกินในที่พิพาทแล้วแบ่งปันกัน เพราะ ส.ค.1 ไม่ใช่เอกสารที่กฎหมายบังคับให้ต้อง มีมาแสดง จึงไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 ที่ไม่ให้สืบพยานบุคคลแก้ไข.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6726/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นฎีกา: เหตุผล 'ผู้จัดการเดินทางไปต่างประเทศ' ไม่ถือเป็นพฤติการณ์พิเศษ
การที่ผู้จัดการของโจทก์เดินทางไปต่างประเทศ โจทก์จึงไม่สามารถเบิกเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลพร้อมกับฎีกาได้ เป็นความผิดพลาดหรือความบกพร่องของโจทก์เอง มิใช่เป็นพฤติการณ์พิเศษซึ่งเกิดขึ้นโดยที่โจทก์ไม่อาจคาดคิดและทำให้โจทก์ไม่สามารถหาเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลได้ จึงไม่ถือว่าที่พฤติการณ์พิเศษที่จะขอให้ศาลสั่งขยายระยะเวลายื่นฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6320/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฎีกาในคดีอาญาที่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้ประทับฟ้อง
คดีที่มิใช่ความผิดต่อส่วนตัวซึ่งราษฎรเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาโจทก์ยื่นคำต้องขอถอนฟ้อง จำเลยไม่ค้าน แต่เมื่อศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งประทับฟ้องโจทก์ ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำร้องพอแปลได้ว่าโจทก์มีความประสงค์ขอถอนฎีกา จึงอนุญาตให้ถอนฎีกาได้ให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6320/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฎีกาในคดีอาญา: ศาลอนุญาตถอนได้หากยังไม่ได้สั่งประทับฟ้อง
ดังที่ราษฎรเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษา โจทก์ฎีกา ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง จำเลยไม่ค้าน เมื่อศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งประทับฟ้องโจทก์ ตามคำร้องพอแปลได้ว่าโจทก์มีความประสงค์ขอถอนฎีกา ศาลฎีกาอนุญาตให้ถอนฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5850/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีโดยการมอบอำนาจ: ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจเป็นโจทก์ได้หรือไม่ และขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 60 หรือไม่
หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ระบุว่า บริษัทผู้เสียหายขอมอบอำนาจให้ อ. กระทำการแทนโจทก์ในกิจการต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ รวมทั้งให้มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีได้ด้วย ดังนี้ อ. จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีได้ หาเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60 ไม่