พบผลลัพธ์ทั้งหมด 672 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1187/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร แม้มิใช่ผู้เสียหายทางอาญา
ผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา ม.2 (4) หมายถึงบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ถูกประทุษร้ายได้รับความเสียหายอันเป็นที่เห็นประจักษ์โดยตรงแต่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารและจำเลยก็มิได้กระทำผิดทางอาญา ต่อโจทก์แต่อย่างใด ดังนี้โจทก์จึงหาใช่ผู้เสียหายไม่
เมื่อโจทก์มิใช่ผู้เสียหายแล้วก็ย่อมนำม.51 มาปรับแก่คดีไม่ได้
เมื่อ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร ม.11 วรรค 2 ให้อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นร้องขอต่อศาลให้ผู้กระทำผิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือรื้อถอนอาคารที่สร้างผิดแผกไปจากแผนผังก่อสร้างได้ทั้งโจทก์ก็ได้โต้แย้งให้แก้ไขแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับได้
ตามที่ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารมิได้บัญญัติเรื่องอายุความฟ้องร้องไว้ ก็ต้องใช้อายุความตามหลักทั่วไปแห่ง ป.พ.พ.ม.169
เมื่อโจทก์มิใช่ผู้เสียหายแล้วก็ย่อมนำม.51 มาปรับแก่คดีไม่ได้
เมื่อ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร ม.11 วรรค 2 ให้อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นร้องขอต่อศาลให้ผู้กระทำผิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือรื้อถอนอาคารที่สร้างผิดแผกไปจากแผนผังก่อสร้างได้ทั้งโจทก์ก็ได้โต้แย้งให้แก้ไขแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับได้
ตามที่ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารมิได้บัญญัติเรื่องอายุความฟ้องร้องไว้ ก็ต้องใช้อายุความตามหลักทั่วไปแห่ง ป.พ.พ.ม.169
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1187/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกรณีการก่อสร้างผิดกฎหมาย และอายุความตามหลักทั่วไป
ผู้เสียหายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) หมายถึงบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ถูกประทุษร้ายได้รับความเสียหายอันเป็นที่เห็นประจักษ์โดยตรง แต่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร และจำเลยก็มิได้กระทำผิดทางอาญาต่อโจทก์แต่อย่างใด ดังนี้โจทก์จึงหาใช่ผู้เสียหายไม่
เมื่อโจทก์มิใช่ผู้เสียหายแล้วก็ย่อมนำมาตรา 51 มาปรับแก่คดีไม่ได้
เมื่อพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร มาตรา 11 วรรคสอง ให้อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นร้องขอต่อศาลให้ผู้กระทำผิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือรื้อถอนอาคารที่สร้างผิดแผกไปจากแผนผังแบบก่อสร้างได้ ทั้งโจทก์ก็ได้โต้แย้งให้แก้ไขแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับได้
ตามที่พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารมิได้บัญญัติเรื่องอายุความฟ้องร้องไว้ ก็ต้องใช้อายุความตามหลักทั่วไปแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
เมื่อโจทก์มิใช่ผู้เสียหายแล้วก็ย่อมนำมาตรา 51 มาปรับแก่คดีไม่ได้
เมื่อพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร มาตรา 11 วรรคสอง ให้อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นร้องขอต่อศาลให้ผู้กระทำผิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือรื้อถอนอาคารที่สร้างผิดแผกไปจากแผนผังแบบก่อสร้างได้ ทั้งโจทก์ก็ได้โต้แย้งให้แก้ไขแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับได้
ตามที่พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารมิได้บัญญัติเรื่องอายุความฟ้องร้องไว้ ก็ต้องใช้อายุความตามหลักทั่วไปแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความใบมอบอำนาจและการขอบเขตฟ้องร้อง: ใบมอบอำนาจจัดการทรัพย์สินไม่มีอายุความตราบใดที่ยังตกลงกันอยู่ และฟ้องร้องต้องพิจารณาจากรายละเอียดในฟ้อง
การที่ผู้มอบทำใบมอบอำนาจให้ผู้รับมอบจัดการเกี่ยวกับแก่ทรัพย์สินตลอดจนฟ้องคดีโดยทั่ว ๆ ไปเช่นนี้ ไม่มีกำหนดอายุความตราบใดที่ยังตกลงมอบและรับมอบอำนาจกันอยู่ต่อไปย่อมใช้ได้และเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวแก่การใช้สิทธิเรียกร้อง จะยกอายุความทั่วไป 10 ปีมาใช้บังคับไม่ได้
แม้ในฟ้องโจทก์จะบรรยายว่าจำเลยกู้เงินโจทก์แต่เมื่อพิจารณาฟ้องโดยละเอียดแล้วเข้าใจว่าโจทก์เพียงเรียกเงินที่จำเลยกู้จากผู้มอบอำนาจไม่ใช่เรียกเงินที่จำเลยกู้ตัวโจทก์ผู้รับมอบอำนาจเอง ปรากฎชัดตามสำเนากู้ท้ายฟ้องว่าจำเลยกู้เงินหลวงสิทธิผู้มอบอำนาจ ดังนี้ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้
แม้ในฟ้องโจทก์จะบรรยายว่าจำเลยกู้เงินโจทก์แต่เมื่อพิจารณาฟ้องโดยละเอียดแล้วเข้าใจว่าโจทก์เพียงเรียกเงินที่จำเลยกู้จากผู้มอบอำนาจไม่ใช่เรียกเงินที่จำเลยกู้ตัวโจทก์ผู้รับมอบอำนาจเอง ปรากฎชัดตามสำเนากู้ท้ายฟ้องว่าจำเลยกู้เงินหลวงสิทธิผู้มอบอำนาจ ดังนี้ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบมอบอำนาจจัดการทรัพย์สินและฟ้องร้องคดีไม่มีอายุความ ตราบใดที่ยังตกลงกันอยู่
การที่ผู้มอบทำใบมอบอำนาจให้ผู้รับมอบจัดการเกี่ยวแก่ทรัพย์สินตลอดจนฟ้องคดีโดยทั่วๆ ไปเช่นนี้ ไม่มีกำหนดอายุความ ตราบใดที่ยังตกลงมอบและรับมอบอำนาจกันอยู่ต่อไปย่อมใช้ได้ และเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวแก่การใช้สิทธิเรียกร้อง จะยกอายุความทั่วไป 10 ปีมาใช้บังคับไม่ได้
แม้ในฟ้องโจทก์จะบรรยายว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ แต่เมื่อพิจารณาฟ้องโดยละเอียดแล้วเข้าใจได้ว่าโจทก์เพียงเรียกเงินที่จำเลยกู้จากผู้มอบอำนาจไม่ใช่เรียกเงินที่จำเลยกู้ตัวโจทก์ผู้รับมอบอำนาจเอง ปรากฏชัดตามสำเนากู้ท้ายฟ้องว่าจำเลยกู้เงินหลวงสิทธิผู้มอบอำนาจดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้
แม้ในฟ้องโจทก์จะบรรยายว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ แต่เมื่อพิจารณาฟ้องโดยละเอียดแล้วเข้าใจได้ว่าโจทก์เพียงเรียกเงินที่จำเลยกู้จากผู้มอบอำนาจไม่ใช่เรียกเงินที่จำเลยกู้ตัวโจทก์ผู้รับมอบอำนาจเอง ปรากฏชัดตามสำเนากู้ท้ายฟ้องว่าจำเลยกู้เงินหลวงสิทธิผู้มอบอำนาจดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารซื้อขายสิทธิเรียกร้องเงินตราต่างประเทศ ไม่ใช่ตั๋วเงิน อายุความ 3 ปีใช้ได้
โจทก์ขายสิทธิเรียกร้องเงินเหรียญฮ่องกง ให้จำเลยโดยโจทก์ออกตั๋วแสดงว่าจำเลยมีสิทธิเรียกร้องจำนวนเงินเหรียญดังกล่าวจากอีกบริษัทหนึ่ง และจำเลยสัญญาจะจ่ายเงินไทยให้โจทก์ตามอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อเอกสารนั้นไม่ระบุว่าเป็นตั๋วแลกเงินประเภทใดและไม่มีลักษณะให้เห็นว่าเปลี่ยนมือกันได้จึงไม่มีสภาพเป็นตั๋วเงินแและถืออายุความ 3 ปี อย่างตั่วเงินไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารซื้อขายสิทธิเรียกร้องเงินตราต่างประเทศ ไม่ใช่ตั๋วเงิน อายุความ 3 ปี, การค้า, การรับชำระหนี้
โจทก์ขายสิทธิเรียกร้องเงินเหรียญฮ่องกง ให้จำเลยโดยโจทก์ออกตั๋วแสดงว่าจำเลยมีสิทธิเรียกร้องจำนวนเงินเหรียญดังกล่าวจากอีกบริษัทหนึ่งและจำเลยสัญญาจะจ่ายเงินไทยให้โจทก์ตามอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเอกสารนั้นไม่ระบุว่าเป็นตั๋วแลกเงินประเภทใดและไม่มีลักษณะให้เห็นว่าเปลี่ยนมือกันได้จึงไม่มีสภาพเป็นตั๋วเงินและถืออายุความ3 ปี อย่างตั๋วเงินไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์หลังสัญญาซื้อขาย
ซื้อขายที่ดินมีโฉนดแก่กันได้มอบที่ดินและโฉนดให้ผู้ซื้อยึดถือครอบครองแล้ว ฝ่ายผู้ซื้อก็ชำระราคาแล้ว สัญญาว่าจะไปโอนทะเบียนกันภายใน 1 เดือน แต่แล้วก็ไม่ได้ไปโอนกัน ฝ่ายผู้ซื้อก็คงครอบครองที่ดินโดยเจตนาเป็นเจ้าของด้วยความสงบและเปิดเผยมาถึง 24 ปี ดังนี้ฝ่ายผู้ซื้อย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ซื้อขายกันนี้แล้ว ฉะนั้นแม้ภายหลังผู้ซื้อและผู้ขายได้ถึงแก่กรรมลงทั้งสองฝ่าย ทายาทของผู้ซื้อก็มีสิทธิฟ้องขอให้ถอนชื่อในโฉนดโอนทะเบียนใส่ชื่อทายาทผู้ซื้อ ได้ ไม่ใช่เรื่องขาดอายุความและสิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 163,164,169
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องบังคับตามสัญญาซื้อขาย และภาระการพิสูจน์การครอบครองปรปักษ์ที่ดินที่มีโฉนด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายที่ดินมีโฉนดให้ และโจทก์ได้ครอบครองมา 10 ปีกว่าแล้ว ขอให้จำเลยโอนแก้ทะเบียนให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขายหรือให้ถอนชื่อจำเลยออกใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดแทน จำเลยต่อสู้ว่าได้มอบที่ดินให้โจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ดังนี้ ประเด็นตกเป็นหน้าที่โจทก์นำสืบก่อน เพราะภาระการพิสูจน์ว่า การครอบครองของโจทก์ได้เป็นไปโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของยังคงตกอยู่แก่โจทก์ทั้งนี้เพราะการอ้างถึงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินตามมาตรา 1382 สำหรับที่ดินที่มีหนังสือสำคัญ แสดงกรรมสิทธิ์ว่าเป็นของผู้อื่นอยู่แล้วนั้น ผู้อ้างจะต้องแสดงหลักฐานให้เป็นที่พอใจต่อศาล ศาลจึงจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งแสดงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์เพื่อการจดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งพ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7)2486มาตรา 14 และกฎกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 1 มกราคม 2486ข้อ 1
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแก่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาให้ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแก่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาให้ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องเรียกทรัพย์คืนจากการซื้อขาย และภาระการพิสูจน์การครอบครองเพื่ออ้างกรรมสิทธิ์
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายที่ดินมีโฉนดให้ และโจทก์ได้ครอบครองมา 10 ปีกว่าแล้ว ขอให้จำเลยโอนแก้ทะเบียนให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขายหรือใไ้ถอนชื่อจำเลยออกใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดแทน จำเลยต่อสู้ว่าได้มอบที่ดินให้โจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ประเด็นตกเป็นหน้าที่โจทก์นำสืบก่อน เพราะภาระการพิสูจน์ว่า การครอบครองของโจทก์ได้เป็นไปโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของยังคงตกอยู่แก่โจทก์ ทั้งนี้เพราะการอ้างถึงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินตามมาตรา 1382 สหรับที่ดินที่มีหนังสือสำคัญ แสดงกรรมสิทธิว่าเป็นของผู้อื่นอยู่แล้วนั้น ผู้อ้างจะต้องแสดงหลักฐานให้เป็นที่พอใจต่อศาลจึงจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งแสดงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิเพื่อการจดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) 2486 มาตรา 14 และกฎกระทรงมหาดไทยลงวันที่ 1 มกราคม 2486 ข้อ 1
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแต่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้ อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา 10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแต่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้ อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา 10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนที่ดินหลังกู้เงิน แม้ไม่มีกำหนดเวลาและครอบครองนาน ผู้กู้ยังใช้สิทธิได้
การที่กู้เงินแล้วมอบที่ดินให้ทำต่างดอกเบี้ย โดยไม่ได้กำหนดเวลาไถ่ถอนนั้น แม้ผู้ให้กู้จะครอบครองที่ดินนั้นมากว่า 10 ปี จนผู้ให้กู้ตายที่ดินตกทอดไปยังผู้รับมรดกซึ่งทราบถึงการกู้เงินรายนี้และผู้รับมรดกได้ครอบครองที่ดินนั้นต่อไปอีกกว่า 10 ปี ดังนี้ ผู้กู้ขอชำระเงินและไถ่ถอนที่พิพาทคืนได้ ผู้รับมรดกผู้ให้กู้จะอ้างอายุความมรดกมาตัดมิได้ และจะอ้างว่าได้สิทธิโดยครอบครองปรปักษ์ก็ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นการครอบครองในฐานเป็นตัวแทนผู้กู้เจ้าของเดิม