พบผลลัพธ์ทั้งหมด 324 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุ: การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากคู่อาฆาตดักทำร้าย
ผู้ตายมีความพยาบาทดักซุ่มทำร้ายจำเลย พอจำเลยกลับจากธุระเดินผ่านไป ผู้ตายเอาก้อนหินขว้างถูกคิ้วจำเลยแตกแล้วใช้มีดแทงจำเลยถูกแขนขวา 3 แผล และหน้าอกตรงราวนมขวาใกล้รักแร้ 1 แผล จำเลยเตะขาผู้ตายแล้วชกถูกแขนผู้ตายมีดหลุดจากมือผู้ตาย จำเลยแย่งมีดมาได้ ผู้ตายกระโดดเข้ากอดปล้ำจำเลย จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตาย แล้วผู้ตายปล่อยมือที่กอด แล้วล้มลงจำเลยก็ออกวิ่งไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ผู้ตายขาดใจตายอยู่ตรงนั้นในเวลาไล่ ๆ กันนั้นด้วยพิษบาดแผลที่ถูกจำเลยแทงรวม 5 แผล แต่ที่ฉกรรจ์ถึงตายอยู่ที่ไหปลาร้าและลิ้นปี่ทะลุใน นอกนั้นเล็กน้อยดังนี้ตามรูปเรื่องดูเป็นการแลกชีวิตต่อชีวิต ไม่มีทางจะยับยั้งชั่งใจได้ดีกว่านั้น และลักษณะการเช่นนี้แม้การกระทำของจำเลยจะหนักเบาไปหน่อย ก็ควรวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยซึ่งถูกคู่อาฆาตดักลอบทำร้ายเอาโดยไม่ทันรู้ตัว และกำลังอยู่ในฐานะคับขันมาก ยากแก่การจะคะเนมือให้พอเหมะพอดีได้ นับว่าเป็นการป้องกันชีวิตโดยพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกายถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ ศาลลงโทษตามการกระทำได้ แม้ฟ้องในข้อหาปล้นทรัพย์ไม่เป็นผล
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์ และว่าในการปล้นจำเลยได้ใช้สาตราวุธตีและแทงผู้เสียหายคนหนึ่งโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย จนผู้เสียหายคนนั้นตาย และตีและแทงทำร้ายผู้เสียหายอีกคนหนึ่งถึงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 301,249,250 ดังนี้แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าไม่มีการปล้น แต่เป็นเรื่องสมัครใจวิวาทซึ่งกันและกัน จำเลยบางคนแทงอีกฝ่ายหนึ่งถึงบาดเจ็บบ้าง ดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยผู้ที่ทำร้ายเขาถึงตายและบาดเจ็บตามความผิดที่ตนได้กระทำไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ความผิดฐานสมคบกันฆ่า vs. ฆ่าคนตายโดยเจตนา
ผู้ตายเมาสุราพูดจาท้าทายใครต่อใครในงาน อันเป็นการก่อกวนโทษะแก่บุคคลที่อยู่ที่นั่นทุกคน จำเลยที่ 1-2-3 มีส่วนเป็นเจ้าของงานแต่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตาย จำเลยที่ 1 ใช้ไม้ตีผู้ตาย 1 ที ไม่ถึงบาดเจ็บ จำเลยที่ 2 เอามีดฟันอีก 1 ทีถึงบาดเจ็บ แล้วจำเลยที่ 3 เอามีดแทงผู้ตาย 1 ที ถูกที่หน้าท้องไส้ทะลักออกมาและถึงแก่ความตาย เพราะบาดแผลที่ถูกแทงภายหลังนี้แบบเดียวดังนี้จะฟังว่าจำเลยทั้ง 3 คนสมคบกันฆ่าผู้ตายยังไม่ถนัด เพราะการที่จำเลยที่ 3 เข้ามาและใช้มีดแทงผู้ตายภายหลังนั้น จำเลยที่ 1-2 อาจไม่รู้เห็นด้วยก็ได้ จำเลยที่ 3 ควรมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาคนเดียวส่วนจำเลยที่ 1-2 ควรมีผิดแต่เพียงเท่าที่ตนกระทำแต่ละคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยมีด ศาลฎีกายืนโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
การที่จำเลยชักมีดปลายแหลมตรงเข้าแทงผู้ตายฝ่ายเดียวที่หน้าอกใต้ไหปลาร้า 1 ที โดยแรงจนปลายมีดไปตุงข้างหลัง ผู้ตายอยู่ได้ประเดี๋ยวเดียวก็ขาดใจตาย ดังนี้จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ม. 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุและการพิจารณาโทษที่เหมาะสม
คดีอาญาที่โจทก์ยื่นฎีกาแม้ศาลจะเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์จำเลยได้ฆ่าผู้ตายโดยป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ แต่ถ้ารูปคดีเห็นว่าจำเลยกระทำป้องกันตัวเกินกว่าเหตุอย่างมาก และศาลอุทธรร์วางโทษมาเบาไป ศาลฎีกาวางโทษจำเลยให้สูงกว่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ข้อพิรุจน์การสมคบกันทำร้าย, เจตนา, และบาดแผลที่ไม่สามารถระบุผู้กระทำได้
ผู้ตายเข้าไปในกุฏิพระ พระเข้าใจว่าเป็นคนร้ายมาแย่งชิงทรัพย์ได้ตีกลองบอกเหตุอันตรายจำเลยและราษฎรมาช่วยและเข้าไปในกุฎิ ต่างแทงฟันทุบตีผู้ตายจนตาย โดยไม่รู้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลของคนใดทำร้าย และโจทก์มิได้ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันดังนี้ไม่ถือว่าจำเลยสมคบกันฆ่าผู้ตาย จำเลยคงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1971/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกผู้มีอาวุธบุกรุกและข่มขู่
ผู้ตายถือมีดดาบไปถึงโรงจำเลยเวลากลางคืนและร้องเรียกให้จำเลยเปิดประตู จำเลยไม่ยอมเปิด ผู้ตายตัดเชือกผูกประตูเปิดเข้าไปในห้องจำเลย จำเลยคว้าได้ขวานหลบหนีไปอยู่ใต้ถุน ผู้ตายใช้ดาบแทงตามร่องพื้นโรงจนจำเลยต้องหนีออกจากใต้ถุน จะออกทางประตูผู้ตายใช้มีดดาบฟันจำเลยแต่มีดดาบไปถูกแปหลังคาโรงเสีย จำเลยหันมาใช้ขวานฟันผู้ตายหลายที ดังนี้ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1836/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากเหตุโกรธเคือง: การใช้ปืนยิงประชิดตัวบ่งชี้เจตนา
ใช้ปืนยิงจากรั้วบ้านไปถูกผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในบริเวณรั้วบ้านที่ใต้ตาตุ่ม กระสุนตุงหลังเท้า โดยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ถือว่ามีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหายให้ถึงแก่ความตาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในคดีอาญาที่มีอัตราโทษสูง แม้รับสารภาพ ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนพอใจและลงโทษตามพฤติการณ์ที่กระทำ
คดีอาญาที่มีอัตราโทษอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่า จำเลยได้กระทำผิดจริง เมื่อศาลฟังพยานโจทก์ได้ความว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินแก่เหตุ ศาลย่อมลงโทษเท่าที่จำเลยได้กระทำผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิโจทก์ฟ้องคดีอาญาของบุตรผู้ถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย แม้มีภรรยา และการพิพากษาลงโทษตามพฤติการณ์
บุตรผู้ถูกทำร้ายตาย+จะมีสามีแล้ว ก็มีสิทธิเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาหรือเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยยการในคดีที่ฟ้องผู้ที่ทำให้ตายได้ ตาม ป.วิ.อาญามาตรา 3(2) และมาตรา 5(2) การที่ภรรยาผู้ถูกทำร้ายตายไม่ขอร่วมเป็นโจทก์กับอัยยการ ไม่ทำให้สิทธิของบุตรผู้ตายดังกล่าวแล้วเสียไป
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้ปืนยิงและใช้มีดแทงผู้ตายตาย แต่ทางพิจารณาได้ความชัดว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายอย่างเดียวนั้นไม่เป็นเหตุพอจะให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้ และคดีก็ต้องลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 252, 259
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้ปืนยิงและใช้มีดแทงผู้ตายตาย แต่ทางพิจารณาได้ความชัดว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายอย่างเดียวนั้นไม่เป็นเหตุพอจะให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้ และคดีก็ต้องลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 252, 259