คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.รัษฎากร ม. 113

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2156/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารค้ำประกันไม่ปิดอากรตั้งแต่แรก แต่ปิดเพิ่มภายหลังและศาลรับรวมสำนวนแล้ว สามารถใช้เป็นหลักฐานได้
หนังสือสัญญาค้ำประกันที่จำเลยทำไว้แก่โจทก์ ไม่ได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์มาแต่ต้น แต่เมื่อโจทก์อ้างตนเองเป็นพยานเข้าเบิกความ โจทก์ได้อ้างส่งหนังสือสัญญาดังกล่าวเป็นพยาน โดยได้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนบริบูรณ์ตามกฎหมายและศาลได้รับรวมสำนวนไว้แล้วจึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีได้โดยไม่จำต้องเสียอากรเพิ่มตามมาตรา 113 แห่งประมวลรัษฎากรให้ครบถ้วน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4621/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจไม่ติดอากรแสตมป์ตั้งแต่แรก แต่ปิดอากรเพิ่มเติมก่อนสืบพยาน ใช้เป็นหลักฐานได้
หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ไม่ได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์มาตั้งแต่แรก แต่เมื่อได้มีการปิดอากรแสตมป์พิจารณาครบถ้วนก่อนสืบพยานโจทก์ก็ย่อมใช้เป็นหลักฐานในคดีได้ ส่วนการที่จะต้องรับผิดเสียอากรเพิ่มขึ้นเป็นส่วนหนึ่งต่างหากนั้นไม่กระทบกระทั่งถึงการที่จะรับฟังหนังสือมอบอำนาจดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3320/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือค้ำประกันที่ชำระอากรแล้วรับฟังเป็นพยานได้ การอนุญาตชำระอากรระหว่างพิจารณาไม่เป็นเหตุฎีกา
ระหว่างพิจารณาโจทก์ส่งหนังสือค้ำประกันซึ่งติดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนเป็นพยานแต่ก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา โจทก์ได้นำไปดำเนินการเสียเงินอากรและเงินเพิ่มอากรโดยชอบแล้วถือว่าหนังสือค้ำประกันเป็นตราสารที่ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ ปัญหาว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์นำเอกสารไปเสียภาษีอากรและเงินเพิ่มโดยมิได้สอบถามจำเลยก่อนเป็นการไม่ชอบ จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นศาลอุทธรณ์ และไม่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249ประกอบ พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีโดยไม่เปิดเผยเหตุแห่งการปฏิเสธ และการรับฟังพยานหลักฐานจากหนังสือสัญญากู้ยืมเงินที่มิได้ปิดอากรแสตมป์
คำให้การจำเลยที่ปฏิเสธเพียงว่า บ.ไม่ได้กู้เงินโจทก์หนังสือสัญญากู้ยืมเงินท้ายฟ้องไม่ถูกต้องและไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย โดยไม่ได้อ้างเหตุตั้งประเด็นไว้ว่า เหตุใด บ.จึงไม่ได้กู้เงินโจทก์ และหนังสือสัญญากู้ยืมเงินท้ายฟ้องไม่ถูกต้องและไม่สมบูรณ์อย่างไร จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยไม่มีสิทธิสืบพยานตามข้อต่อสู้
หนังสือสัญญากู้ยืมเงินไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ในขณะทำสัญญาแต่ต่อมาได้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนแล้ว จะโดยผู้อ้างปิดอากรแสตมป์เองหรือผู้อ้างขอให้ศาลสั่งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรจัดการให้ ก็มีผลเช่นเดียวกัน ศาลรับฟังหนังสือสัญญากู้ยืมเงินนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีและสิทธิในการสืบพยานจำเลยต้องอ้างเหตุแห่งการปฏิเสธ หากไม่ทำสิทธิสืบพยานเป็นอันตกไป
คำให้การจำเลยที่ปฏิเสธเพียงว่า บ.ไม่ได้กู้เงินโจทก์หนังสือสัญญากู้ยืมเงินท้ายฟ้องไม่ถูกต้องและไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย โดยไม่ได้อ้างเหตุตั้งประเด็นไว้ว่า เหตุใด บ.จึงไม่ได้กู้เงินโจทก์ และหนังสือสัญญากู้ยืมเงินท้ายฟ้องไม่ถูกต้องและไม่สมบูรณ์อย่างไร จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยไม่มีสิทธิสืบพยานตามข้อต่อสู้
หนังสือสัญญากู้ยืมเงินไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ในขณะทำสัญญาแต่ต่อมาได้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนแล้ว จะโดยผู้อ้างปิดอากรแสตมป์เองหรือผู้อ้างขอให้ศาลสั่งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรจัดการให้ ก็มีผลเช่นเดียวกัน ศาลรับฟังหนังสือสัญญากู้ยืมเงินนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1650/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันไม่ปิดอากรแสตมป์ใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ แม้โจทก์เป็นหน่วยงานรัฐ
โจทก์เป็นส่วนราชการของรัฐบาลฟ้องบังคับตามสัญญาค้ำประกันที่ไม่ปิดอากรแสตมป์ เมื่อตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ข้อ 17(ก) กำหนดให้ผู้ค้ำประกันเป็นผู้ต้องเสียค่าอากรแสตมป์และขีดฆ่าอากรแสตมป์ หาใช่ฝ่ายที่ต้องเสียอากรเป็นรัฐบาลอันจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียอากรตามความหมายในมาตรา 121 แห่งประมวลรัษฎากรไม่
จำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันยอมใช้เงินแทนจำเลยที่ 1 ซึ่งผิดสัญญาได้รับทุนจากกระทรวงกลาโหมโจทก์ไปศึกษาต่างประเทศแล้วกลับมารับราชการไม่ครบกำหนดตามสัญญา เมื่อสัญญาค้ำประกันมิได้ปิดอากรแสตมป์ให้บริบูรณ์ ย่อมจะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีไม่ได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118
แม้จำเลยที่ 2 จะขาดนัด โจทก์ก็ยังมีหน้าที่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันจริงเมื่อเอกสารสัญญาค้ำประกันใช้เป็นหลักฐานในคดีมิได้คดีย่อมไม่มีทางที่จะให้จำเลยที่ 2 รับผิดตามฟ้องโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1650/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันไม่ติดอากรแสตมป์ใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ แม้โจทก์เป็นหน่วยงานรัฐ
โจทก์เป็นส่วนราชการของรัฐบาลฟ้องบังคับตามสัญญาค้ำประกันที่ไม่ปิดอากรแสตมป์ เมื่อตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ข้อ 17 (ก) กำหนดให้ผู้ค้ำประกันเป็นผู้ต้องเสียค่าอากรแสตมป์และขีดฆ่าอากรแสตมป์ หาใช่ฝ่ายที่ต้องเสียอากรเป็นรัฐบาลอันจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียอากรตามความหมายในมาตรา 121 แห่งประมวลรัษฎากรไม่
จำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันยอมใช้เงินแทนจำเลยที่ 1 ซึ่งผิดสัญญาได้รับทุนจากระทรวงกลาโหมโจทก์ไปศึกษาต่างประเทศแล้วกลับมารับราชการไม่ครบกำหนดสัญญา เมื่อสัญญาค้ำประกันมิได้ปิดอากรแสตมป์ให้บริบูรณ์ ย่อมจะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีไม่ได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118
แม้จำเลยที่ 2 จะขาดนัด โจทก์ก็ยังมีหน้าที่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชอบสัญญาค้ำประกันจริง เมื่อเอกสารสัญญาค้ำประกันใช้เป็นหลักฐานในคดีมิได้คดีย่อมไม่มีทางที่จะให้จำที่ 2 รับผิดตามฟ้องโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2716/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติบุคคลต่างชาติฟ้องคดีในไทยได้ แม้ไม่จดทะเบียนในไทย และประเด็นหนังสือมอบอำนาจที่ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
นิติบุคคลตามกฎหมายของประเทศอื่น แม้จะไม่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยก็ฟ้องคดีในศาลไทยได้
แม้ตามภาพถ่ายใบมอบอำนาจของโจทก์ท้ายฟ้อง ซึ่งมอบอำนาจให้ ป. ฟ้องคดีมิได้ปิดอากรแสตมป์ แต่จำเลยให้การในเรื่องใบมอบอำนาจแต่เพียงว่า ผู้มอบอำนาจไม่มีอำนาจลงนามแทนโจทก์ ทั้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60 วรรคสอง มิได้บัญญัติว่าโจทก์จะต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจติดมากับฟ้อง เมื่อศาลไม่ได้สั่งให้โจทก์ส่งใบมอบอำนาจเพราะมีเหตุอันควรสงสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 47 โจทก์จึงไม่ต้องส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจต่อศาล กรณีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากรหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2716/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติบุคคลต่างชาติฟ้องคดีในไทยได้ แม้ไม่ได้จดทะเบียนในไทย และการไม่ติดอากรแสตมป์หนังสือมอบอำนาจไม่เป็นเหตุ
นิติบุคคลตามกฎหมายของประเทศอื่น แม้จะไม่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยก็ฟ้องคดีในศาลไทยได้
แม้ตามภาพถ่ายใบมอบอำนาจของโจทก์ท้ายฟ้อง ซึ่งมอบอำนาจให้ ป. ฟ้องคดีมิได้ปิดอากรแสตมป์ แต่จำเลยให้การในเรื่องใบมอบอำนาจแต่เพียงว่า ผู้มอบอำนาจไม่มีอำนาจลงนามแทนโจทก์ ทั้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60 วรรคสองมิได้บัญญัติว่าโจทก์จะต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจติดมากับฟ้อง เมื่อศาลไม่ได้สั่งให้โจทก์ส่งใบมอบอำนาจเพราะมีเหตุอันควรสงสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 47 โจทก์จึงไม่ต้องส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจต่อศาล กรณีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากรหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2390/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ใบรับเงินชั่วคราวและการส่งมอบเงินให้เจ้าของสิทธิ: จำเลยไม่ต้องรับผิดอากร หากมีการออกใบรับเงินตัวจริงและปิดอากรถูกต้อง
จำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดโซไซท์เสตทได้ออกใบรับในการรับเงินไว้มีข้อความว่า "ใบรับเงินชั่วคราว วันที่ 28 ตุลาคม 2507 ข้าพเจ้านายจิง แซ่โค้ว(จำเลย)ผู้แทนของห้างหุ้นส่วนจำกัดโซไซท์เสตท สามแยก กรุงเทพฯ ได้รับเงินที่นำมาลงทุนซื้อยาเบอร์เล่ย์เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 959,890 บาท 10 สตางค์ คืนจากกรรมการผู้จัดการบริษัทแพร่เกษตรภัณฑ์ จำกัดไว้เป็นที่ถูกต้องเรียบร้อยแล้วส่วนใบรับตัวจริงจะส่งมาให้ภายหลัง ลงชื่อนายจิงแซ่โค้วผู้แทนห้างหุ้นส่วนจำกัดโซไซท์เสตท" เป็นแต่เพียงเอกสารหลักฐานที่แสดงว่าจำเลยในฐานะผู้แทนของห้างหุ้นส่วนจำกัดโซไซท์เสตทได้รับเงินลงทุนซื้อยาของห้างหุ้นส่วนจำกัดโซไซท์เสตทคืนมาจากบริษัทแพร่เกษตรภัณฑ์ จำกัด ไว้แทนห้างหุ้นส่วนจำกัดโซไซท์เสตทเป็นการชั่วคราว จำเลยมิได้รับเงินไว้เป็นของตนเอง เมื่อจำเลยเอาเงินรายนี้ไปส่งมอบให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดโซไซท์เสตทซึ่งเป็นเจ้าของเงินที่แท้จริงแล้ว ห้างหุ้นส่วนจำกัดโซไซท์เสตทได้ออกใบรับเงินตัวจริงส่งมาให้บริษัทแพร่เกษตรภัณฑ์จำกัดอีกฉบับหนึ่งใน3 วันต่อมาและได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์แล้ว ซึ่งแสดงว่าจำเลยได้ส่งมอบเงินที่รับแทนมาเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดโซไซท์เสตทผู้รับเงินแท้จริงไม่ได้ปฏิบัติการฝ่าฝืนประมวลรัษฎากร จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดชำระเงินอากรและเงินเพิ่มอากรสำหรับใบรับเงินชั่วคราวอีก (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2765/2515) (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2517)
of 3