คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 14

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 324 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1823/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีล้มละลายต้องแสวงหาความจริงตามกฎหมาย หากมีพยานหลักฐานว่าลูกหนี้อาจชำระหนี้ได้ ศาลต้องดำเนินการสืบพยาน
การพิจารณาคดีล้มละลาย ย่อมผิดแผกแตกต่างกับการพิจารณาคดีแพ่งสามัญเพราะพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน มีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายได้บัญญัติไว้ในมาตรา 14 ว่า ในการพิจารณาคดีล้มละลายตามคำฟ้องของเจ้าหนี้นั้น ศาลต้องพิจารณาเอาความจริงตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 9 หรือมาตรา 10 ถ้าศาลพิจารณาได้ความจริงให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด แต่ถ้าไม่ได้ความจริงหรือลูกหนี้นำสืบได้ว่าอาจชำระหนี้ได้ทั้งหมด หรือมีเหตุอื่นที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลาย ให้ศาลยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่สองแสนบาทเศษแต่พยานโจทก์เบิกความรับว่าจำเลยถือหุ้นในบริษัทจำกัดแห่งหนึ่งซึ่งชำระเงินค่าหุ้นแล้วถึงสามแสนบาทเกินจำนวนที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์ และจำเลยยังเป็นผู้จัดการบริษัทอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ตามบัญชีทรัพย์ซึ่งจำเลยแนบมาในคำร้องขอสืบพยานจำเลยยังปรากฏว่า จำเลยมีทรัพย์สินอันมีมูลค่ากว่าเก้าแสนบาท การที่ศาลชั้นต้นรวบรัดฟังคำพยานโจทก์ฝ่ายเดียวว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด โดยไม่ฟังพยานจำเลยเสียเลยนั้นย่อมไม่เพียงพอต่อการพิจารณาหาความจริงดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1823/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีล้มละลายต้องแสวงหาความจริงจากพยานหลักฐานรอบด้านก่อนมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
การพิจารณาคดีล้มละลาย ย่อมผิดแผกแตกต่างกับการพิจารณาคดีแพ่งสามัญเพราะพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน มีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายได้บัญญัติไว้ในมาตรา 14 ว่าในการพิจารณาคดีล้มละลายตามคำฟ้องของเจ้าหนี้นั้นศาลต้องพิจารณาเอาความจริงตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 9 หรือมาตรา 10 ถ้าศาลพิจารณาได้ความจริงให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด แต่ถ้าไม่ได้ความจริงหรือลูกหนี้นำสืบได้ว่าอาจชำระหนี้ได้ทั้งหมด หรือมีเหตุอื่นที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลาย ให้ศาลยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่สองแสนบาทเศษแต่พยานโจทก์เบิกความรับว่าจำเลยถือหุ้นในบริษัทจำกัดแห่งหนึ่งซึ่งชำระเงินค่าหุ้นแล้วถึงสามแสนบาทเกินจำนวนที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์ และจำเลยยังเป็นผู้จัดการบริษัทอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ตามบัญชีทรัพย์ซึ่งจำเลยแนบมาในคำร้องขอสืบพยานจำเลยยังปรากฏว่า จำเลยมีทรัพย์สินอันมีมูลค่ากว่าเก้าแสนบาท การที่ศาลชั้นต้นรวบรัดฟังคำพยานโจทก์ฝ่ายเดียวว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วมีคำสั่งพิทักษ์จำเลยเด็ดขาดโดยไม่ฟังพยานจำเลยเสียเลยนั้น ย่อมไม่เพียงพอต่อการพิจารณาหาความจริงดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1498-1499/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิเสธหนี้สินและการพิสูจน์สถานะล้มละลาย: จำเลยต้องปฏิเสธหนี้ชัดเจน โจทก์ต้องพิสูจน์สถานะล้มละลาย
คำให้การจำเลยระบุบ่งชัดโดยเฉพาะว่าขอปฏิเสธหนี้สินตามที่โจทก์อ้างมาเป็นจำนวนรายละ 20,000 บาทนั้น ย่อมมีประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบถึงหนี้ตามที่โจทก์ฟ้อง แม้จำเลยจะไม่อ้างรายละเอียดว่าจำเลยปฏิเสธหนี้ของโจทก์เพาะเหตุใด ก็มีผลเพียงแต่จำเลยไม่มีข้ออ้างที่จะเป็นประเด็นข้อนำสืบต่อสู้คดีเท่านั้น แต่ไม่ทำให้กลายเป็นว่าจำเลยรับตามฟ้องโจทก์
หนี้ที่จำเลยประนีประนอมกับเจ้าหนี้ในคดีล้มละลายเดิม และยังค้างชำระอยู่บ้างนั้น ไม่ควรนำมาเป็นเหตุให้จำเลยล้มละลายอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1498-1499/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิเสธหนี้ในคดีล้มละลาย: โจทก์ต้องพิสูจน์หนี้จริง & หนี้เก่าไม่ถือเป็นเหตุล้มละลาย
คำให้การจำเลยระบุบ่งชัดโดยเฉพาะว่าขอปฏิเสธหนี้สินตามที่โจทก์อ้างมาเป็นจำนวนรายละ 20,000 บาทนั้น ย่อมมีประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบถึงหนี้ตามที่โจทก์ฟ้อง แม้จำเลยจะไม่อ้างรายละเอียดว่าจำเลยปฏิเสธหนี้ของโจทก์เพราะเหตุใด ก็มีผลเพียงแต่จำเลยไม่มีข้ออ้างที่จะเป็นประเด็นข้อนำสืบต่อสู้คดีเท่านั้น แต่ไม่ทำให้กลายเป็นว่าจำเลยรับตามฟ้องโจทก์
หนี้ที่จำเลยประนีประนอมกับเจ้าหนี้ในคดีล้มละลายเดิม และยังค้างชำระอยู่บ้างนั้น ไม่ควรนำมาเป็นเหตุให้จำเลยล้มละลายอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินลูกหนี้ล้มละลาย: สิทธิเจ้าหนี้ผู้ฟ้องคดี
การที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้ล้มละลายในหนี้อันเดียวกับที่ตนเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้น เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย คดีถึงที่สุดโดยไม่ปรากฏพฤติการณ์อื่นหักล้างคำสั่งและคำพิพากษาดังกล่าว ย่อมถือได้ว่าลูกหนี้ต้องมีหน้าที่รับผิดในหนี้ตามที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ฟ้องแล้ว
เมื่อเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ดังกล่าวโดยอ้างเช็คอันเป็นหลักฐานตามฟ้อง พร้อมกับอ้างตนเองเป็นพยาน และนำบุคคลอื่นมาสืบประกอบทั้งในชั้นที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนคำขอรับชำระหนี้ก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน เช่นนี้ คำขอรับชำระหนี้นั้นจึงมีหลักฐานรับฟังได้ว่าเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้ล้มละลายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องล้มละลายไม่เป็นฟ้องซ้ำคดีแพ่ง หากประเด็นต่างกัน คือ คดีแพ่งชี้สถานะลูกหนี้ ส่วนคดีล้มละลายชี้สถานะหนี้สินล้นพ้นตัว
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ตามฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์นำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลย แต่มีผู้ร้องขัดทรัพย์ ทรัพย์ที่เหลือไม่พอชำระหนี้ โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย การฟ้องเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีแพ่งซึ่งถึงที่สุดไปแล้วนั้นเป็นเรื่องชี้ขาดว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ ส่วนคดีนี้มีประเด็นว่า เมื่อจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยเป็นบุคคลมีหนี้สินล้นพ้นตัว ควรตกเป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่ การวินิจฉัยคดีทั้งสองนี้มิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่เป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินเพียงพอต่อการฟ้องล้มละลาย
โจทก์จะนำเช็คมาเป็นมูลฟ้องในเรื่องกู้ยืมเงินเพื่อขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินยึดก่อนคำพิพากษาเมื่อลูกหนี้ล้มละลาย: เงินตกเป็นของเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ ไม่สามารถหักค่าธรรมเนียมให้โจทก์ได้
โจทก์ยึดเงินของจำเลยไว้ก่อนคำพิพากษา ในระหว่างพิจารณาคดีอยู่นี้ จำเลยต้องคำพิพากษาให้ล้มละลายและต่อมาศาลก็พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์ ตามฟ้องรวมทั้งค่าธรรมเนียมค่าทนายด้วยดังนี้ เงินที่ยึดไว้นี้ต้องตกอยู่ในความปกครองของเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ และโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะให้เจ้าพนักงานบังคับคดีหักเงินค่าธรรมเนียมค่าทนายให้โจทก์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้หลังศาลสั่งรักษาทรัพย์: บุคคลภายนอกไม่ต้องรับรู้ประกาศล้มละลาย
ลูกหนี้ของผู้ล้มละลายชำระหนี้ให้ผู้ล้มละลายเมื่อภายหลังวันศาลได้มีคำสั่งให้รักษาทรัพย์ชั่วคราวของผู้ล้มละลายแล้วดังนี้ จะแก้ตัวว่าไม่รู้ว่าเจ้าหนี้เปนคนล้มละลายไม่ได้ถือเอาวันศาลสั่งรักษาทรัพย์ ไม่ใช่วันประกาศในหนังสือพิมพ์เปนเกณฑ์สำหรับบุคคลภายนอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานมีอำนาจปรานีประนอมสัญญาได้ ผู้นอกสัญญาไม่มีสิทธิคัดค้าน
เจ้าพนักงานมีอำนาจที่จะปรานีประนอมสัญญา ผู้ที่ไม่ใช่คู่สัญญาไม่มีอำนาจที่จะขอร้องให้คู่สัญญาเขาเสียประโยชน์ได้
of 33