คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 188

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 106 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3658/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำให้เช็คไร้ประโยชน์ทางแพ่งและอาญา การลงวันที่ย้อนหลังทำให้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
การที่จำเลยเขียนกรอกข้อความลงในเช็คผู้ถือซึ่งมิได้ลงวันที่ไว้เป็นวันที่ 5 มีนาคม 2515 ซึ่งย้อนหลังไปจากวันที่ผู้เสียหายนำเช็คไปขอแลกเงินจากจำเลยเป็นเวลาถึง 8 ปีเศษ ซึ่งธนาคารชอบที่จะปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะถือเป็นความผิดของผู้ทรงที่ยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินเมื่อพ้นหกเดือนนับแต่วันออกเช็ค และผู้ทรงเช็คก็หมดสิทธิฟ้องไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยผู้สั่งจ่าย หากจำเลยสู้ว่าฟ้องพ้นอายุความหนึ่งปีนับแต่วันเช็คถึงกำหนดตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 991 (2) และ1002การกระทำของจำเลยย่อมแสดงว่ามีเจตนาที่จะให้เสียหายและไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารเช็คในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3658/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำให้เช็คไร้ประโยชน์ การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
การที่จำเลยเขียนกรอกข้อความลงในเช็คผู้ถือซึ่งมิได้ลงวันที่ไว้เป็นวันที่ 5 มีนาคม 2515 ซึ่งย้อนหลังไปจากวันที่ผู้เสียหายนำเช็คไปขอแลกเงินจากจำเลยเป็นเวลาถึง 8 ปีเศษ ซึ่งธนาคารชอบที่จะปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะถือเป็นความผิดของผู้ทรงที่ยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินเมื่อพ้นหกเดือนนับแต่วันออกเช็ค และผู้ทรงเช็คก็หมดสิทธิฟ้องไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยผู้สั่งจ่าย หากจำเลยสู้ว่าฟ้องพ้นอายุความหนึ่งปีนับแต่วันเช็คถึงกำหนดตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 991(2) และ1002การกระทำของจำเลยย่อมแสดงว่ามีเจตนาที่จะให้เสียหายและไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารเช็คในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 70/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยึดสัญญาคู่ฉบับ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าหนี้ ถือเป็นความผิดฐานยักยอกเอกสาร
สัญญากู้ยืมเงินคู่ฉบับเป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินระหว่างผู้เสียหายกับจำเลย จำเลยเอาไปดูแล้วไม่ยอมคืนให้ผู้เสียหาย ทั้งกลับปฏิเสธอ้างว่าผู้เสียหายคืนให้จำเลยเพราะจำเลยชำระหนี้แล้ว ดังนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาพถ่ายไม่ใช่เอกสารตามกฎหมายอาญา มาตรา 188 หากไม่แสดงความหมายเฉพาะเจาะจง
โจทก์ร่วมเป็นภริยาจำเลยได้ยื่นฟ้องจำเลยเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูและขอให้เปิดประตูบ้านที่โจทก์ร่วมอาศัยอยู่ การที่โจทก์ร่วมได้ให้ช่างภาพถ่ายภาพห้อง เครื่องใช้ตู้เสื้อผ้า และของอื่น ๆ ภายในบ้านนั้น เห็นได้ว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพจำลองของห้อง เครื่องใช้ ฯลฯ เท่านั้นไม่ได้แสดงความหมายให้ปรากฏแต่อย่างใด ห้อง เครื่องใช้ฯลฯ มีสภาพเป็นอยู่อย่างไร เมื่อถ่ายเป็นภาพออกมาก็ปรากฏอยู่ในสภาพอย่างนั้น ไม่เป็นหลักฐานแห่งความหมายอย่างใด ๆ เลย ภาพถ่ายและฟิล์มของภาพถ่ายดังกล่าวจึงไม่เป็นเอกสารตามมาตรา 1(7) แห่งประมวลกฎหมายอาญาฉะนั้น การที่ร้านถ่ายภาพได้นำภาพถ่ายไปมอบให้โจทก์ร่วมที่บ้านซึ่งถ่ายภาพ จำเลยเป็นผู้รับไว้ และให้คนไปเอาฟิล์มภาพถ่ายจากร้านแล้วเอาไปเสียไม่ยอมคืนให้โจทก์ร่วมดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2254/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานใช้เอกสารปลอม, ยักยอกทรัพย์, และทำให้เสียทรัพย์ กรณีโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยเอกสารปลอม
โฉนดและหนังสือมอบอำนาจซึ่งผู้เสียหายลงแต่ลายมือชื่อให้ไว้และอยู่ในความครอบครองของสามีจำเลยที่ 1 เมื่อสามีตายได้ตกอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 ต่อมาได้มีการกรอกข้อความปลอม กับปลอมลายมือชื่อนายอำเภอผู้รับรอง และปลอมรอยดวงตราอำเภอลงในหนังสือมอบอำนาจ แล้วจำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันนำไปแสดงเป็นหลักฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่จำเลยที่ 2 เจ้าพนักงานที่ดินหลงเชื่อหนังสือมอบอำนาจ ได้ทำการโอนและแก้ทะเบียนโฉนดฉบับหลวงด้วยแล้วการกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268, 252, 267 แต่เป็นการกระทำเพื่อประสงค์ให้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเป็นการกระทำต่อเนื่องเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตามมาตรา 252 ซึ่งเป็นบทหนักแต่การที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันเอาโฉนดพิพาทซึ่งเป็นเอกสารสิทธิของผู้เสียหายไปในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย และเป็นการกระทำต่างกรรมกับที่จำเลยกระทำมาดังกล่าวแล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงต้องมีความผิดตามมาตรา 188 อีกกระทงหนึ่ง
จำเลยที่ 1 ยึดถือโฉนดพิพาทไว้ก็เพื่อประสงค์กรรมสิทธิ์ในที่ดิน ไม่มีเจตนายังยอกโฉนดนั้น จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดฐานยักยอกตามมาตรา 352

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2254/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมแปลงเอกสารสิทธิและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบ การกระทำผิดฐานยักยอกและการกระทำความผิดต่างกรรม
โฉนดและหนังสือมอบอำนาจซึ่งผู้เสียหายลงแต่ลายมือชื่อให้ไว้และอยู่ในความครอบครองของสามีจำเลยที่ 1 เมื่อสามีตายได้ตกอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 ต่อมาได้มีการกรอกข้อความปลอม กับปลอมลายมือชื่อนายอำเภอผู้รับรอง และปลอมรอยดวงตราอำเภอลงในหนังสือมอบอำนาจ แล้วจำเลยที่ 1ที่ 2 ร่วมกันนำไปแสดงเป็นหลักฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่จำเลยที่ 2 เจ้าพนักงานที่ดินหลงเชื่อหนังสือมอบอำนาจ ได้ทำการโอนและแก้ทะเบียนโฉนดฉบับหลวงด้วยแล้วการกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268,252,267 แต่เป็นการกระทำเพื่อประสงค์ให้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเป็นการกระทำต่อเนื่องเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตามมาตรา 252 ซึ่งเป็นบทหนักแต่การที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันเอาโฉนดพิพาทซึ่งเป็นเอกสารสิทธิของผู้เสียหายไปในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย และเป็นการกระทำต่างกรรมกับที่จำเลยกระทำมาดังกล่าวแล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงต้องมีความผิดตามมาตรา 188 อีกกระทงหนึ่ง
จำเลยที่ 1 ยึดถือโฉนดพิพาทไว้ก็เพื่อประสงค์กรรมสิทธิ์ในที่ดิน ไม่มีเจตนายักยอกโฉนดนั้น จำเลยที่ 1จึงไม่มีความผิดฐานยักยอกตามมาตรา 352

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาที่ไม่ระบุบทลงโทษ และการยกเว้นโทษตามกฎหมายใหม่ ศาลฎีกาพิพากษาแก้
การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานและทำลายบัตรประจำตัวข้าราชการ แต่ในคำขอท้ายฟ้องมิได้อ้างมาตรา 138, 140, 188 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นบทลงโทษมาด้วยนั้น ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 138, 140, 188 ไม่ได้ และการที่โจทก์อ้างประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 ซึ่งบัญญัติให้เรียงกระทงลงโทษมาด้วย ก็ไม่พอจะอนุมานว่าโจทก์ได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายที่มิได้อ้าง
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้น แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดในขณะฟ้องและศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษมา แต่เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 3 ยอมให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นำไปขอรับอนุญาตภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานนี้ และแม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในประเด็นนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาที่ไม่ระบุบทลงโทษ และการยกเว้นโทษตามกฎหมายอาวุธปืน
การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานและทำลายบัตรประจำตัวข้าราชการ แต่ในคำขอท้ายฟ้องมิได้อ้างมาตรา 138,140,188 แห่งประมวลกฎหมายอาญาซึ่งเป็นบทลงโทษมาด้วยนั้น ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 138,140,188 ไม่ได้ และการที่โจทก์อ้างประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 ซึ่งบัญญัติให้เรียงกระทงลงโทษมาด้วยก็ไม่พอจะอนุมานว่าโจทก์ได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายที่มิได้อ้าง
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้น แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดในขณะฟ้องและศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษมา แต่เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 ยอมให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นำไปขอรับอนุญาตได้ภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานนี้ และแม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในประเด็นนี้ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงสัญญาจ้างเหมา และการปฏิเสธความรับผิดชอบ
จำเลยหลอกเอาคู่ฉบับสัญญาจ้างเหมาปลูกตึกไปจากผู้แทนผู้รับจ้าง แล้วปฏิเสธว่าไม่ได้ทำสัญญาเป็นหนังสือ ทำให้เสียหายแก่ผู้รับจ้างเป็นความผิดตาม มาตรา 188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3242/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจใช้ไม่ได้ เจ้าของมีสิทธิทำลายได้ ไม่ถือเป็นความเสียหาย
จำเลยทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ร่วมไปจัดการขายที่ดินแต่เป็นหนังสือมอบอำนาจที่ใช้ไม่ได้. เนื่องจากมีรอยขีดฆ่า และไม่ได้เซ็นชื่อกำกับข้อความเกี่ยวกับการรับเงิน ถือว่าหนังสือมอบอำนาจนี้ยังเป็นเอกสารของจำเลยอยู่ แม้จะได้มอบให้โจทก์ร่วมยึดถือไว้ก็เพื่อเป็นหลักฐานสำหรับดำเนินการไปตามที่มอบอำนาจเท่านั้นแต่เมื่อการมอบอำนาจของจำเลยไม่เป็นผล หนังสือมอบอำนาจนั้นก็เป็นอันหมดประโยชน์แก่โจทก์ร่วมแล้วจำเลยผู้เป็นเจ้าของย่อมจะฉีกหรือทำลายเสียได้ การที่จะอ้างว่าที่จำเลยฉีกทำลายเสียทำให้โจทก์ร่วมไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานว่าจำเลยได้ขายที่ดินคืนให้โจทก์ร่วมแล้ว ทำให้โจทก์ร่วมเสียหายนั้น หาได้ไม่ เพราะแม้ในหนังสือมอบอำนาจนั้นจะมีข้อความถึงการรับเงินด้วยก็อาจใช้ยันจำเลยไม่ได้ เพราะจำเลยไม่รับรองว่าถูกต้องเรื่องการรับเงินความจริงเป็นอย่างไร โจทก์ร่วมย่อมนำสืบในทางแพ่งได้อยู่ หาได้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วมไม่การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188
of 11