พบผลลัพธ์ทั้งหมด 215 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1009/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมแก้ไขตกเติมไม่สมบูรณ์เฉพาะส่วน ไม่ทำให้พินัยกรรมทั้งหมดเป็นโมฆะ การสืบพยานต้องสอดคล้องประเด็นฟ้อง
ข้อขูดลบแก้ไขตกเติมในพินัยกรรมโดยมิได้ปฏิบัติตามแบบอย่างเดียวกับการทำพินัยกรรมตามความใน มาตรา 1656 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ วรรคสองนั้น ย่อมไม่สมบูรณ์เฉพาะส่วนที่ทำไม่ถูกต้องนั้นเท่านั้น หาทำให้พินัยกรรมที่สมบูรณ์พลอยเสียไปด้วยไม่
เมื่อคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยมีประเด็นโต้เถียงกันในข้อไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรมด้วย ดังนี้ตามปกติโจทก์ย่อมนำพยานเข้าสืบแสดงให้เห็นว่าผู้ทำพินัยกรรมมิได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือต่อหน้าพยานผู้นั่งพินัยกรรมได้ แต่เมื่อโจทก์กลับจะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือนั้นจะใช่ของผู้ทำพินัยกรรมหรือไม่ก่อนและจะขอสืบในประเด็นข้อนี้เพียงข้อเดียวเท่านั้น(รายงานพิจารณา 1 พ.ค. 96) ดังนี้ก็เป็นอันว่าโจทก์ไม่ติดใจขอสืบพยานในประเด็นที่ว่าผู้ทำพินัยกรรมจะได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าผู้นั่งพินัยกรรมหรือไม่ แต่จะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมมิใช่ของผู้ทำพินัยกรรมซึ่งโจทก์มิได้ตั้งประเด็นไว้ในฟ้องเลยเช่นนี้โจทก์สืบไม่ได้ ฎีกาที่ 1572/2492 ฎีกาที่ 982/2496
เมื่อคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยมีประเด็นโต้เถียงกันในข้อไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรมด้วย ดังนี้ตามปกติโจทก์ย่อมนำพยานเข้าสืบแสดงให้เห็นว่าผู้ทำพินัยกรรมมิได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือต่อหน้าพยานผู้นั่งพินัยกรรมได้ แต่เมื่อโจทก์กลับจะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือนั้นจะใช่ของผู้ทำพินัยกรรมหรือไม่ก่อนและจะขอสืบในประเด็นข้อนี้เพียงข้อเดียวเท่านั้น(รายงานพิจารณา 1 พ.ค. 96) ดังนี้ก็เป็นอันว่าโจทก์ไม่ติดใจขอสืบพยานในประเด็นที่ว่าผู้ทำพินัยกรรมจะได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าผู้นั่งพินัยกรรมหรือไม่ แต่จะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมมิใช่ของผู้ทำพินัยกรรมซึ่งโจทก์มิได้ตั้งประเด็นไว้ในฟ้องเลยเช่นนี้โจทก์สืบไม่ได้ ฎีกาที่ 1572/2492 ฎีกาที่ 982/2496
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1009/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมแก้ไขตกเติม & การสืบพยาน: โจทก์ต้องตั้งประเด็นเรื่องพินัยกรรมปลอมตั้งแต่แรก
ข้อขูดลบแก้ไขตกเติมในพินัยกรรมโดยมิได้ปฏิบัติตามแบบอย่างเดียวกับการทำพินัยกรรมตามความใน มาตรา 1656 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ วรรคสองนั้น ย่อมไม่สมบูรณ์เฉพาะส่วนที่ทำไม่ถูกต้องนั้นเท่านั้น หาทำให้พินัยกรรมที่สมบูรณ์พลอยเสียไปด้วยไม่
เมื่อคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยมีประเด็นโต้เถียงกันในข้อไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรมด้วย ดังนี้ตามปกติโจทก์ย่อมนำพยานเข้าสืบแสดงให้เห็นว่าผู้ทำพินัยกรรมมิได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือต่อหน้าพยานผู้นั่งพินัยกรรมได้ แต่เมื่อโจทก์กลับจะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือนั้นจะใช่ของผู้ทำพินัยกรรมหรือไม่ก่อนและจะขอสืบในประเด็นข้อนี้เพียงข้อเดียวเท่านั้น(รายงานพิจารณา 1 พ.ค. 96) ดังนี้ก็เป็นอันว่าโจทก์ไม่ติดใจขอสืบพยานในประเด็นที่ว่าผู้ทำพินัยกรรมจะได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าผู้นั่งพินัยกรรมหรือไม่ แต่จะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมมิใช่ของผู้ทำพินัยกรรมซึ่งโจทก์มิได้ตั้งประเด็นไว้ในฟ้องเลยเช่นนี้โจทก์สืบไม่ได้ ฎีกาที่ 1572/2492 ฎีกาที่ 982/2496
เมื่อคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยมีประเด็นโต้เถียงกันในข้อไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรมด้วย ดังนี้ตามปกติโจทก์ย่อมนำพยานเข้าสืบแสดงให้เห็นว่าผู้ทำพินัยกรรมมิได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือต่อหน้าพยานผู้นั่งพินัยกรรมได้ แต่เมื่อโจทก์กลับจะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือนั้นจะใช่ของผู้ทำพินัยกรรมหรือไม่ก่อนและจะขอสืบในประเด็นข้อนี้เพียงข้อเดียวเท่านั้น(รายงานพิจารณา 1 พ.ค. 96) ดังนี้ก็เป็นอันว่าโจทก์ไม่ติดใจขอสืบพยานในประเด็นที่ว่าผู้ทำพินัยกรรมจะได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าผู้นั่งพินัยกรรมหรือไม่ แต่จะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมมิใช่ของผู้ทำพินัยกรรมซึ่งโจทก์มิได้ตั้งประเด็นไว้ในฟ้องเลยเช่นนี้โจทก์สืบไม่ได้ ฎีกาที่ 1572/2492 ฎีกาที่ 982/2496
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1009/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมแก้ไขตกเติมไม่สมบูรณ์เฉพาะส่วน ไม่ทำให้พินัยกรรมทั้งหมดเป็นโมฆะ โจทก์ขอสืบพยานนอกประเด็นฟ้องไม่ได้
ข้อขูดลบแก้ไขตกเติมในพินัยกรรมโดยมิได้ปฏิบัติตามแบบอย่างเดียวกับการทำพินัยกรรมตามความใน ม. 1656 แห่ง ป.พ.พ. วรรค 2 นั้นย่อมไม่สมบูรณ์เฉพาะส่วนที่ทำไม่ถูกต้องนั้นเท่านั้น หาทำให้พินัยกรรมที่สมบูรณ์พลอยเสียไปด้วยไม่
เมื่อคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยมีประเด็นโต้เถียงกันในข้อไม่มีพยานรับรู้รองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรมด้วย ดังนี้ตามปกติโจทก์ย่อมนำพยานเข้าสืบแสดงให้เห็นว่าผู้ทำพินัยกรรมมิได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือต่อหน้าพยานผู้นั่งพินัยกรรมได้ แต่เมื่อโจทก์กลับจะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือนั้นจะใช่ของผู้ทำพินัยกรรมหรือไม่ก่อนและจะขอสืบในประเด็นข้อนี้เพียงข้อเดียวเท่านั้น (รายงานพิจารณา 1 พ.ค.96) ดังนี้ก็เป็นอันว่าโจทก์ไม่ติดใจขอสืบพยานในประเด็นที่ว่าผู้ทำพินัยกรรมจะได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าผู้นั่งพินัยกรรมหรือไม่ แต่จะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมมิใช่ของผู้ทำพินัยกรรมซึ่งโจทก์มิได้ตั้งประเด็นไว้ในฟ้องเลยเช่นนี้โจทก์สืบไม่ได้
ฎีกาที่ 1572/2492
ฎีกาที่ 982/2496
เมื่อคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยมีประเด็นโต้เถียงกันในข้อไม่มีพยานรับรู้รองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรมด้วย ดังนี้ตามปกติโจทก์ย่อมนำพยานเข้าสืบแสดงให้เห็นว่าผู้ทำพินัยกรรมมิได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือต่อหน้าพยานผู้นั่งพินัยกรรมได้ แต่เมื่อโจทก์กลับจะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือนั้นจะใช่ของผู้ทำพินัยกรรมหรือไม่ก่อนและจะขอสืบในประเด็นข้อนี้เพียงข้อเดียวเท่านั้น (รายงานพิจารณา 1 พ.ค.96) ดังนี้ก็เป็นอันว่าโจทก์ไม่ติดใจขอสืบพยานในประเด็นที่ว่าผู้ทำพินัยกรรมจะได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าผู้นั่งพินัยกรรมหรือไม่ แต่จะขอสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมมิใช่ของผู้ทำพินัยกรรมซึ่งโจทก์มิได้ตั้งประเด็นไว้ในฟ้องเลยเช่นนี้โจทก์สืบไม่ได้
ฎีกาที่ 1572/2492
ฎีกาที่ 982/2496
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยข้อพิพาทเรื่องทางเดินต้องเป็นไปตามคำท้าของคู่ความ ศาลมิอาจนำเหตุอื่นมาวินิจฉัยได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเปิดทางเดิน คู่ความท้ากันว่าให้ศาลไปตรวจดูที่พิพาทถ้าเห็นว่าที่พิพาทมีลักษณะและสภาพเป็นทางเดินมาก่อนหรือไม่ ? ถ้าเป็นจำเลยยอมแพ้ ถ้าไม่เป็น โจทก์ยอมแพ้
เมื่อศาลไปตรวจและบันทึกในรายงานกระบวนพิจารณาว่า "แนวทางเดินเท้าจากต้นมะลุมหมายอักษร ล.ในแผนที่กลางก็มาจบกับปลายทางเกวียน หมายอักษร ข." เพียงเท่านี้ไม่ชัดเจนพอจะเข้าใจได้ว่ามีลักษณะและสภาพเป็นทางคนเดินมาแต่ก่อนตรงกับที่คู่ความท้ากันไว้หรือไม่ ข.ฉนั้นการที่ศาลยกเอาเหตุอื่น ๆ (นอกจากเหตุที่ท้ากันไว้)มาวินิจฉัยประกอบ(บันทึกที่ไม่ชัดนั้น) เพื่อให้เห็นว่าคนซึ่งอยู่ในที่ดินของโจทก์ย่อมต้องใช้ทางนี้เป็นทางเข้าออกมาแต่เดิมด้วยแล้วบังคับให้จำเลยเปิดทางคนเดินนั้น เป็นเรื่องนอกคำท้าของคู่ความ เป็นการไม่ชอบ
เมื่อศาลไปตรวจและบันทึกในรายงานกระบวนพิจารณาว่า "แนวทางเดินเท้าจากต้นมะลุมหมายอักษร ล.ในแผนที่กลางก็มาจบกับปลายทางเกวียน หมายอักษร ข." เพียงเท่านี้ไม่ชัดเจนพอจะเข้าใจได้ว่ามีลักษณะและสภาพเป็นทางคนเดินมาแต่ก่อนตรงกับที่คู่ความท้ากันไว้หรือไม่ ข.ฉนั้นการที่ศาลยกเอาเหตุอื่น ๆ (นอกจากเหตุที่ท้ากันไว้)มาวินิจฉัยประกอบ(บันทึกที่ไม่ชัดนั้น) เพื่อให้เห็นว่าคนซึ่งอยู่ในที่ดินของโจทก์ย่อมต้องใช้ทางนี้เป็นทางเข้าออกมาแต่เดิมด้วยแล้วบังคับให้จำเลยเปิดทางคนเดินนั้น เป็นเรื่องนอกคำท้าของคู่ความ เป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยคดีทางเดินต้องเป็นไปตามคำท้าของคู่ความ ศาลมิอาจใช้เหตุอื่นนอกเหนือจากที่ได้ท้ากันไว้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเปิดทางเดิน คู่ความท้ากันว่าให้ศาลไปตรวจดูที่พิพาทถ้าเห็นว่าที่พิพาทมีลักษณะและสภาพเป็นทางเดินมาก่อนหรือไม่ ถ้าเป็นจำเลยยอมแพ้ ถ้าไม่เป็นโจทก์ยอมแพ้
เมื่อศาลไปตรวจและบันทึกในรายงานกระบวนพิจารณาว่า"แนวทางเดินเท้าจากต้นมะลุมหมายอักษร ล. ในแผนที่กลางก็มาจบกับปลายทางเกวียนหมายอักษร ข." เพียงเท่านี้ไม่ชัดเจนพอจะเข้าใจได้ว่ามีลักษณะและสภาพเป็นทางคนเดินมาแต่ก่อนตรงกับที่คู่ความท้ากันไว้หรือไม่ ฉะนั้นการที่ศาลยกเอาเหตุอื่นๆ(นอกจากเหตุที่ท้ากันไว้)มาวินิจฉัยประกอบ(บันทึกที่ไม่ชัดนั้น)เพื่อให้เห็นว่าคนซึ่งอยู่ในที่ดินของโจทก์ย่อมต้องใช้ทางนี้เป็นทางเข้าออกมาแต่เดิมด้วยแล้วบังคับให้จำเลยเปิดทางคนเดินนั้น เป็นเรื่องนอกคำท้าของคู่ความ เป็นการไม่ชอบ
เมื่อศาลไปตรวจและบันทึกในรายงานกระบวนพิจารณาว่า"แนวทางเดินเท้าจากต้นมะลุมหมายอักษร ล. ในแผนที่กลางก็มาจบกับปลายทางเกวียนหมายอักษร ข." เพียงเท่านี้ไม่ชัดเจนพอจะเข้าใจได้ว่ามีลักษณะและสภาพเป็นทางคนเดินมาแต่ก่อนตรงกับที่คู่ความท้ากันไว้หรือไม่ ฉะนั้นการที่ศาลยกเอาเหตุอื่นๆ(นอกจากเหตุที่ท้ากันไว้)มาวินิจฉัยประกอบ(บันทึกที่ไม่ชัดนั้น)เพื่อให้เห็นว่าคนซึ่งอยู่ในที่ดินของโจทก์ย่อมต้องใช้ทางนี้เป็นทางเข้าออกมาแต่เดิมด้วยแล้วบังคับให้จำเลยเปิดทางคนเดินนั้น เป็นเรื่องนอกคำท้าของคู่ความ เป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแถมบัตรสลากล๊อตเตอรี่กับการประกอบกิจการค้าเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ.การพนัน
เมื่อในรายงาน+ปรากฎว่าจำเลยแถลงถึงการกระทำของจำเลย ตามที่โจทก์ฟ้อง (ซึ่งในฟ้องก็กล่าวถึงวันที่หาว่ากระทำผิด) และว่าในวันเกิดเหตุจำเลยได้นำ+ ของจำเลยไปโฆษณาขายด้วย แม้จะไม่ได้กล่าวให้ชัดว่าในวันนั้นได้มีการแถมบัตรสมณาคุณในการขายยาก็ดี แต่เป็นที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วในข้อนี้ระหว่างโจทก์จำเลยตลอดจนศาลชั้นต้นผู้พิจารณาว่าคงเหลือปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยฉะเพาะ ก.ม. ตามที่จำเลยต่อสู้เท่านั้น ดังนี้ตามคำให้การและคำแถลงของจำเลยตามรายงานดังกล่าว ย่อมหมายถึงว่าในวันโจทก์หา จำเลยได้กระทำการตามที่โจทก์ฟ้องนั่นเอง
การที่จำเลยจัดให้มีการแถมบัตรสมณาคุณแก่ผู้ที่ซื้อยาของจำเลยกล่าวคือ แจกบัตรดังกล่าวแก่ผู้ซื้อยาธาตุห้าของจำเลย 1 บัตร ต่อยาธาตุ 1 ขวด หากเลขสลากในบัตรนั้นตรงกับเลขสลากล๊อตเตอรี่ที่ออกผู้ซื้อมีสิทธิได้รับเงิน 1 ใน 20 ส่วนของรางวัลล๊อตเตอรี่นั้น ๆ ดังนี้ถือว่าเป็นการแถมพกหรือรางวัลด้วยการเสี่ยงโชคเพราะในบัตรมีหมายเลขสลากตรงกับเลขสลากล๊อตเตอรี่ของรัฐบาล ซึ่งอาจจะถูกรางวัลได้รับเงินตามที่ปรากฎในบัตรนั้นได้ ทำให้ผู้ซื้อยาจากจำเลยมีหวังในการเสี่ยงโชค จำเลยจะขายยานั้นโดยราคาปกติ ในท้องตลาดหรือไม่ ๆ สำคัญ ประกอบกับการกระทำของจำเลยเป็นการประกอบกิจการค้าหรืออาชีพ ดังนี้ เมื่อจำเลยไม่รับรับอนุญาตก็มีความผิด ตาม พ.ร.บ.การพนัน
การที่จำเลยจัดให้มีการแถมบัตรสมณาคุณแก่ผู้ที่ซื้อยาของจำเลยกล่าวคือ แจกบัตรดังกล่าวแก่ผู้ซื้อยาธาตุห้าของจำเลย 1 บัตร ต่อยาธาตุ 1 ขวด หากเลขสลากในบัตรนั้นตรงกับเลขสลากล๊อตเตอรี่ที่ออกผู้ซื้อมีสิทธิได้รับเงิน 1 ใน 20 ส่วนของรางวัลล๊อตเตอรี่นั้น ๆ ดังนี้ถือว่าเป็นการแถมพกหรือรางวัลด้วยการเสี่ยงโชคเพราะในบัตรมีหมายเลขสลากตรงกับเลขสลากล๊อตเตอรี่ของรัฐบาล ซึ่งอาจจะถูกรางวัลได้รับเงินตามที่ปรากฎในบัตรนั้นได้ ทำให้ผู้ซื้อยาจากจำเลยมีหวังในการเสี่ยงโชค จำเลยจะขายยานั้นโดยราคาปกติ ในท้องตลาดหรือไม่ ๆ สำคัญ ประกอบกับการกระทำของจำเลยเป็นการประกอบกิจการค้าหรืออาชีพ ดังนี้ เมื่อจำเลยไม่รับรับอนุญาตก็มีความผิด ตาม พ.ร.บ.การพนัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแถมบัตรลอตเตอรี่พร้อมยา ถือเป็นการพนันและการเสี่ยงโชค
เมื่อในรายงานปรากฏว่าจำเลยแถลงถึงการกระทำของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้อง (ซึ่งในฟ้องก็กล่าวถึงวันที่หาว่ากระทำผิด) และว่าในวันเกิดเหตุจำเลยได้นำยาธาตุห้าของจำเลยไปโฆษณาขายด้วยแม้จะไม่ได้กล่าวให้ชัดว่าในวันนั้นได้มีการแถมบัตรสมณาคุณในการขายยาก็ดี แต่เป็นที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วในข้อนี้ระหว่างโจทก์จำเลยตลอดจนศาลชั้นต้นผู้พิจารณาว่าคงเหลือปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยเฉพาะข้อกฎหมายตามที่จำเลยต่อสู้เท่านั้น ดังนี้ตามคำให้การและคำแถลงของจำเลยตามรายงานดังกล่าว ย่อมหมายถึงว่าในวันโจทก์หาจำเลยได้กระทำการตามที่โจทก์ฟ้องนั่นเอง
การที่จำเลยจัดให้มีการแถมบัตรสมณาคุณแก่ผู้ที่ซื้อยาของจำเลยกล่าวคือแจกบัตรดังกล่าวแก่ผู้ซื้อยาธาตุห้าของจำเลย 1 บัตร ยาธาตุ 1 ขวด หากเลขสลากในบัตรนั้นตรงกับเลขสลากลอตเตอรี่ที่ออกผู้ซื้อมีสิทธิได้รับเงิน 1 ใน 20 ส่วนของรางวัลลอตเตอรี่นั้นๆ ดังนี้ถือว่าเป็นการแถมพกหรือรางวัลด้วยการเสี่ยงโชคเพราะในบัตรมีหมายเลขสลากตรงกับเลขสลากลอตเตอรี่ของรัฐบาล ซึ่งอาจจะถูกรางวัลได้รับเงินตามที่ปรากฏในหลังบัตรนั้นได้ ทำให้ผู้ซื้อยาจากจำเลยมีหวังในการเสี่ยงโชคจำเลยจะขายยานั้นโดยราคาปกติในท้องตลาดหรือไม่ไม่สำคัญ ประกอบกับการกระทำของจำเลยเป็นการประกอบกิจการค้าหรืออาชีพดังนี้เมื่อจำเลยไม่ได้รับอนุญาตก็มีความผิดตาม พระราชบัญญัติการพนัน
การที่จำเลยจัดให้มีการแถมบัตรสมณาคุณแก่ผู้ที่ซื้อยาของจำเลยกล่าวคือแจกบัตรดังกล่าวแก่ผู้ซื้อยาธาตุห้าของจำเลย 1 บัตร ยาธาตุ 1 ขวด หากเลขสลากในบัตรนั้นตรงกับเลขสลากลอตเตอรี่ที่ออกผู้ซื้อมีสิทธิได้รับเงิน 1 ใน 20 ส่วนของรางวัลลอตเตอรี่นั้นๆ ดังนี้ถือว่าเป็นการแถมพกหรือรางวัลด้วยการเสี่ยงโชคเพราะในบัตรมีหมายเลขสลากตรงกับเลขสลากลอตเตอรี่ของรัฐบาล ซึ่งอาจจะถูกรางวัลได้รับเงินตามที่ปรากฏในหลังบัตรนั้นได้ ทำให้ผู้ซื้อยาจากจำเลยมีหวังในการเสี่ยงโชคจำเลยจะขายยานั้นโดยราคาปกติในท้องตลาดหรือไม่ไม่สำคัญ ประกอบกับการกระทำของจำเลยเป็นการประกอบกิจการค้าหรืออาชีพดังนี้เมื่อจำเลยไม่ได้รับอนุญาตก็มีความผิดตาม พระราชบัญญัติการพนัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงให้ศาลชี้ขาดแบ่งที่ดินริมตลิ่งโดยไม่สืบพยาน ศาลชี้ขาดตามวิธีที่เสนอได้และเป็นธรรม
คู่ความตกลงกะประเด็นและแถลงร่วมกันยอมให้ศาลชี้ขาดตัดสินว่าจะจัดแบ่งที่ริมตลิ่งอย่างวิธีของโจทก์หรือวิธีของจำเลยโดยต่างไม่สืบพยาน เมื่อศาลเห็นว่าการแบ่งตามวิธีที่จำเลยเสนอเป็นวิธีที่สามารถจะแบ่งได้และเป็นธรรมแก่คู่ความแล้วก็พิพากษาแบ่งไปตามวิธีที่จำเลยเสนอได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งที่ดินริมตลิ่ง: ศาลชี้ขาดตามข้อตกลง หากวิธีแบ่งเป็นธรรม
คู่ความตกลงกะประเด็นและแถลงร่วมกันยอมให้ศาลชี้ขาดตัดสินว่าจะจัดแบ่งที่ริมตลิ่งอย่างวิธีของโจทก์หรือวิธีของ จำเลยโดยต่างไม่สืบพยาน เมื่อศาลเห็นว่าการแบ่งตามวิธีที่จำเลยเสนอเป็นวิธีที่สามารถจะแบ่งได้ และเป็นธรรมแก่คู่ความแล้ว ก็พิพากษาแบ่งไปตามวิธีที่จำเลยเสนอได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงท้ากันทางศาล: โจทก์เปลี่ยนประเด็นไม่ได้หากการรังวัดเป็นไปตามที่ตกลง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบุกรุกปลูกต้นกล้วยในที่ดิน อันอยู่ในเขตต์โฉนดของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าที่ตรงนั้นเป็นของจำเลยและอยู่นอกเขตต์โฉนดของโจทก์ โจทก์จำเลยจึงตกลงตั้งประเด็นท้ากัน โดยให้เจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดสอบเขตต์ ถ้าต้นกล้วยอยู่นอกเขตต์โฉนดของโจทก์ ๆ ยอมแพ้ถ้าอยู่ในโฉนด จำเลยยอมแพ้ เจ้าพนักงานไปรังวัดทำแผนที่มาส่งศาล ปรากฎว่าต้นกล้วยอยู่นอกเขตต์โฉนดของโจทก์ ดังนี้โจทก์จะขอสืบพยานในข้อครอบครองต่อไปไม่ได้ เพราะเป็นการเปลี่ยนประเด็นตามที่ตกลงท้ากัน
ในกรณีข้างต้น โจทก์จะเปลี่ยนประเด็นได้ก็ต้องได้ความว่า เจ้าพนักงานไม่สามารถรังวัดได้ตามที่ท้ากัน
ในกรณีข้างต้น โจทก์จะเปลี่ยนประเด็นได้ก็ต้องได้ความว่า เจ้าพนักงานไม่สามารถรังวัดได้ตามที่ท้ากัน