พบผลลัพธ์ทั้งหมด 215 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3328/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นข้อพิพาทจำกัดเฉพาะความเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ การต่อสู้เกินประเด็นไม่กระทบผลคดี
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่เพิกถอน น.ส.3 ก.ของโจทก์ที่อ้างว่าออกทับที่ดินสาธารณประโยชน์ โดยโจทก์อ้างว่าที่ดินนั้นไม่ใช่ที่ดินสาธารณประโยชน์ ประเด็นแห่งคดีจึงอยู่ที่เหตุที่จำเลยออกคำสั่ง คือที่ดินพิพาทเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์หรือไม่เท่านั้น การที่จำเลยให้การต่อสู้เพิ่มเติมจากประเด็นดังกล่าวออกไปอีกว่า จำเลยเพิกถอนชอบแล้ว เพราะ น.ส.3 ก. ออกโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากโจทก์ไม่ได้ครอบครองมาก่อน อันเป็นผลให้ศาลชั้นต้นกำหนดเป็นประเด็นข้อนี้ขึ้น แต่ข้อต่อสู้นี้ไม่มีผลกระทบถึงผลแห่งคดีย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะกำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทให้คู่ความนำสืบ จึงเป็นการกำหนดประเด็นขึ้นโดยไม่ชอบ ถือได้ว่าคดีไม่มีประเด็นดังกล่าว แม้ศาลล่างจะวินิจฉัยมาก็ไม่ผูกพันศาลฎีกาที่จะต้องวินิจฉัยให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3328/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นข้อพิพาทที่ไม่เกี่ยวข้องกับผลแห่งคดี ศาลไม่ต้องวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่เพิกถอน น.ส.3ก.ของโจทก์ที่อ้างว่าออกทับที่ดินสาธารณประโยชน์ โดยโจทก์อ้างว่าที่ดินนั้นไม่ใช่ที่ดินสาธารณประโยชน์ ประเด็นแห่งคดีจึงอยู่ที่เหตุที่จำเลยออกคำสั่ง คือที่ดินพิพาทเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์หรือไม่เท่านั้น การที่จำเลยให้การต่อสู้เพิ่มเติมจากประเด็นดังกล่าวออกไปอีกว่า จำเลยเพิกถอนชอบแล้ว เพราะ น.ส.3ก. ออกโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากโจทก์ไม่ได้ครอบครองมาก่อน อันเป็นผลให้ศาลชั้นต้นกำหนดเป็นประเด็นข้อนี้ขึ้น แต่ข้อต่อสู้นี้ไม่มีผลกระทบถึงผลแห่งคดีย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะกำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทให้คู่ความนำสืบ จึงเป็นการกำหนดประเด็นขึ้นโดยไม่ชอบ ถือได้ว่าคดีไม่มีประเด็นดังกล่าว แม้ศาลล่างจะวินิจฉัยมาก็ไม่ผูกพันศาลฎีกาที่จะต้องวินิจฉัยให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรมธรรม์ประกันภัย: การมีใบอนุญาตขับรถที่ขาดต่ออายุไม่ถือว่าขาดความสามารถในการขับขี่
การที่คู่ความตกลงนำสืบพยานกันเฉพาะประเด็นตามคำท้าว่าขณะเกิดเหตุ ส. ผู้ขับรถจำเลยที่ 1 คันที่เอาประกันภัยกับโจทก์มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ย่อมหมายถึงชอบด้วยกฎหมายตามกรมธรรม์ประกันภัยรายพิพาทหรือไม่การวินิจฉัยย่อมต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยประกอบเมื่อปรากฏว่าตามเงื่อนไขในกรมธรรม์มีไว้เพื่อไม่ให้ผู้ที่ขับรถยนต์ไม่เป็นหรือไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์มาขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัย การที่ ส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์มาก่อนเกิดเหตุเพียงแต่ขาดต่ออายุระหว่างเกิดเหตุ หาได้หมายความว่า ความสามารถในการขับรถยนต์ของ ส.บกพร่องไปไม่ จึงถือได้ว่า ส.มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายตามคำท้าของโจทก์และจำเลยที่ 1 โจทก์ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรมธรรม์ประกันภัย: การขาดต่ออายุใบอนุญาตขับรถ ไม่ถือเป็นการไม่ได้รับอนุญาตขับรถตามกรมธรรม์
การที่คู่ความตกลงนำสืบพยานกันเฉพาะประเด็นตามคำท้าว่าขณะเกิดเหตุ ส. ผู้ขับรถจำเลยที่ 1 คันที่เอาประกันภัยกับโจทก์มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ย่อมหมายถึงชอบด้วยกฎหมายตามกรมธรรม์ประกันภัยรายพิพาทหรือไม่ การวินิจฉัยย่อมต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยประกอบเมื่อปรากฏว่าตามเงื่อนไขในกรมธรรม์มีไว้เพื่อไม่ให้ผู้ที่ขับรถยนต์ไม่เป็นหรือไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์มาขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัย การที่ ส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์มาก่อนเกิดเหตุเพียงแต่ขาดต่ออายุระหว่างเกิดเหตุ หาได้หมายความว่า ความสามารถในการขับรถยนต์ของ ส.บกพร่องไปไม่ จึงถือได้ว่า ส.มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายตามคำท้าของโจทก์และจำเลยที่ 1 โจทก์ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1972/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางสัญญาขายฝาก: ผลกระทบต่อกรรมสิทธิ์และการฟ้องขับไล่
จำเลยให้การว่าซื้อที่ดินและตึกแถวรายพิพาทจริง โดยทำนิติกรรมขายฝาก แต่โจทก์ให้จดทะเบียนเป็นสัญญาซื้อขายเป็นนิติกรรมอำพรางสัญญาขายฝาก หากเป็นจริงดังจำเลยอ้างสัญญาซื้อขายย่อมตกเป็นโมฆะ บังคับไม่ได้ โจทก์ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวพิพาทส่วนโจทก์จะได้กรรมสิทธิ์และมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยตามสัญญาขายฝากหรือไม่ เป็นปัญหาที่จะต้องพิจารณาในภายหลัง คดีจำเป็นต้องฟังพยานต่อไป(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1287/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเผชิญสืบทรัพย์ตามคำท้าของคู่ความ ศาลชี้ขาดตามสภาพทรัพย์จริง คำวินิจฉัยตรงกับคำท้า
โจทก์จำเลยท้ากันขอให้ศาลออกไปเผชิญสืบทรัพย์อันดับที่ 5ว่าอยู่ในสภาพที่โจทก์จะรับคืนไปได้หรือไม่ ได้ผลประการใดให้ศาลชี้ขาดไปได้เลย เมื่อศาลเผชิญสืบแล้วมีคำสั่งว่าทรัพย์อันดับที่ 5 อยู่ในสภาพรับคืนไปได้ คำชี้ขาดของศาลดังกล่าวตรงกับที่คู่ความท้ากันแล้ว.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้การด้วยวาจาในคดีแรงงาน เพียงพอต่อการสร้างประเด็นข้อพิพาท แม้ไม่ได้ทำตามรูปแบบการให้การเป็นหนังสือ
คดีแรงงานจำเลยมีสิทธิให้การด้วยวาจาได้ กฎหมายจึงมิได้ถือเคร่งครัดเช่นการให้การเป็นหนังสือในคดีแพ่งธรรมดา เพื่อให้คดีได้เสร็จสิ้นไปด้วยความรวดเร็วตามเจตนารมณ์ของวิธีพิจารณาคดีแรงงาน ดังนั้นที่จำเลยให้การด้วยวาจาซึ่งศาลแรงงานกลางได้บันทึกไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาว่า คำฟ้องอื่นของโจทก์ไม่เป็นความจริงและจำเลยขอปฏิเสธว่าจำเลยมิได้กระทำความผิดตามฟ้องโจทก์จึงเป็นการเพียงพอที่ก่อให้เกิดประเด็นข้อพิพาทที่จำเลยจะนำสืบได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์หรือไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้การด้วยวาจาในคดีแรงงานเพียงพอต่อการสร้างประเด็นข้อพิพาท แม้ไม่ได้ทำตามแบบฟอร์มการให้การในคดีแพ่ง
คดีแรงงานจำเลยมีสิทธิให้การด้วยวาจาได้ กฎหมายจึงมิได้ถือเคร่งครัดเช่นการให้การเป็นหนังสือในคดีแพ่งธรรมดา เพื่อให้คดีได้เสร็จสิ้นไปด้วยความรวดเร็วตามเจตนารมณ์ของวิธีพิจารณาคดีแรงงาน ดังนั้นที่จำเลยให้การด้วยวาจาซึ่งศาลแรงงานกลางได้บันทึกไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาว่า คำฟ้องอื่นของโจทก์ไม่เป็นความจริงและจำเลยขอปฏิเสธว่าจำเลยมิได้กระทำความผิดตามฟ้องโจทก์จึงเป็นการเพียงพอที่ก่อให้เกิดประเด็นข้อพิพาทที่จำเลยจะนำสืบได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์หรือไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3006/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม: ศาลฎีกายืนตามศาลแรงงานกลาง เหตุจำเลยอุทธรณ์เกินกรอบประเด็นที่ต่อสู้ไว้
คำให้การของจำเลยอ้างเหตุแต่เพียงว่า โจทก์เล่นการพนันกับพนักงานในขณะทำงาน คดีจึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเหตุที่โจทก์ขาดงานติดต่อกันเกิน 3 วัน หรือดื่มสุราในเวลาทำงานหรือไม่ แม้ทางพิจารณาจำเลยจะได้นำสืบถึงเหตุดังกล่าว ก็เป็นการนำสืบนอกประเด็น
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าโจทก์มีหน้าที่พิสูจน์อักษรแต่โจทก์กระทำโดยประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรง ทำให้การพิสูจน์อักษรในหนังสือฉบับพิเศษของหนังสือพิมพ์เส้นทางเศรษฐกิจฉบับดีเด่นแห่งปี ประจำปี 2528 ผิดพลาดไป 20 แห่ง เป็นข้อผิดพลาดมาก จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงเป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างโจทก์ได้ เป็นการอ้างเหตุไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 47 (5) แต่อุทธรณ์ของจำเลยอ้างเหตุว่าโจทก์จงใจทำให้จำเลยได้รับความเสียหายตามประกาศ ฯ ดังกล่าวข้อ 47 (2)ซึ่งจำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ประกอบด้วยมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าโจทก์มีหน้าที่พิสูจน์อักษรแต่โจทก์กระทำโดยประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรง ทำให้การพิสูจน์อักษรในหนังสือฉบับพิเศษของหนังสือพิมพ์เส้นทางเศรษฐกิจฉบับดีเด่นแห่งปี ประจำปี 2528 ผิดพลาดไป 20 แห่ง เป็นข้อผิดพลาดมาก จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงเป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างโจทก์ได้ เป็นการอ้างเหตุไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 47 (5) แต่อุทธรณ์ของจำเลยอ้างเหตุว่าโจทก์จงใจทำให้จำเลยได้รับความเสียหายตามประกาศ ฯ ดังกล่าวข้อ 47 (2)ซึ่งจำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ประกอบด้วยมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3006/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างแรงงาน: การอ้างเหตุนอกประเด็น & การเปลี่ยนแปลงเหตุเลิกจ้างในอุทธรณ์ เป็นเหตุให้ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
คำให้การของจำเลยอ้างเหตุแต่เพียงว่า โจทก์เล่นการพนันกับพนักงานในขณะทำงาน คดีจึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเหตุที่โจทก์ขาดงานติดต่อกันเกิน 3วันหรือดื่มสุราในเวลาทำงานหรือไม่ แม้ทางพิจารณาจำเลยจะได้นำสืบถึงเหตุดังกล่าวก็เป็นการนำสืบนอกประเด็น
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าโจทก์มีหน้าที่พิสูจน์อักษรแต่โจทก์กระทำโดยประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรงทำให้การพิสูจน์อักษรในหนังสือฉบับพิเศษของหนังสือพิมพ์เส้นทางเศรษฐกิจฉบับดีเด่นแห่งปี ประจำปี 2528 ผิดพลาดไป20แห่ง เป็นข้อผิดพลาดมากจำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจึงเป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างโจทก์ได้เป็นการอ้างเหตุไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานข้อ 47(5) แต่อุทธรณ์ของจำเลยอ้างเหตุว่าโจทก์จงใจทำให้จำเลยได้รับความเสียหายตามประกาศฯดังกล่าวข้อ 47(2) ซึ่งจำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 ประกอบด้วยมาตรา 31แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าโจทก์มีหน้าที่พิสูจน์อักษรแต่โจทก์กระทำโดยประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรงทำให้การพิสูจน์อักษรในหนังสือฉบับพิเศษของหนังสือพิมพ์เส้นทางเศรษฐกิจฉบับดีเด่นแห่งปี ประจำปี 2528 ผิดพลาดไป20แห่ง เป็นข้อผิดพลาดมากจำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจึงเป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างโจทก์ได้เป็นการอ้างเหตุไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานข้อ 47(5) แต่อุทธรณ์ของจำเลยอ้างเหตุว่าโจทก์จงใจทำให้จำเลยได้รับความเสียหายตามประกาศฯดังกล่าวข้อ 47(2) ซึ่งจำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 ประกอบด้วยมาตรา 31แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522