พบผลลัพธ์ทั้งหมด 28 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 878/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่ผู้เช่า: ส่วนประกอบอาคารติดกันมิใช่เจ้าของรวม สิทธิการเช่าสิ้นสุดเมื่อสัญญาหมดอายุ
ฟ้องขับไล่จากตึกเช่าเลขที่13 จำเลยต่อสู้ว่าตึกเช่าที่ฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของตึกเช่าเลขที่ 15 ซึ่งจำเลยเช่าผู้อื่นอยู่ดังนี้ไม่ใช่คดีพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์
ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาแล้วผู้เช่าไม่ออกจากที่เช่าและส่งค่าเช่าให้ต่อไปแต่ผู้ให้เช่ารับไว้เป็นค่าเสียหายไม่ถือว่ามีการเช่ากันต่อไป
ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาแล้วผู้เช่าไม่ออกจากที่เช่าและส่งค่าเช่าให้ต่อไปแต่ผู้ให้เช่ารับไว้เป็นค่าเสียหายไม่ถือว่ามีการเช่ากันต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการขับไล่ผู้เช่าเมื่อเจ้าของที่ดินยินยอมให้ทำสัญญาเช่าก่อนหน้า
จะเป็นคดีมโนสาเร่หรือไม่ให้พิจารณาตามฟ้องที่โจทก์ตั้งฟ้องมาแต่ศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ปลูกห้องแถวในที่ดินซึ่งครั้งหนึ่งเป็นของจำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ ห้องแถวยังเป็นของจำเลยที่ 1 ตลอดมาตัวโจทก์เองได้แสดงต่อบุคคลภายนอกให้หลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 มีอำนาจทำสัญญาในนามของจำเลยที่ 1 ให้บุคคลภายนอกเช่าอยู่ได้ดังนี้โจทก์จะอ้างการอาศัยของจำเลยที่ 1 ขึ้นบังหน้าขับไล่บุคคลภายนอกไม่ได้เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ให้มีผลเฉพาะระหว่างคู่ความชั้นอุทธรณ์
จำเลยที่ 1 ปลูกห้องแถวในที่ดินซึ่งครั้งหนึ่งเป็นของจำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ ห้องแถวยังเป็นของจำเลยที่ 1 ตลอดมาตัวโจทก์เองได้แสดงต่อบุคคลภายนอกให้หลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 มีอำนาจทำสัญญาในนามของจำเลยที่ 1 ให้บุคคลภายนอกเช่าอยู่ได้ดังนี้โจทก์จะอ้างการอาศัยของจำเลยที่ 1 ขึ้นบังหน้าขับไล่บุคคลภายนอกไม่ได้เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ให้มีผลเฉพาะระหว่างคู่ความชั้นอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1829/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีหุ้นส่วนเลิกสัญญา - การกำหนดทุนทรัพย์และประเภทคดีมโนสาเร่
ฟ้องขอให้ศาลสั่งเลิกหุ้นส่วนและให้จำเลยชำระบัญชีหุ้นส่วนหรือตั้งผู้ชำระบัญชี ไม่ได้ฟ้องเรียกทรัพย์สินอะไรจากจำเลยและไม่ได้ตั้งราคาทุนทรัพย์เรียกร้องมาในฟ้อง เสียค่าขึ้นศาล 15 บาทอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ ดังนี้ เป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เป็นคดีมโนสาเร่
การเข้าหุ้นส่วนซื้อข้าวสารมาทำการค้าขายกันนั้นไม่มีกฎหมายบังคับไว้ว่า ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง ฉะนั้นจึงนำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างของตนได้ ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
การเข้าหุ้นส่วนซื้อข้าวสารมาทำการค้าขายกันนั้นไม่มีกฎหมายบังคับไว้ว่า ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง ฉะนั้นจึงนำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างของตนได้ ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1829/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีหุ้นส่วนเลิกห้าง - คดีมโนสาเร่ - การสืบพยานบุคคล
ฟ้องขอให้ศาลสั่งเลิกหุ้นส่วนและให้จำเลยชำระบัญชีหุ้นส่วนหรือตั้งผู้ชำระบัญชีไม่ได้ฟ้องเรียกทรัพย์สินอะไรจาก จำเลย และไม่ได้ตั้งราคาทุนทรัพย์เรียกร้องมาในฟ้องเสียค่าขึ้นศาล 15 บาท อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ ดังนี้เป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ ไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้เป็นคดีมโนสาเร่
การเข้าหุ้นส่วนซื้อข้าวสารมาทำการค้าขายกันนั้นไม่มีกฎหมายบังคับไว้ว่า ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงฉะนั้นจึงพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างของตนได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94
การเข้าหุ้นส่วนซื้อข้าวสารมาทำการค้าขายกันนั้นไม่มีกฎหมายบังคับไว้ว่า ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงฉะนั้นจึงพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างของตนได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเครื่องหมายการค้า: ปัญหาข้อกฎหมายเรื่องการเลียนเครื่องหมายที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินผิด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าเครื่องหมายมีลักษณะต่างกันศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยอ้างว่าเครื่องหมายโจทก์จำเลยต่างกัน มาก เมื่อปรากฎว่าคู่ความรับกันในรูปเครื่องหมายแล้ว คงเถียงกันว่าจะเป็นการเลียนหรือไม่ จึงเป็นปัญหาในข้อกฎหมาย คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์โดยเห็นว่าต้องห้าม ศาลฎีกาเห็นว่าอุทธรณ์เป็นปัญหากฎหมายไม่ต้องห้าม ก็ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่
ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์โดยเห็นว่าต้องห้าม ศาลฎีกาเห็นว่าอุทธรณ์เป็นปัญหากฎหมายไม่ต้องห้าม ก็ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลียนเครื่องหมายการค้า: ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้พิจารณาใหม่ในประเด็นข้อกฎหมาย
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์จำเลยต่อสู้ว่า เครื่องหมายมีลักษณะต่างกัน ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยอ้างว่าเครื่องหมายโจทก์จำเลยต่างกันมาก เมื่อปรากฏว่าคู่ความรับกันในรูปเครื่องหมายแล้ว คงเถียงกันว่าจะเป็นการเลียนหรือไม่ จึงเป็นปัญหาในข้อกฎหมาย คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์โดยเห็นว่า ต้องห้าม ศาลฎีกาเห็นว่าอุทธรณ์เป็นปัญหากฎหมายไม่ต้องห้าม ก็ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่
ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์โดยเห็นว่า ต้องห้าม ศาลฎีกาเห็นว่าอุทธรณ์เป็นปัญหากฎหมายไม่ต้องห้าม ก็ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับจำนองแม้หนี้เกิน 10 ปี และสิทธิการหลุดเป็นสิทธิเมื่อค้างดอกเบี้ยเกิน 5 ปี
การฟ้องคดีบังคับจำนองนั้น แม้หนี้จำนองเกิน 10 ปี แล้วก็ยังฟ้องได้
ฟ้องขอให้ที่จำนองหลุดเป็นสิทธิหรือยึดที่จำนองขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้จำนองนั้น เมื่อปรากฎว่าจำเลยค้างดอกเบี้ยเกิน 5 ปีแล้ว และผู้จำนองไม่ได้ต่อสู้ไว้ว่าที่จำนองมีราคาท่วมหนี้จำนองศาลก็ย่อมพิพากษาให้เอาที่จำนองหลุดเป็นสิทธิแก่โจทก์ ได้
ฟ้องขอให้ที่จำนองหลุดเป็นสิทธิหรือยึดที่จำนองขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้จำนองนั้น เมื่อปรากฎว่าจำเลยค้างดอกเบี้ยเกิน 5 ปีแล้ว และผู้จำนองไม่ได้ต่อสู้ไว้ว่าที่จำนองมีราคาท่วมหนี้จำนองศาลก็ย่อมพิพากษาให้เอาที่จำนองหลุดเป็นสิทธิแก่โจทก์ ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1757/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวง: คดีทำลายสัญญาจำนองไม่ใช่เรื่องฟ้องเรียกกรรมสิทธิ์
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ทำลายสัญญาจำนอง และสัญญายอมความต่อศาลระหว่างจำเลยมูลคดีเป็นเรื่องขอให้ทำลายสัญญาไม่ใช่เรื่องฟ้องเรียกกรรมสิทธิ์จากจำเลย แม้มีข้อเท็จจริงโต้เถียงกันว่า โจทก์กับจำเลยเป็นผัวเมียกันหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ฟ้องที่ศาลแขวงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำรุดทรุดโทรมตามสภาพของห้องเช่าและการคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีมโนสาเร่ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงคู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำรุดทรุดโทรมของห้องเช่าตามอายุการใช้งาน และความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
คดีมโนสาเร่ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริง คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้.