คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 144 วรรคแรก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7950/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่วินิจฉัยเรื่องอำนาจฟ้องซ้ำ โดยชี้ว่าเป็นการหลีกเลี่ยงการพิจารณาตามคำพิพากษาศาลฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องโจทก์อ้างเหตุว่าจำเลยไม่ได้โต้แย้งสิทธิโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดสืบพยานโจทก์และจำเลยแล้ววินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้โต้แย้งสิทธิโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องโดยมีเนื้อหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเช่นเดียวกับคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษาไปแล้ว จึงเป็นการวินิจฉัยในเนื้อหาเช่นเดียวกันกับที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยดังกล่าว อันเป็นกรณีที่เห็นได้ชัดเจนว่าศาลชั้นต้นยกเรื่องอื่นขึ้นโต้แย้งคำพิพากษาศาลฎีกาในประเด็นที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาไปแล้ว โดยพยายามเบี่ยงเบนให้เกิดเป็นประเด็นใหม่ขึ้นในเรื่องอำนาจฟ้องแล้วสรุปทำนองว่าโจทก์มิได้ถูกโต้แย้งสิทธิจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ซึ่งเป็นการพิพากษาซ้ำซ้อนกับคำพิพากษาเดิมของศาลชั้นต้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ยอมดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ให้เป็นไปตามประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวข้างต้น จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3190/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาคดีก่อน, สัญญาซื้อขาย, การชำระราคา, ความผิดสัญญา, กรรมการไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ โดยเห็นว่าเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธที่ไม่รับของศาลชั้นต้นคำสั่งศาลอุทธรณ์จึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคแรก
คดีก่อนจำเลยที่ 1 เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลย ขอให้โจทก์คดีนี้ชำระค่าเสียหายเพราะเหตุส่งมอบพรมชำรุดบกพร่อง ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระราคาพรม ฟ้องโจทก์ทั้งสองคดีมิได้มีประเด็นข้อพิพาทอย่างเดียวกันจึงไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดในคดีก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 144
โจทก์และจำเลยในคดีก่อนกับจำเลยที่ 1 และโจทก์ในคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกัน และพิพาทกันในมูลสัญญาซื้อขายอันเดียวกัน คำพิพากษาในคดีเรื่องก่อนจึงผูกพันคู่ความในคดีนี้มิให้โต้เถียงเป็นอย่างอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145 และเป็นผลให้ศาลในคดีนี้ต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีก่อน เมื่อศาลอุทธรณ์คดีก่อนซึ่งจำเลยที่ 1เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลย พิพากษาว่า โจทก์ (จำเลยที่ 1 คดีนี้) ได้รับพรมที่สั่งซื้อจากจำเลย (โจทก์คดีนี้)และโจทก์ (จำเลยที่ 1 คดีนี้) มีโอกาสตรวจดูว่าตรงตามที่สั่งซื้อหรือไม่ โจทก์รับไว้โดยมิได้ทักท้วงแล้วนำไปติดตั้งให้ลูกค้า กรณีเช่นนี้จำเลย (โจทก์คดีนี้) ไม่ต้องรับผิด คดีถึงที่สุดแล้ว การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์(คดีนี้) เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ส่งมอบพรมตามคุณภาพที่ได้สั่งซื้อให้จำเลยและไม่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้ จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญา และไม่มีหน้าที่ชำระราคาให้โจทก์พิพากษายกฟ้อง จึงเป็นการฟังข้อเท็จจริงผิดไปจากคดีก่อนไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลและได้กระทำในนามของจำเลยที่ 1 ดังนี้ จำเลยที่ 2จึงไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3190/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาคดีก่อนกับคดีหลังในประเด็นสัญญาซื้อขาย การฟังข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ โดยเห็นว่าเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธที่ไม่รับของศาลชั้นต้น คำสั่งศาลอุทธรณ์จึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคแรก
คดีก่อนจำเลยที่ 1 เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลย ขอให้โจทก์คดีนี้ชำระค่าเสียหายเพราะเหตุส่งมอบพรมชำรุดบกพร่อง ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระราคาพรม ฟ้องโจทก์ทั้งสองคดีมิได้มีประเด็นข้อพิพาทอย่างเดียวกันจึงไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดในคดีก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 144
โจทก์และจำเลยในคดีก่อนกับจำเลยที่ 1 และโจทก์ในคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกัน และพิพาทกันในมูลสัญญาซื้อขายอันเดียวกัน คำพิพากษาในคดีเรื่องก่อนจึงผูกพันคู่ความในคดีนี้มิให้โต้เถียงเป็นอย่างอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145 และเป็นผลให้ศาลในคดีนี้ต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีก่อน เมื่อศาลอุทธรณ์คดีก่อนซึ่งจำเลยที่ 1เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลย พิพากษาว่า โจทก์ (จำเลยที่ 1 คดีนี้) ได้รับพรมที่สั่งซื้อจากจำเลย (โจทก์คดีนี้) และโจทก์ (จำเลยที่ 1 คดีนี้) มีโอกาสตรวจดูว่าตรงตามที่สั่งซื้อหรือไม่ โจทก์รับไว้โดยมิได้ทักท้วงแล้วนำไปติดตั้งให้ลูกค้า กรณีเช่นนี้จำเลย (โจทก์คดีนี้) ไม่ต้องรับผิด คดีถึงที่สุดแล้ว การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ (คดีนี้) เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ส่งมอบพรมตามคุณภาพที่ได้สั่งซื้อให้จำเลยและไม่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้ จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญา และไม่มีหน้าที่ชำระราคาให้โจทก์พิพากษายกฟ้อง จึงเป็นการฟังข้อเท็จจริงผิดไปจากคดีก่อนไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลและได้กระทำในนามของจำเลยที่ 1 ดังนี้ จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว.