คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1329

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 32 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1950/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการซื้อขายที่ดินจากการบอกล้างโมฆียะกรรม และอำนาจฟ้องของทายาท
ม. ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โฉนดที่ดินที่พิพาทได้ฟ้องจำเลยที่ 1 ต่อศาลว่า จำเลยที่ 1 ใช้กลฉ้อฉลโอนเอาที่ดินโฉนดที่พิพาทไป ขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยที่ 1 ออกจากโฉนดที่พิพาท ศาลฟังข้อเท็จจริงว่า ม. ได้ถูกจำเลยที่ 1 ใช้กลฉ้อฉลจริง พิพากษาให้เพิกถอนชื่อจำเลยที่ 1ออกจากโฉนดที่พิพาท คดีถึงที่สุด ระหว่างที่จำเลยที่1 ยังไม่ได้แก้ชื่อในโฉนดที่พิพาทให้เป็นของ ม. ตามเดิมจำเลยที่ 1 ได้จดทะเบียนโอนขายที่พิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นวันที่ ม. ถึงแก่กรรม ดังนี้ โดยผลคำพิพากษาดังกล่าวถือว่าได้มีการบอกล้างโมฆียะกรรมแล้ว ซึ่งตามมาตรา 138 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ท่านให้ถือว่าเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก จึงเท่ากับจำเลยที่ 1 ไม่เคยมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่พิพาทเลย ที่พิพาทยังเป็นกรรมสิทธิ์ของ ม. อยู่ตามเดิม จำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิโอนขายที่พิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท และจะยกเอาเหตุที่ได้รับโอนโดยเสียค่าตอบแทน และโดยสุจริต มายันโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมรดกที่พิพาทจาก ม. เจ้าของที่พิพาทเดิมหาได้ไม่
คดีนี้ โจทก์ฟ้องเรียกที่พิพาทคืนจากผู้ไม่มีสิทธิในฐานโจทก์เป็นทายาทรับมรดกคนหนึ่งของ ม. เจ้ามรดกโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายระหว่างจำเลยทั้งสองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนที่ดินโดยมีการฉ้อฉล บุคคลภายนอกรับโอนโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน ย่อมมีสิทธิในที่ดินเต็มจำนวน
การที่จำเลยได้จดทะเบียนที่ดินในโฉนดของจำเลยว่า จ.มีกรรมสิทธิ์รวมอยู่ 209 ส่วนในจำนวน 4,200 ส่วนของที่ดินแปลงนี้นั้น. ย่อมเป็นหลักฐานทางทะเบียนว่า จ.มีกรรมสิทธิ์รวมตามจำนวนที่ได้จดทะเบียนไว้. แม้ว่าการจดทะเบียนจะเกิดจากการฉ้อฉลของ จ.. แต่การจดทะเบียนนั้นก็มีผลเพียงเป็นโมฆียะ. โจทก์เป็นบุคคลภายนอกรับโอนกรรมสิทธิ์ในส่วนที่เป็นของ จ.ตามทะเบียนโดยมีค่าตอบแทนและโดยสุจริต. โจทก์จึงย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินเต็มจำนวน 209 ส่วนตามที่ได้จดทะเบียนไว้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนที่ดินโดยฉ้อฉล บุคคลภายนอกรับโอนโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ย่อมมีสิทธิในที่ดินนั้น
การที่จำเลยได้จดทะเบียนที่ดินในโฉนดของจำเลยว่า จ.มีกรรมสิทธิ์รวมอยู่ 209 ส่วนในจำนวน 4,200 ส่วนของที่ดินแปลงนี้นั้น ย่อมเป็นหลักฐานทางทะเบียนว่า จ.มีกรรมสิทธิ์รวมตามจำนวนที่ได้จดทะเบียนไว้ แม้ว่าการจดทะเบียนจะเกิดจากการฉ้อฉลของ จ. แต่การจดทะเบียนนั้นก็มีผลเพียงเป็นโมฆียะ โจทก์เป็นบุคคลภายนอกรับโอนกรรมสิทธิ์ในส่วนที่เป็นของ จ.ตามทะเบียนโดยมีค่าตอบแทนและโดยสุจริต โจทก์จึงย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินเต็มจำนวน 209 ส่วนตามที่ได้จดทะเบียนไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนที่ดินโดยกลฉ้อฉล บุคคลภายนอกรับโอนโดยสุจริต ได้กรรมสิทธิ์เต็มจำนวน
การที่จำเลยได้จดทะเบียนที่ดินในโฉนดของจำเลยว่า จ.มีกรรมสิทธิ์รวมอยู่ 209 ส่วนในจำนวน 4,200 ส่วนของที่ดินแปลงนี้นั้น ย่อมเป็นหลักฐานทางทะเบียนว่า จ.มีกรรมสิทธิ์รวมตามจำนวนที่ได้จดทะเบียนไว้ แม้ว่าการจดทะเบียนจะเกิดจากการฉ้อฉลของ จ. แต่การจดทะเบียนนั้นก็มีผลเพียงเป็นโมฆียะ โจทก์เป็นบุคคลภายนอกรับโอนกรรมสิทธิ์ในส่วนที่เป็นของ จ.ตามทะเบียนโดยมีค่าตอบแทนและโดยสุจริต โจทก์จึงย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินเต็มจำนวน 209 ส่วนตามที่ได้จดทะเบียนไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมซื้อขายโมฆะเมื่อสามีมิได้ยินยอมและได้บอกล้างแล้ว ผู้รับโอนย่อมไม่ได้รับความคุ้มครอง
สามีมิได้รู้เห็นและให้ความยินยอมภริยาทำนิติกรรมซื้อขายสินบริคณห์เมื่อได้บอกล้างนิติกรรมนั้นแล้วนิติกรรมนั้นย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 138
บุคคลที่รับโอนทรัพย์สินมาโดยไม่สุจริตจากผู้โอนที่ได้ทรัพย์สินมาโดยนิติกรรมอันเป็นโมฆียะเมื่อนิติกรรมนั้นถูกบอกล้าง บุคคลที่รับโอนนั้นไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1329

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมซื้อขายโมฆะและการโอนทรัพย์สินโดยไม่สุจริต ผู้รับโอนไม่ได้รับความคุ้มครอง
สามีมิได้รู้เห็นและให้ความยินยอมภริยาทำนิติกรรมซื้อขายสินบริคณห์เมื่อได้บอกล้างนิติกรรมนั้นแล้ว. นิติกรรมนั้นย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 138.
บุคคลที่รับโอนทรัพย์สินมาโดยไม่สุจริตจากผู้โอนที่ได้ทรัพย์สินมาโดยนิติกรรมอันเป็นโมฆียะ. เมื่อนิติกรรมนั้นถูกบอกล้าง บุคคลที่รับโอนนั้นไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1329.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกล้างนิติกรรมซื้อขายที่สามีมิได้ยินยอม และผลกระทบต่อผู้รับโอนที่รู้ถึงข้อบกพร่อง
สามีมิได้รู้เห็นและให้ความยินยอมภริยาทำนิติกรรมซื้อขายสินบริคณห์ เมื่อได้บอกล้างนิติกรรมนั้นแล้ว นิติกรรมนั้นย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 138
บุคคลที่รับโอนทรัพย์สินมาโดยไม่สุจริตจากผู้โอนที่ได้ทรัพย์สินมาโดยนิติกรรมอันเป็นโมฆียะ เมื่อนิติกรรมนั้นถูกบอกล้าง บุคคลที่รับโอนนั้นไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย ์ มาตรา 1329

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้ผิดกฎหมาย: สัญญาซื้อขายไม่สมบูรณ์ และไม้ต้องถูกริบ แม้ผู้ซื้ออ้างสุจริต
จำเลยทำสัญญาซื้อขายไม้สักตายแห้งขอนนอนกับกรมป่าไม้. แต่กลับไปทำการลักตัดไม้สักสดออกจากป่าโดยมิได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้. ไม้สักที่จำเลยลักตัดจึงเป็นไม้ที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย. และเป็นของที่ต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484 มาตรา 74.
ผู้ร้องรับซื้อไม้จากจำเลยซึ่งเป็นพ่อค้าไม้ โดยมีพฤติการณ์ที่ยังฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องสุจริต. ผู้ร้องจะยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1329,1332 ขึ้นมาอ้างเพื่อยึดถือไม้ไว้หาได้ไม่.
เมื่อวัตถุแห่งหนี้ของสัญญาซื้อขายเป็นของผิดกฎหมาย.สัญญาซื้อขายก็ไม่สมบูรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้ผิดกฎหมาย: สัญญาซื้อขายไม่สมบูรณ์ และไม้ต้องถูกริบ แม้ผู้ซื้ออ้างสุจริต
จำเลยทำสัญญาซื้อขายไม้สักตายแห้งขอนนอนกับกรมป่าไม้แต่กลับไปทำการลักตัดไม้สักสดออกจากป่าโดยมิได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ไม้สักที่จำเลยลักตัดจึงเป็นไม้ที่ได้มาโดยผิดกฎหมายและเป็นของที่ต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484 มาตรา 74
ผู้ร้องรับซื้อไม้จากจำเลยซึ่งเป็นพ่อค้าไม้ โดยมีพฤติการณ์ที่ยังฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องสุจริตผู้ร้องจะยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1329,1332 ขึ้นมาอ้างเพื่อยึดถือไม้ไว้หาได้ไม่
เมื่อวัตถุแห่งหนี้ของสัญญาซื้อขายเป็นของผิดกฎหมายสัญญาซื้อขายก็ไม่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้ผิดกฎหมาย: สัญญาซื้อขายไม่สมบูรณ์ แม้ผู้ซื้ออ้างสุจริต หากมีพฤติการณ์ส่อปกปิด
จำเลยทำสัญญาซื้อขายไม้สักตายแห้งขอนนอนกับกรมป่าไม้ แต่กลับไปทำการลักตัดไม้สดออกจากป่าโดยมิได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ไม้สักที่จำเลยลักตัดจึงเป็นไม้ที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย และเป็นของที่ต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74
ผู้ร้องรับซื้อไม้จากจำเลยซึ่งเป็นพ่อค้าไม้ โดยมีพฤติการณ์ที่ยังฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องสุจริต ผู้ร้องจะยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1329, 1332 ขึ้นมาอ้างเพื่อยึดถือไม้ไว้หาได้ไม่
เมื่อวัตถุแห่งหนี้ของสัญญาซื้อขายเป็นของผิดกฎหมาย สัญญาซื้อขายก็ไม่สมบูรณ์
of 4