คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 334

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 394 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์สุราของโรงแรม: การกระทำความผิดฐานลักทรัพย์เมื่อทรัพย์สินยังอยู่ในความครอบครองของเจ้าของ
การที่จำเลยเป็นลูกจ้างในโรงแรมแห่งหนึ่ง และทำหน้าที่เป็นพนักงานขายสุรานั้น สุราที่จำเลยไปเบิกมาขายยังอยู่ในความครอบครองของโรงแรม ฉะนั้น เมื่อจำเลยร่วมกันเอาสุรานั้นไปเป็นของตน โดยมีเจตนาทุจริต เช่นนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลพลเรือนพิจารณาคดีลักทรัพย์เมื่อฟ้องรวมกับคดีบุกรุกทำลายทรัพย์สิน
คดีที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดฐานบุกรุกทำให้เสียทรัพย์และลักทรัพย์ในวันตามฟ้องต่อเนื่องกันนั้น.เป็นคดีที่เกี่ยวพันกันตามความในมาตรา 14(2) แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.2498 ฉะนั้น เมื่อมีการฟ้องคดีในข้อหาฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ต่อศาลพลเรือนแล้ว ศาลพลเรือนย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีในข้อหาฐานลักทรัพย์ที่ฟ้องรวมกันมาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลพลเรือนพิจารณาคดีลักทรัพย์เมื่อฟ้องรวมกับคดีบุกรุกทำลายทรัพย์สิน
คดีที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดฐานบุกรุกทำให้เสียทรัพย์และลักทรัพย์ในวันตามฟ้องต่อเนื่องกันนั้น เป็นคดีที่เกี่ยวกันพันตามความในมาตรา 14 (2) แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 ฉะนั้น เมื่อมีการฟ้องคดีในข้อหาฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ต่อศาลพลเรือนแล้ว ศาลพลเรือนย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีในข้อหาฐานลักทรัพย์ที่ฟ้องรวมกันมาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย vs. ฉ้อโกง: การกระทำเป็นขั้นๆ เพื่อลักทรัพย์ การกล่าวเท็จเป็นเพียงส่วนประกอบ
จำเลยทำอุบายขอน้ำดื่มจากเจ้าของร้านรับฝากรถจักรยาน เมื่อเขาเผลอก็ลอบหยิบบัตรคู่หนึ่งของเจ้าของร้านแล้วเอาบัตรนั้นใบหนึ่งไปแขวนไว้ที่รถจักรยานโดยเอาบัตรเลขอื่นที่แขวนอยู่เดิมออกเสีย แล้วต่อมาก็เอาบัตรคู่กันอีกใบหนึ่งมาขอรับรถจักรยาน เขาไม่ยอมให้เพราะเห็นว่าไม่ใช่ผู้ฝากรถ ก็กล่าวเท็จแสดงว่าเพื่อนให้เอาบัตรมารับรถเพราะเปลี่ยนรถกันขี่เขาจึงยอมให้รถไป ดังนี้ เป็นความผิดฐานลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย มิใช่ฉ้อโกง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์ด้วยกลอุบาย vs. ฉ้อโกง: การกระทำโดยใช้บัตรปลอมเพื่อลักทรัพย์
จำเลยทำอุบายขอน้ำดื่มจากเจ้าของร้านรับฝากรถจักรยานเมื่อเขาเผลอก็ลอบหยิบบัตรคู่หนึ่งของเจ้าของร้านแล้วเอาบัตรนั้นใบหนึ่งไปแขวนไว้ที่รถจักรยานโดยเอาบัตรเลขอื่นที่แขวนอยู่เดิมออกเสีย แล้วต่อมาก็เอาบัตรคู่กันอีกใบหนึ่งมาขอรับรถจักรยาน เขาไม่ยอมให้เพราะเห็นว่าไม่ใช่ผู้ฝากรถ ก็กล่าวเท็จแสดงว่าเพื่อนให้เอาบัตรมารับรถเพราะเปลี่ยนรถกันขี่ เขาจึงยอมให้รถไป ดังนี้ เป็นความผิดฐานลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย มิใช่ฉ้อโกง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์สินของผู้รับมอบ: สิทธิการครอบครองยังไม่สละ หากไม่ได้มอบหมายอย่างชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และได้ความจากผู้เสียหายว่าจำเลยเป็นน้องผู้เสียหายๆ ได้ให้จำเลยเอาเงินไปเก็บในตู้ซึ่งเป็นที่เก็บเงินและเสื้อผ้า ตู้นี้อยู่ในห้องนอนของผู้เสียหายผู้เสียหายได้มอบกุญแจตู้ให้จำเลยไปด้วย ข้อเท็จจริงดังนี้จะถือว่าผู้เสียหายสละสิทธิการครอบครองเงินนั้นให้แก่จำเลยแล้ว ยังไม่ได้ผู้เสียหายยังมีสิทธิครอบครองเงินนั้นอยู่ รูปคดีอาจเป็นเรื่องลักทรัพย์ไม่ใช่ยักยอก ซึ่งศาลควรฟังพยานโจทก์ต่อไป ไม่ควรสั่งงดสืบพยาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบกุญแจตู้เก็บเงิน ไม่ถือเป็นการสละสิทธิครอบครอง ย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และได้ความจากผู้เสียหายว่า จำเลยเป็นน้องผู้เสียหาย ๆ ได้ให้จำเลยเอาเงินไปเก็บในตู้ซึ่งเป็นที่เก็บเงินและเสื้อผ่า ตู้นี้อยู่ในห้องนอนของผู้เสียหาย ๆ ได้มอบกุญแจตู้ให้จำเลยไปด้วย ข้อเท็จจริงดังนี้จะถือว่า ผู้เสียหายสละสิทธิการครอบครองเงินนั้นให้แก่จำเลยแล้ว ยังไม่ได้ ผู้เสียหายยังมีสิทธิครอบครองเงินนั้นอยู่ รูปคดีอาจะเป็นเรื่องลักทรัพย์ไม่ใช่ยักยอก ซึ่งศาลควรฟังพยานโจทก์ต่อไป ไม่ควรสั่งงดสืบพยาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานลักทรัพย์ในสถานที่ที่เข้าข่ายทั้งสถานที่บริการสาธารณะและสาธารณะสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า
จำเลยบังอาจลอบเข้าไปลักทรัพย์ในโรงพักสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นการลักทรัพย์ในสถานที่ที่จัดไว้ เพื่อบริการสาธารณะมาตรา 335 (8) หรือลักทรัพย์ในสาธารณะสถานสำหรับขนถ่ายสินค้ามาตรา 335 (9)
อนุมาตรา 8 เป็นสถานที่บริการสาธารณะทั่ว ๆ ไป ส่วนอนุมาตรา 9 จำกัดสถานที่บางแห่งไว้โดยเฉพาะ แต่การกระทำของจำเลยนี้เข้าอนุมาตรา 9 ตรงกว่า จำเลยมีผิดตาม มาตรา 335 (9) ตอน 1 ไม่ใช่ตอน 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ในสถานที่ที่เข้าข่ายทั้งสถานที่บริการสาธารณะและสาธารณสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า ศาลพิจารณาโทษตามมาตรา 335(9) ที่เฉพาะเจาะจงกว่า
จำเลยบังอาจลอบเข้าไปลักทรัพย์ในโรงพักสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นการลักทรัพย์ในสถานที่ที่จัดไว้เพื่อบริการสาธารณะ มาตรา 335(8) หรือลักทรัพย์ในสาธารณสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า มาตรา 335(9)
อนุมาตรา 8 เป็นสถานที่บริการสาธารณะทั่วๆไป ส่วนอนุมาตรา 9 จำกัดสถานที่บางแห่งไว้โดยเฉพาะ แต่การกระทำผิดของจำเลยนี้เข้าอนุมาตรา 9 ตรงกว่าจำเลยมีผิดตาม มาตรา 335(9) อนุมาตราเดียวจึงต้องลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ตอน 1 ไม่ใช่ ตอน 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกทรัพย์ที่ได้มาโดยไม่ทราบเจ้าของ แม้ฟ้องขอลงโทษฐานยักยอก ศาลลงโทษฐานลักทรัพย์ได้หากมีเจตนาทุจริต
จำเลยเก็บขวดใส่ทองรูปพรรณของผู้เสียหายซึ่งทำตกหายที่หน้าบันไดกุฏิวัดไปโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นของใครและไม่ทราบว่า เจ้าของยังติดตามหาอยู่หรือไม่ จำเลยเอาเป็นประโยชน์ของตนเสียโดยเจตนาทุจริต ต้องมีความผิดฐานเก็บทรัพย์ที่หายแล้วเบียดบังเอาเป็นของคนอันเป็นความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรค 2
(อ้างฎีกาที่ 448/2488)
เมื่อฟ้องบรรยายข้อความตามที่กล่าวข้างต้น โดยเฉพาะโจทก์ได้กล่าวข้างต้น โดยเฉพาะโจทก์ได้กล่าวไว้ในฟ้องด้วยว่าจำเลยได้เก็บเอาทองรูปพรรณซึ่งเป็นของผู้เสียหายไปโดยเจตนาทุจริต แม้ว่าโจทก์ขอให้ลงโทษฐานยักยอกของตกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ก็ดี หากการกระทำของจำเลยฟังได้ว่า เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ก็ยังลงโทษจำเลยตามฟ้องได้เพราะเป็นเรื่องที่โจทก์กล่าวไว้ในฟ้องอยู่แล้ว
of 40