คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 30

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 40 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2271/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดอำนาจศาลและการขัดขวางกระบวนพิจารณา ศาลฎีกายืนโทษปรับตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ฎีกาของโจทก์ที่ว่า ศาลอุทธรณ์มิได้ยกเลิกข้อกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30,31 และมาตรา 33คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นทำให้โจทก์ไม่สามารถดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้นต่อไปได้ เพราะโจทก์ได้คัดค้านไว้แล้วขอให้ยกเลิกข้อกำหนดของศาลชั้นต้นเสียนั้น โจทก์มิได้อุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้ขึ้นมาในชั้นอุทธรณ์ จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคแรก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย การที่ศาลออกข้อกำหนดก็เพื่อให้กระบวนพิจารณาดำเนินไปตามความเที่ยงธรรมและรวดเร็ว ที่ศาลชั้นต้นออกข้อกำหนดมิให้โจทก์ลุกขึ้นแถลงการณ์ใด ๆ ในขณะที่ศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาอยู่อันจะเป็นการขัดขวางทำให้กระบวนพิจารณาไม่อาจดำเนินไปได้โดยรวดเร็ว เหตุที่ออกข้อกำหนดเพราะโจทก์ได้กระทำหลายครั้งแล้วเมื่อศาลชั้นต้นออกข้อกำหนด โจทก์มิได้นำพาต่อข้อกำหนดของศาลยังลุกขึ้นแถลงโดยศาลมิได้อนุญาต และขอให้ศาลบันทึกในรายงานกระบวนพิจารณาอีก โจทก์ย่อมทราบถึงการกระทำของตนดีว่าเป็นการขัดขวางทำให้กระบวนพิจารณาไม่อาจดำเนินไปได้โดยรวดเร็วย่อมเป็นการละเมิดอำนาจศาลจะอ้างว่ากระทำไปโดยไม่รู้ว่ามีความผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3684/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีของผู้ร้องทำให้ศาลสั่งงดสืบพยานได้ ชอบแล้ว
ในวันนัดสืบพยานผู้ร้องครั้งแรกทนายผู้ร้องมาศาลขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุป่วยเจ็บ ในนัดที่ 2 ทนายผู้ร้องขอส่งประเด็นไปสืบพยานทุกคนที่ศาลอื่นโดยทนายผู้ร้องจะเป็นผู้จัดส่งหมายเรียกพยานเองหากส่งหมายให้พยานไม่ได้หรือพยานไม่มาศาลให้ถือว่าไม่ติดใจสืบพยานที่ไม่มาศาล ครั้นถึงวันนัดสืบพยานประเด็นทนายผู้ร้องก็ขอเลื่อนอีก โดยอ้างเหตุป่วยเจ็บและไม่ปรากฏว่านอกจากตัวผู้ร้องแล้วพยานอื่นที่ได้ขอหมายเรียกได้มาศาล ทั้งเมื่อผู้ร้องรับหมายเรียกพยานไปส่งแล้วก็ไม่ได้แจ้งผลการส่งหมายทนายโจทก์แถลงคัดค้านการขอเลื่อนคดีและขอให้ผู้ร้องซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานเข้าเบิกความแต่ผู้ร้องก็ปฏิเสธไม่ยอมเข้าเบิกความ ศาลรับประเด็นจึงส่งประเด็นคืนเช่นนี้ เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าผู้ร้องจงใจประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานผู้ร้องชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3684/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีโดยการขอเลื่อนนัดและไม่นำสืบพยาน ศาลมีอำนาจงดสืบพยานได้
ในวันนัดสืบพยานผู้ร้องครั้งแรกทนายผู้ร้องมาศาลขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุป่วยเจ็บ ในนัดที่ 2 ทนายผู้ร้องขอส่งประเด็นไปสืบพยานทุกคนที่ศาลอื่นโดยทนายผู้ร้องจะเป็นผู้จัดส่งหมายเรียกพยานเองหากส่งหมายให้พยานไม่ได้หรือพยานไม่มาศาลให้ถือว่าไม่ติดใจสืบพยานที่ไม่มาศาล ครั้นถึงวันนัดสืบพยานประเด็นทนายผู้ร้องก็ขอเลื่อนอีก โดยอ้างเหตุป่วยเจ็บและไม่ปรากฏว่านอกจากตัวผู้ร้องแล้วพยานอื่นที่ได้ขอหมายเรียกได้มาศาล ทั้งเมื่อผู้ร้องรับหมายเรียกพยานไปส่งแล้วก็ไม่ได้แจ้งผลการส่งหมายทนายโจทก์แถลงคัดค้านการขอเลื่อนคดีและขอให้ผู้ร้องซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานเข้าเบิกความแต่ผู้ร้องก็ปฏิเสธไม่ยอมเข้าเบิกความ ศาลรับประเด็นจึงส่งประเด็นคืนเช่นนี้ เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าผู้ร้องจงใจประวิงคดีให้ชักช้าศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานผู้ร้องชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3153/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาลและการละเมิดอำนาจศาล: ข้อความในอุทธรณ์ที่ดูหมิ่นเสียดสี
โจทก์อุทธรณ์มีข้อความว่า ศาลกระทำการอันไม่เป็นธรรมเข้าข้างฝ่ายจำเลยทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมีข้อความเช่นนี้ในอุทธรณ์แสดงว่าโจทก์กล่าวไว้โดยเจตนาดูหมิ่นเสียดสีศาล เมื่อเอามายื่นต่อศาลถือได้ว่าประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นการกระทำละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31 (1) แล้ว ศาลย่อมมีอำนาจสั่งลงโทษได้ทันที โดยไม่จำต้องออกข้อกำหนดตามมาตรา 30 ก่อน ดังเช่นเรื่องการรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาลและศาลไม่จำต้องสั่งให้โจทก์แก้ไขอุทธรณ์นั้นก่อนตามมาตรา 18 แม้ศาลจะมีคำสั่งให้โจทก์แก้ไขและโจทก์ทำอุทธรณ์ฉบับใหม่มายื่นต่อศาลแล้ว ก็เป็นเพียงแสดงว่าโจทก์รู้สึกผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายหาใช่การกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลยังมิได้เกิดขึ้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3153/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาลและการละเมิดอำนาจศาล: ศาลมีอำนาจลงโทษทันทีโดยไม่ต้องออกข้อกำหนด
โจทก์อุทธรณ์มีข้อความว่า ศาลกระทำการอันไม่เป็นธรรมเข้าข้างฝ่ายจำเลยทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมีข้อความเช่นนี้ในอุทธรณ์แสดงว่าโจทก์กล่าวไว้โดยเจตนาดูหมิ่นเสียดสีศาล เมื่อเอามายื่นต่อศาลถือได้ว่าประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นการกระทำละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1)แล้ว ศาลย่อมมีอำนาจสั่งลงโทษได้ทันที โดยไม่จำต้องออกข้อกำหนดตามมาตรา 30 ก่อน ดังเช่นเรื่องการรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาลและศาลไม่จำต้องสั่งให้โจทก์แก้ไขอุทธรณ์นั้นก่อนตามมาตรา 18แม้ศาลจะมีคำสั่งให้โจทก์แก้ไขและโจทก์ทำอุทธรณ์ฉบับใหม่มายื่นต่อศาลแล้ว ก็เป็นเพียงแสดงว่าโจทก์รู้สึกผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายหาใช่การกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลยังมิได้เกิดขึ้นไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3344/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีซ้ำโดยไม่มีพยาน ศาลชอบที่จะพิจารณาคดีโดยไม่ต้องเลื่อน
ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรกหลังจากสืบพยานโจทก์เสร็จทนายจำเลยขอเลื่อนเพราะพยานไม่มาศาล และแถลงว่านัดหน้าพยานมาเท่าใดก็จะสืบไปเท่านั้นโดยไม่ขอเลื่อนในนัดที่ 2ทนายจำเลยขอเลื่อนอีก อ้างว่าจำเลยที่ 1 ไปราชการต่างจังหวัดโดยที่จำเลยที่ 2 และพยานจำเลยอื่นก็ไม่มีมาศาล ซึ่งทนายโจทก์คัดค้านว่าเป็นการประวิงคดี ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีไปโดยเห็นว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบและให้นัดฟังคำพิพากษา จึงเป็นการชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3720/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ศาลมีอำนาจลงโทษทันทีโดยไม่ต้องออกข้อกำหนด
การรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาลเท่านั้นที่ศาลจะต้องออกข้อกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30ส่วนการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลซึ่งเป็นความผิดโดยสภาพมาตรา 30 หาได้บัญญัติให้ศาลจำต้องออกข้อกำหนดแต่อย่างใดไม่ ดังนั้น เมื่อผู้ถูกกล่าวหาประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ศาลย่อมมีอำนาจสั่งลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลได้ทันที
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นพยายามควบคุมการพิจารณาเกี่ยวกับการใช้คำถามและให้อยู่ในระเบียบ แต่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงอาการไม่พอใจ และพูดว่าเป็นทนายจบนิติศาสตร์มหาบัณฑิตจะไม่ถามความเฮงซวย โดยพูดซ้ำถึง3ครั้งต่อหน้าศาลคู่ความตำรวจและผู้ที่มาฟังการพิจารณา กิริยาและวาจาที่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงออกมาดังกล่าวแล้วมีลักษณะ เป็นการท้าทาย ไม่เคารพยำเกรงศาล การที่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับการศึกษามาสูงพอสมควรและได้รับใบอนุญาตให้เป็นทนายความชั้นหนึ่งเคยว่าความในศาลมามาก ย่อมจะรู้ว่าการแสดงกิริยาและวาจาดังกล่าว มีความหมายและความมุ่งหมายอย่างไรที่พจนานุกรมให้ความหมายของคำว่า 'เฮง'ไว้ว่า'โชคดีหรือเคราะห์ดี'และคำว่า'เฮงซวย'ว่า'เอาแน่นอนอะไรไม่ได้'นั้นไม่อาจกลบเกลื่อนเจตนาอันแท้จริงของผู้ถูกกล่าวหาได้การกระทำของ ผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3720/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาล แม้ไม่มีข้อกำหนดศาลก็ลงโทษได้
การรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาลเท่านั้นที่ศาลจะต้องออกข้อกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 ส่วนการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลซึ่งเป็นความผิดโดยสภาพ มาตรา 30 หาได้บัญญัติให้ศาลจำต้องออกข้อกำหนดแต่อย่างใดไม่ ดังนั้น เมื่อผู้ถูกกล่าวหาประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ศาลย่อมมีอำนาจสั่งลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลได้ทันที
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นพยายามควบคุมการพิจารณาเกี่ยวกับการใช้คำถามและให้อยู่ในระเบียบ แต่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงอาการไม่พอใจและพูดว่าเป็นทนายจบนิติศาสตร์มหาบัณฑิต จะไม่ถามความเฮงซวย โดยพูดซ้ำถึง 3 ครั้งต่อหน้าศาล คู่ความตำรวจและผู้ที่มาฟังการพิจารณา กิริยาและวาจาที่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงออกมาดังกล่าวแล้วมีลักษณะเป็นการท้าทายไม่เคารพยำเกรงศาล การที่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับการศึกษามาสูงพอสมควรและได้รับใบอนุญาตให้เป็นทนายความชั้นหนึ่ง เคยว่าความในศาลมามาก ย่อมจะรู้ว่าการแสดงกิริยาและวาจาดังกล่าว มีความหมายและความมุ่งหมายอย่างไร ที่พจนานุกรมให้ความหมายของคำว่า "เฮง" ไว้ว่า "โชคดีหรือเคราะห์ดี" และคำว่า "เฮงซวย" ว่า "เอาแน่นอนอะไรไม่ได้" นั้นไม่อาจกลบเกลื่อนเจตนาอันแท้จริงของผู้ถูกกล่าวหาได้การกระทำของ ผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3905/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีโดยทนายจำเลยและการรับผิดชอบของจำเลยต่อการกระทำของทนาย
จำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมาแล้ว 4 ครั้ง จนศาลมีคำสั่งกำชับว่านัดหน้าจะไม่ยอมให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆครั้นถึงวันนัดตามที่เลื่อนมาทนายจำเลยกลับยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและจำเลยก็ไม่มาศาลตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบชอบแล้ว
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาลเพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะ ให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้งจำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3905/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการรับผิดชอบต่อการกระทำของทนายความที่จำเลยแต่งตั้ง
จำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมาแล้ว 4 ครั้ง จนศาลมีคำสั่งกำชับว่านัดหน้าจะไม่ยอมให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ ครั้นถึงวันนัดตามที่เลื่อนมาทนายจำเลยกลับยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและจำเลยก็ไม่มาศาลตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบชอบแล้ว
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาล เพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง จำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
of 4