คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 30

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 40 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2867/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลทหารลงโทษละเมิดอำนาจศาล: ศาลพลเรือนไม่มีอำนาจรับอุทธรณ์
การกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 ถึง มาตรา 33นั้น หากมีความจำเป็นจะต้องใช้ในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีใด ก็เป็นอำนาจของศาลที่พิจารณาคดีนั้นที่จะใช้อำนาจตามบทกฎหมายดังกล่าว
การที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 3(ศาลจังหวัดอุดรธานี)ลงโทษผู้ขอประกันฐานละเมิดอำนาจศาลในการพิจารณาคดี ย่อมเป็นการลงโทษในกรณีที่ผู้ขอประกันละเมิดอำนาจศาลทหาร ไม่ใช่ละเมิดอำนาจศาลพลเรือน คำสั่งลงโทษดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งของศาลทหาร ศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นศาลพลเรือนไม่มีอำนาจรับอุทธรณ์ของผู้ขอประกันไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: พกพาอาวุธปืนในบริเวณศาล ถือเป็นประพฤติตนไม่เรียบร้อย แม้ไม่มีข้อกำหนดศาล
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31(1) มีอยู่ 2 กรณี คือ ขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลที่ออกตามมาตรา 30 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาลกรณีหนึ่ง หรือประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอีกกรณีหนึ่ง เฉพาะในกรณีหลังนี้เมื่อผู้ใดเข้ามาในบริเวณศาลแล้วประพฤติตนไม่เรียบร้อยก็เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลโดยศาลไม่จำต้องออกข้อกำหนดเสียก่อนการที่ผู้ถูกกล่าวหาพกพาอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนเข้ามาในบริเวณศาล ก็ถือได้ว่าเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การพกพาอาวุธในบริเวณศาลเป็นเหตุแห่งความผิด แม้ไม่มีข้อกำหนด
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31 (1) มีอยู่ 2 กรณี คือ ขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลที่ออกตามมาตรา 30 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาลกรณีหนึ่ง หรือประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอีกกรณีหนึ่ง เฉพาะในกรณีหลังนี้ เมื่อผู้ใดเข้ามาในบริเวณศาลแล้วประพฤติตนไม่เรียบร้อยก็เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลโดยศาลไม่จำต้องออกข้อกำหนดเสียก่อน การที่ผู้ถูกกล่าวหาพกพาอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนเข้ามาในบริเวณศาล ก็ถือได้ว่าเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจศาลในการออกข้อกำหนดรักษาความเรียบร้อย - การละเมิดอำนาจศาลต้องมีเหตุผลความจำเป็น
การที่ศาลจะออกข้อกำหนดใด ๆ โดยอาศัยอำนาจตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 จะต้องเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาล และเพื่อให้กระบวนพิจารณาดำเนินไปตามเที่ยงธรรมและรวดเร็วเท่านั้น
ท.เรียกเอาเงินจากจำเลยและคู่ความคดีอื่นโดยอ้างว่าเป็นค่าเขียนคำร้องศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามมิให้ ท. เข้ามาในบริเวณศาลในวันเปิดทำการซึ่งรวมทั้งวันอื่น ๆ ต่อมาไม่ว่ากรณีใด ๆ จึงเป็นการเกินเลยบทบัญญัติมาตราดังกล่าวและไม่ชอบ ดังนั้น ต่อมา ท. มีเหตุจำเป็นเข้ามาในบริเวณศาลในขณะที่ศาลเปิดทำการ อ้างว่าเป็นเพื่อน ส.เพื่อฟังศาลตัดสินเรื่องบุตรชายส. ถูกฟ้องกับ ช.ทนายความให้นำเงินมาให้ที่ศาลท. มิได้เข้ามาในบริเวณศาลเพื่อสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนการกระทำของท. หาเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการออกข้อกำหนดต้องสมเหตุผล เพื่อรักษาความเรียบร้อยและกระบวนการพิจารณาเท่านั้น
การที่ศาลจะออกข้อกำหนดใดๆ โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 จะต้องเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาล และเพื่อให้กระบวนพิจารณาดำเนินไปตามเที่ยงธรรมและรวดเร็วเท่านั้น
ท.เรียกเอาเงินจากจำเลยและคู่ความคดีอื่นโดยอ้างว่าเป็นค่าเขียนคำร้องศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามมิให้ ท.เข้ามาในบริเวณศาลในวันเปิดทำการ ซึ่งรวมทั้งวันอื่นๆ ต่อมาไม่ว่ากรณีใดๆ จึงเป็นการเกินเลยบทบัญญัติมาตราดังกล่าวและไม่ชอบ ดังนั้น ต่อมา ท. มีเหตุจำเป็นเข้ามาในบริเวณศาลในขณะที่ศาลเปิดทำการ อ้างว่าเป็นเพื่อน ส. เพื่อฟังศาลตัดสินเรื่องบุตรชาย ส.ถูกฟ้องกับ ข.ทนายความให้นำเงินมาให้ที่ศาล ท.มิได้เข้ามาในบริเวณศาลเพื่อสร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชน การกระทำของ ท.หาเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1632-1633/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีโดยจำเลย ศาลมีอำนาจงดสืบพยานและชี้ขาดคดีได้ หากมีเจตนาจงใจประวิงคดีโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
พฤติการณ์ที่ถือว่าจำเลยจงใจประวิงหน่วงเหนี่ยวให้คดีชักช้าโดยปราศจากเหตุผลอันสมควร ซึ่งศาลมีอำนาจงดสืบพยานจำเลย และชี้ขาดคดีไป โดยไม่ต้องสืบพยานจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1632-1633/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีโดยจำเลย: ศาลมีอำนาจงดสืบพยานและชี้ขาดคดีได้
พฤติการณ์ที่ถือว่าจำเลยจงใจประวิงหน่วงเหนี่ยวให้คดีชักช้าโดยปราศจากเหตุผลอันสมควร ซึ่งศาลมีอำนาจงดสืบพยานจำเลยและชี้ขาดคดีไป โดยไม่ต้องสืบพยานจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีของโจทก์ทำให้ศาลไม่อนุญาตเลื่อนนัดและยกฟ้องได้ แม้มีเหตุผลด้านสุขภาพ
พฤติการณ์ที่ถือว่าโจทก์ประวิงคดีให้ชักช้า อันเป็นเหตุให้ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนการนั่งพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: ศาลมีอำนาจไต่สวนเองได้ แต่ต้องสอบพยานสาบานตนหากไม่ปรากฏต่อหน้าศาล
ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลนั้นเป็นความผิดต่อศาล. ศาลย่อมดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนได้เองตามที่เห็นสมควร. ไม่ว่าพยานหลักฐานเหล่านั้นฝ่ายใดจะได้อ้างหรือไม่. สำหรับกรณีที่การละเมิดอำนาจศาลได้กระทำต่อหน้าศาล. ย่อมถือได้ว่าศาลได้ทราบข้อเท็จจริงนั้นจากพยานหลักฐานที่ปรากฏแก่ศาลเองแล้ว. ศาลพิพากษาลงโทษในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไปได้ทีเดียว. แต่ในกรณีที่การกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่ได้กระทำต่อหน้าศาล. ศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนหาข้อเท็จจริงก่อนเพียงแต่สอบถามปากคำพยานโดยไม่ปรากฏว่าพยานเหล่านั้นได้สาบานตน. หรือกล่าวคำปฏิญานว่าจะให้การตามสัตย์จริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112.ถ้อยคำพยานเหล่านั้นจึงฟังเป็นความจริงยังไม่ได้.(อ้างฎีกาที่ 824/2492).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดอำนาจศาล: การไต่สวนพยานหลักฐานและการพิสูจน์ความจริง
ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลนั้นเป็นความผิดต่อศาล ศาลย่อมดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนได้เองตามที่เห็นสมควร ไม่ว่าพยานหลักฐานเหล่านั้นฝ่ายใดจะได้อ้างหรือไม่ สำหรับกรณีที่การละเมิดอำนาจศาลได้กระทำต่อหน้าศาล ย่อมถือได้ว่าศาลได้ทราบข้อเท็จจริงนั้นจากพยานหลักฐานที่ปรากฏแก่ศาลเองแล้ว ศาลพิพากษาลงโทษในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไปได้ทีเดียว แต่ในกรณีที่การกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่ได้กระทำต่อหน้าศาล ศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนหาข้อเท็จจริงก่อนเพียงแต่สอบถามปากคำพยานโดยไม่ปรากฏว่าพยานเหล่านั้นได้สาบานตน หรือกล่าวคำปฏิญานว่าจะให้การตามสัตย์จริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112 ถ้อยคำพยานเหล่านั้นจึงฟังเป็นความจริงยังไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 824/2492)
of 4