คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ม. 4

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 434 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3546/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดเช็ค: จำเป็นต้องบรรยายหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายในคำฟ้อง
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2534มาตรา4การออกเช็คที่จะเป็นความผิดนั้นจะต้องเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วยหนี้ตามเช็คจะมีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่เป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิดแม้ว่าจำเลยจะสั่งจ่ายเช็คชำระหนี้แก่ผู้ถือก็ตามโจทก์ก็จะต้องบรรยายว่าจำเลยได้ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วยเมื่อคำฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงจึงขาดองค์ประกอบของความผิดตามมาตรานี้คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3546/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดเช็ค: การบรรยายหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายในคำฟ้อง
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4 การออกเช็คที่จะเป็น ความผิดนั้นจะต้องเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วย หนี้ตามเช็คจะมีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่เป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด แม้ว่าจำเลยจะสั่งจ่ายเช็คชำระหนี้แก่ผู้ถือก็ตาม โจทก์ก็จะต้องบรรยายว่าจำเลยได้ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วย เมื่อคำฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงจึงขาดองค์ประกอบของความผิดตามมาตรานี้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3076/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทเป็นหลักประกันการกู้ยืม ไม่ใช่เช็คชำระหนี้ จึงไม่ผิด พ.ร.บ. เช็ค
สัญญากู้เงินมีข้อความว่าจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไป 190,000บาท เพื่อเป็นหลักฐานในการกู้ยืมเงิน จำเลยได้นำเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วมถือไว้เป็นหลักประกันด้วย เช่นนี้ มีความหมายชัดแจ้งว่า เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยได้ออกให้แก่โจทก์ร่วมเป็นหลักประกันในการที่จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไป มิใช่ออกให้เพื่อชำระหนี้ แม้ตามสัญญากู้เงินจะมีข้อความว่า จำเลยจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วมภายในวันที่ที่ลงไว้ในเช็คพิพาทก็ตาม ก็จะตีความว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ไม่ได้ จำเลยจึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3076/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเป็นหลักประกันกู้ยืม ไม่ถือเป็นเช็คชำระหนี้ จำเลยไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
สัญญากู้เงินมีข้อความว่าจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไป190,000บาทเพื่อเป็นหลักฐานในการกู้ยืมเงินจำเลยได้นำเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วมถือไว้เป็นหลักประกันด้วยเช่นนี้มีความหมายชัดแจ้งว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยได้ออกให้แก่โจทก์ร่วมเป็นหลักประกันในการที่จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไปมิใช่ออกให้เพื่อชำระหนี้แม้ตามสัญญากู้เงินจะมีข้อความว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วมภายในวันที่ที่ลงไว้ในเช็คพิพาทก็ตามก็จะตีความว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ไม่ได้จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2534มาตรา4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3076/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเพื่อหลักประกันการกู้ยืม ไม่ถือเป็นเช็คชำระหนี้ จำเลยไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
สัญญากู้เงินมีข้อความว่าจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไป190,000บาทเพื่อเป็นหลักฐานในการกู้ยืมเงินจำเลยได้นำเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วมถือไว้เป็นหลักประกันด้วยเช่นนี้มีความหมายชัดแจ้งว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยได้ออกให้แก่โจทก์ร่วมเป็นหลักประกันในการที่จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไปมิใช่ออกให้เพื่อชำระหนี้แม้ตามสัญญากู้เงินจะมีข้อความว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วมภายในวันที่ที่ลงไว้ในเช็คพิพาทก็ตามก็จะตีความว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ไม่ได้จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2534มาตรา4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3076/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเป็นหลักประกันการกู้ยืม ไม่ถือเป็นเช็คชำระหนี้ จำเลยไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
สัญญากู้เงินมีข้อความว่าจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไป190,000 บาท เพื่อเป็นหลักฐานในการกู้ยืมเงิน จำเลยได้นำเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วมถือไว้เป็นหลักประกันด้วยเช่นนี้ มีความหมายชัดแจ้งว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยได้ออกให้แก่โจทก์ร่วมเป็นหลักประกันในการที่จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไป มิใช่ออกให้เพื่อชำระหนี้แม้ตามสัญญากู้เงินจะมีข้อความว่า จำเลยจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วมภายในวันที่ที่ลงไว้ในเช็คพิพาทก็ตาม ก็จะตีความว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ไม่ได้ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3066/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินมีผลเมื่อธนาคารจ่ายเช็คค่าวางมัดจำ การออกเช็คโดยที่สัญญายังไม่สมบูรณ์ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เป็นค่าวางมัดจำตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินซึ่งจำเลยเป็นผู้จะซื้อที่ดินจากโจทก์สัญญาดังกล่าวมีข้อความข้อหนึ่งว่าสัญญาจะสมบูรณ์ต่อเมื่อเงินค่าวางมัดจำตามเช็คที่ผู้จะซื้อได้สั่งจ่ายให้แก่ผู้จะขายและธนาคารได้ชำระเงินเรียกเก็บตามเช็คที่ได้สั่งจ่ายเป็นที่เรียบร้อยให้แก่ผู้จะขายแสดงว่าโจทก์และจำเลยตกลงให้ถือเอาการที่ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คพิพาทหรือไม่เป็นเงื่อนไขของการที่จะมีนิติสัมพันธ์กันตามสัญญาจะซื้อจะขายตราบใดที่ธนาคารยังไม่จ่ายเงินตามเช็คพิพาทสัญญาจะซื้อจะขายย่อมไม่มีผลบังคับดังนั้นขณะที่จำเลยออกเช็คพิพาทจึงยังไม่มีหนี้ระหว่างโจทก์และจำเลยแม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทจำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3066/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อจะขายมีผลเมื่อธนาคารจ่ายเช็คค่าวางมัดจำ การออกเช็คก่อนเงื่อนไขไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เป็นค่าวางมัดจำตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินซึ่งจำเลยเป็นผู้จะซื้อที่ดินจากโจทก์สัญญาดังกล่าวมีข้อความข้อหนึ่งว่าสัญญาจะสมบูรณ์ต่อเมื่อเงินค่าวางมัดจำตามเช็คที่ผู้จะซื้อได้สั่งจ่ายให้แก่ผู้จะขายและธนาคารได้ชำระเงินเรียกเก็บตามเช็คที่ได้สั่งจ่ายเป็นที่เรียบร้อยให้แก่ผู้จะขายแสดงว่าโจทก์และจำเลยตกลงให้ถือเอาการที่ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คพิพาทหรือไม่เป็นเงื่อนไขของการที่จะมีนิติสัมพันธ์กันตามสัญญาจะซื้อจะขายตราบใดที่ธนาคารยังไม่จ่ายเงินตามเช็คพิพาทสัญญาจะซื้อจะขายย่อมไม่มีผลบังคับดังนั้นขณะที่จำเลยออกเช็คพิพาทจึงยังไม่มีหนี้ระหว่างโจทก์และจำเลยแม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทจำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2655-2656/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเช็คพิพาทจากหนี้เงินกู้ที่มีดอกเบี้ยเกินอัตรา ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องร้องคดีเช็ค
การที่โจทก์รับเช็คพิพาทจากช. เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมซึ่งมีดอกเบี้ยที่โจทก์คิดเกินอัตราตามกฎหมายรวมอยู่ด้วยถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้กระทำความผิดในส่วนของดอกเบี้ยที่โจทก์คิดเกินอัตราตามกฎหมายแม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทก็จะถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายไม่ได้โจทก์จึงไม่มีอำนาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2534มาตรา4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2655-2656/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดฐานเช็คเด้งเมื่อมีส่วนผิดคิดดอกเบี้ยเกินอัตรา โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
การที่โจทก์รับเช็คพิพาทจากช. เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมซึ่งมีดอกเบี้ยที่โจทก์คิดเกินอัตราตามกฎหมายรวมอยู่ด้วยถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้กระทำความผิดในส่วนของดอกเบี้ยที่โจทก์คิดเกินอัตราตามกฎหมายแม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทก็จะถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายไม่ได้โจทก์จึงไม่มีอำนาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2534มาตรา4
of 44