คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 195

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,039 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2913-2915/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จเกี่ยวกับเหตุยึดรถ และความผิดฐานแจ้งความเท็จเพื่อสนับสนุนการกล่าวหาเจ้าพนักงาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 จำคุก 3 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172,174 วรรคสอง และ 83 ให้จำคุก 3 เดือนเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 78 ให้อำนาจการยึดรถแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ไว้ 2 กรณี คือ ผู้ขับขี่หลบหนี หรือไม่แสดงตนว่าเป็นผู้ขับขี่กรณี ดังกล่าวพนักงานเจ้าหน้าที่หาจำต้องติดตามยึดรถในทันทีที่เกิดเหตุไม่ดังนั้นเมื่อมีการหลบหนีหรือหาตัวไม่พบพนักงานเจ้าหน้าที่ก็มีอำนาจติดตามยึดรถในเวลาต่อมาได้ จำเลยที่ 1 แจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวนว่าจำเลยที่ 1 มีความเห็นว่าการกระทำของร้อยตำรวจเอก ก.กับพวกรวม 3 คน เป็นการร่วมกันเอารถยนต์ของตนไปโดยเจตนาทุจริตและใช้กำลังบังคับว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายผู้ดูแลรถอันเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์และลักทรัพย์แสดงว่าจำเลยที่ 1 ยืนยันว่าการกระทำของร้อยตำรวจเอกก.กับพวกเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ หาใช่เป็นเพียงความเห็นหรือความเข้าใจไม่การกระทำของจำเลยที่ 1จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172,174 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 181(1) ซึ่งจะต้องได้รับโทษหนักขึ้นแม้ปัญหาดังกล่าวจะไม่มีฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแต่เนื่องจากโจทก์ไม่ได้ฎีกาขอให้เพิ่มเติมโทษจำเลย จึงไม่อาจเพิ่มเติมโทษจำเลยที่ 1 ได้ จำเลยที่ 2 ที่ 3 ให้การอันเป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้เห็นว่าร้อยตำรวจเอกก.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำการยึดรถยนต์ไปโดยไม่มีอำนาจและไม่ทราบสาเหตุทั้งกระทำเกินความจำเป็นเพื่อสนับสนุนคำแจ้งความของจำเลยที่1 ให้กลายเป็นความจริงซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ร้อยตำรวจเอก ก. กับพวกจึงเป็นการแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 492/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท กรณีใช้เครื่องชั่งผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในการค้า ศาลฎีกาแก้ไขโทษ
จำเลยมีไว้เพื่อใช้ซึ่งเครื่องชั่งที่ผิดอัตรา และได้ใช้เครื่องชั่งนั้นในกิจการต่อเนื่องกับผู้อื่น ซึ่งต่างก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเอาเปรียบในการค้าเช่นเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ศาลล่างทั้งสองลงโทษเป็น 2 กระทง ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2543/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดในสภาวะจิตบกพร่อง ศาลมีอำนาจลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65
จำเลยเคยถูกไม้นั่งร้านล้มทับศีรษะและเคยเป็นลมชักคืนเกิดเหตุจำเลยนอนไม่หลับเนื่องจากได้ยินเสียงแว่วว่าจะมี คนมาทำร้าย จึงลุกมานั่งที่ประตูทางเข้า ถือมีดปลายแหลม ไว้ป้องกันตัว และได้ยินเสียงคล้ายคนมาดึงประตูจะมาทำร้าย จึงลุกขึ้นดึงประตูไว้พร้อมกับเรียกให้คนช่วย เมื่อจำเลยแทง ผู้เสียหายแล้วจำเลยมิได้หลบหนีภริยาจำเลยพาจำเลยไปตรวจ ที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ดังนี้แสดงว่าจำเลยกระทำผิด ในขณะที่มีจิตบกพร่อง แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ แต่ข้อเท็จจริงดังกล่าวก็ปรากฏจากพยานหลักฐานของ โจทก์เอง ศาลย่อมมีอำนาจที่จะยก ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคสอง กำหนดโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมาย กำหนดไว้เพียงใดก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2300/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความคำว่า 'ไพ่' ตาม พ.ร.บ.ไพ่ พ.ศ. 2486 แม้ไพ่ไม่ครบสำรับ แต่รวมกันแล้วใช้เล่นการพนันได้ ถือเป็นความผิด
ปัญหาว่าไพ่ของกลางเป็นไพ่ตามความหมายของ พระราชบัญญัติไพ่พ.ศ. 2486 หรือไม่ เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 แม้จำเลยไม่ได้ยกต่อสู้มาแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ คำว่าไพ่ตาม พระราชบัญญัติไพ่ฯ มาตรา 4 ให้ความหมายไว้ว่าหมายถึงไพ่ซึ่งทำด้วยกระดาษหรือหนัง หรือซึ่งทำด้วยวัตถุอื่น ๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และตามพจนานุกรมให้ความหมายว่าหมายถึงเครื่องเล่นการพนันทำเป็นแผ่นบาง ๆ ของกลางในแต่ละถุงจะมีไพ่ไม่ครบสำรับอันจะมีลักษณะเป็นไพ่ แต่เมื่อรวม 2 ถุงแล้วจะมีไพ่ครบ 52 ใบ สามารถใช้เป็นเครื่องเล่นการพนันได้อย่างไพ่แม้จะทำด้วยกระดาษแผ่นบาง ๆ เล็กกว่าไพ่ป๊อกก็อยู่ในความหมายของคำว่าไพ่ตามพระราชบัญญัติไพ่ฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2053/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการอุทธรณ์: การโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้ว ถือเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย
การที่ศาลชั้นต้นยกข้อเท็จจริงต่างๆ ขึ้นวินิจฉัยแล้วสรุปว่าพยานหลักฐานยังไม่มั่นคงพอจะฟังว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิดและพิพากษายกฟ้อง. แล้วโจทก์ร่วมอุทธรณ์ว่า จำเลยกระทำโดยเจตนาพร้อมกับยกข้อเท็จจริงซึ่งต่างไปจากที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยขึ้นอ้างนั้น เท่ากับเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งข้อเท็จจริงซึ่งศาลชั้นต้นหยิบยกขึ้นวินิจฉัยว่าไม่ถูกต้องอยู่ในตัว. จึงเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 และที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมดังกล่าวแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยก็ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นหรือหยิบยกเอาข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วขึ้นวินิจฉัยใหม่แต่ประการใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2033/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพเป็นเหตุบรรเทาโทษ และอำนาจศาลอุทธรณ์ในการลดโทษแม้ไม่มีการอุทธรณ์
จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงและตีผู้ตายจนถึงแก่ความตายจริง โดยมิได้อ้างเหตุในเรื่องป้องกันตัวขึ้นต่อสู้ ในชั้นพิจารณาจำเลยก็เบิกความรับข้อเท็จจริงดังกล่าวและรับด้วยว่าได้ลงชื่อไว้ในคำให้การจริงทั้งศาลชั้นต้นก็ได้ยกเอาคำให้การดังกล่าวขึ้นมารับฟังประกอบการวินิจฉัยคดีด้วยดังนี้ ถือได้ว่าคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนและคำเบิกความของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ
การที่ศาลลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเพราะจำเลยกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะแล้วนั้น. ศาลยังลดโทษให้จำเลยในกรณีที่มีเหตุบรรเทาโทษในประการอื่นได้อีก
เมื่อคดีขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์แล้วหากศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุบรรเทาโทษแก่จำเลยในข้อหาความผิดที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาด้วยเพราะจำเลยให้การรับสารภาพศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยและลดโทษให้แก่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2033/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาและเหตุบรรเทาโทษ ศาลมีอำนาจลดโทษได้แม้ไม่มีการอุทธรณ์
จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงและตีผู้ตายจนถึงแก่ความตายจริง โดยมิได้อ้างเหตุในเรื่องป้องกันตัวขึ้นต่อสู้ในชั้นพิจารณาจำเลยก็เบิกความรับข้อเท็จจริงดังกล่าวและรับด้วยว่าได้ลงชื่อไว้ในคำให้การจริงทั้งศาลชั้นต้นก็ได้ยกเอาคำให้การดังกล่าวขึ้นมารับฟังประกอบการวินิจฉัยคดีด้วยดังนี้ ถือได้ว่าคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนและคำเบิกความของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ
การที่ศาลลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเพราะจำเลยกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะแล้วนั้น ศาลยังลดโทษให้จำเลยในกรณีที่มีเหตุบรรเทาโทษในประการอื่นได้อีก
เมื่อคดีขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์แล้วหากศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุบรรเทาโทษแก่จำเลยในข้อหาความผิดที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาด้วยเพราะจำเลยให้การรับสารภาพศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยและลดโทษให้แก่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม – แก้ไขบทกฎหมาย – ปัญหาข้อเท็จจริง – ฟ้องไม่ชัดเจน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 266 จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ส่วนกำหนดโทษคงเป็นไปตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเฉพาะการปรับ บทกฎหมายในการลงโทษโดยมิได้แก้ไขโทษ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่จำเลย ฎีกาว่า จำเลยลงลายมือชื่อแทน ด. โดยได้รับมอบหมายด้วยวาจาการกระทำของจำเลยไม่ทำให้ ด. เสียหายหรือในประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนจำเลยไม่มีเจตนาปลอมเอกสาร และหากฟังว่าจำเลยกระทำผิด ก็ขอให้รอการลงโทษล้วนเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว ที่จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ฟ้องโจทก์ไม่ชัดเจนเคลือบคลุม ทำให้จำเลยหลงต่อสู้คดีแต่จำเลยมิได้ยกเหตุผลขึ้นอ้างอิงว่าฟ้องโจทก์ เคลือบคลุมตอนใดเหตุใดจึงทำให้จำเลยหลงต่อสู้เป็นฎีกาที่ไม่ชัดเจน ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 ประกอบด้วย มาตรา225 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: การแก้ไขบทกฎหมายโดยศาลอุทธรณ์ และการฎีกาที่ไม่ชัดเจน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 266 จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ส่วนกำหนดโทษคงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเฉพาะการปรับบทกฎหมายในการลงโทษโดยมิได้แก้ไขโทษ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยลงลายมือชื่อแทน ด. โดยได้รับมอบหมายด้วยวาจา การกระทำของจำเลยไม่ทำให้ ด. เสียหายหรือในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จำเลยไม่มีเจตนาปลอมเอกสาร และหากฟังว่าจำเลยกระทำผิด ก็ขอให้รอการลงโทษ ล้วนเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว
ที่จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ฟ้องโจทก์ไม่ชัดเจนเคลือบคลุม ทำให้จำเลยหลงต่อสู้คดี แต่จำเลยมิได้ยกเหตุผลขึ้นอ้างอิง ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมตอนใด เหตุใดจึงทำให้จำเลยหลงต่อสู้ เป็นฎีกาที่ไม่ชัดเจน ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 ประกอบด้วย มาตรา225 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลฎีกามีอำนาจยกฟ้องข้อหาครอบครอง/พกพาอาวุธปืน หากพยานหลักฐานไม่พอรับฟังการกระทำความผิดฐานฆ่า
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้ตายกระทงหนึ่ง ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตกระทงหนึ่ง และฐานพาอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตอีกกระทงหนึ่ง แม้ข้อหาฐานมีและพาอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้น ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ก็ตาม เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ไม่พอรับฟังว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแล้ว ศาลฎีกาก็มีอำนาจที่จะยกฟ้องโจทก์ในความผิดทั้งสองฐานนี้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185
of 104