คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 195

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,039 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียงกระทงความผิดฐานมีสุราและเครื่องมือทำสุรา โดยพิจารณาจากกรรมต่างกันและความถูกต้องของอัตราโทษ
ความผิดฐานมีภาชนะสำหรับทำสุราแช่กับความผิดฐานมีภาชนะและเครื่องกลั่นสำหรับทำสุรากลั่นนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันของกลางก็คนละส่วน ทั้งสภาพของความผิดก็สามารถแยกออกเป็นต่างกรรมกันได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพย่อมต้องฟังว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมและต้องเรียงกระทงลงโทษ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับจำเลยฐานทำสุราแช่ 360 บาท นั้นเป็นการเกินอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ปรับไม่เกิน 200 บาทศาลฎีกาจึงต้องแก้เสียให้เป็นการถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียงกระทงลงโทษความผิดฐานทำและมีสุราแช่/กลั่น และการแก้ไขโทษปรับที่ไม่ถูกต้อง
ความผิดฐานมีภาชนะสำหรับทำสุราแช่กับความผิดฐานมีภาชนะและเครื่องกลั่นสำหรับทำสุรากลั่นนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันของกลางก็คนละส่วน ทั้งสภาพของความผิดก็สามารถแยกออกเป็นต่างกรรมกันได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพย่อมต้องฟังว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมและต้องเรียงกระทงลงโทษ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับจำเลยฐานทำสุราแช่ 360 บาทนั้นเป็นการเกินอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ปรับไม่เกิน 200 บาท ศาลฎีกาจึงต้องแก้เสียให้เป็นการถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3410/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานรับเงินเกินค่าบริการ ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ หรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รับจดและต่อทะเบียนยานพาหนะเก็บรักษาเงินค่าภาษียานพาหนะและค่าแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียนยานพาหนะ ได้รับเงินที่ผู้มาต่อทะเบียนมอบให้ด้วยความสมัครใจเป็นค่าบริการ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 เพราะเงินดังกล่าวใช้เป็นทรัพย์ที่จำเลยมีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษา ทั้งไม่ใช่เป็นเงินของทางราชการหรือของรัฐบาลด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 154 และ 157 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 ข้อหาอื่นให้ยกเสียโจทก์มิได้อุทธรณ์ข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จึงยุติแล้วโจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในฐานความผิดตามมาตรา 157 อีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3410/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานรับเงินเกินค่าบริการ ไม่เป็นความผิดฐานเรียกรับผลประโยชน์
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รับจดและต่อทะเบียนยานพาหนะเก็บรักษาเงินค่าภาษียานพาหนะและค่าแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียนยานพาหนะ ได้รับเงินที่ผู้มาต่อทะเบียนมอบให้ด้วยความสมัครใจเป็นค่าบริการการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 เพราะเงินดังกล่าวใช้เป็นทรัพย์ที่จำเลยมีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษา ทั้งไม่ใช่เป็นเงินของทางราชการหรือของรัฐบาลด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,154 และ 157 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 ข้อหาอื่นให้ยกเสียโจทก์มิได้อุทธรณ์ข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จึงยุติแล้วโจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในฐานความผิดตามมาตรา 157อีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อส.รักษาดินแดนมีอาวุธประจำตัว ปืนของราชการ ไม่ผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน
จำเลยเป็นสมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน สังกัดกองร้อย อส.อำเภออรัญประเทศปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์รับผู้อพยพลี้ภัยชาวเขมร นายอำเภอได้จ่ายอาวุธปืนคาร์ไปน์ของกลางให้ประจำตัวจำเลย ปืนของกลางจึงเป็นอาวุธปืนของทางราชการที่จ่ายให้เป็นอาวุธปืนประจำตัวของจำเลยใช้ในราชการอาสาสมัครรักษาดินแดน จำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
ปัญหาตามวรรคแรกแม้จะไม่มีประเด็นมาสู่ศาลฎีกาโดยตรงแต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อส.มีอาวุธปืนประจำตัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการ ไม่ถือมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
จำเลยเป็นสมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน สังกัดกองร้อย อส.อำเภออรัญประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์รับผู้อพยพลี้ภัยชาวเขมร นายอำเภอได้จ่ายอาวุธปืนคาร์ไปน์ของกลางให้ประจำตัวจำเลย ปืนของกลางจึงเป็นอาวุธปืนของทางราชการที่จ่ายให้เป็นอาวุธปืนประจำตัวของจำเลยใช้ในราชการอาสาสมัครรักษาดินแดน จำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
ปัญหาตามวรรคแรกแม้จะไม่มีประเด็นมาสู่ศาลฎีกาโดยตรง แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1566/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จ-เบิกความเท็จ: การยืนยันข้อเท็จจริงที่ไม่เป็นความจริงต่อพนักงานสอบสวนและศาล
จำเลยเป็นพนักงานปกครองได้รับมอบหมายจากหัวหน้าเขตให้มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานหมวดนิติกรรมและที่ดินเมื่อโจทก์มิได้มาพบและขอให้จำเลยรับรองใบมอบอำนาจให้ขายที่ดิน แต่จำเลยได้ให้การยืนยันต่อพนักงานสอบสวนว่าโจทก์เป็นผู้มาขอให้รับรองหนังสือมอบอำนาจด้วยตนเอง ทั้งที่ได้รู้จักตัวโจทก์แล้วก่อนให้การ ทำให้โจทก์เสียหาย จำเลยต้องมีความผิดฐานแจ้งความเท็จ
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า จำเลยเบิกความเป็นพยานต่อศาลแพ่งแล้วกล่าวถึงข้อความอันเป็นเท็จ สุดท้ายกล่าวว่าข้อความเท็จนี้เป็นข้อสำคัญในคดีด้วย มิได้บรรยายว่าคดีที่เบิกความมีข้อพิพาท ประเด็นและข้อความที่เป็นเท็จเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร ดังนี้ ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) และปัญหาว่าฟ้องชอบด้วยกฎหมายอันจะลงโทษจำเลยได้หรือไม่ เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้คู่ความไม่ยกขึ้นฎีกาศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยยกฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน และการนำโทษรอการลงโทษมาบวกกับโทษในคดีใหม่ ศาลฎีกาตัดสินให้ลงโทษแยกกระทงและไม่บวกโทษ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทงต่างกรรมกัน โดยแยกออกเป็น 2 ข้อ ข้อแรกกล่าวถึงความผิดฐานบุกรุกส่วนข้อที่ 2 กล่าวว่าในวาระต่อจากข้อแรก จำเลยกระทำผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องดังนี้ ก็หมายความว่าจำเลยรับว่าเจตนากระทำผิดตามฟ้องทั้ง 2 ข้อ 2 ฐานความผิดจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องนั้นมิได้หมายความว่าจำเลยรับว่าเคยถูกศาลพิพากษาให้รอการลงโทษมาตามที่กล่าวในฟ้องด้วย เมื่อโจทก์ไม่ สืบพยาน การที่ศาลชั้นต้นนำโทษที่รอมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ด้วย จึงเป็นการไม่ชอบ ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกาศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ การบรรยายฟ้องที่ชัดเจนถึงเจตนาและพฤติการณ์ซ่อนเร้นทรัพย์สินเพียงพอต่อการดำเนินคดี
โจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่าจำเลยทั้งสามมีเจตนาร่วมกันเพื่อมิให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่1และที่2ได้รับชำระหนี้ซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้อยู่แล้วข้อความดังกล่าวจำเลยที่3ย่อมเข้าใจคำฟ้องได้ดีว่าโจทก์ได้อ้างว่าจำเลยที่3รู้และได้กระทำไปโดยรู้อยู่แล้วว่าโจทก์ได้ฟ้องจำเลยที่2ต่อศาลอาญาและกำลังใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ฟ้องของโจทก์จึงครบองค์ประกอบความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา350แล้ว
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่3ปิดบังซ่อนเร้นทรัพย์สินโดยกล่าวอ้างว่าเป็นของตนการซ่อนเร้นนั้นย่อมเข้าใจความหมายได้ชัดเจนดีอยู่แล้วส่วนจะกระทำด้วยวิธีอย่างใดเป็นเรื่องรายละเอียดซึ่งโจทก์จะต้องนำสืบในชั้นพิจารณาฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3522/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการมีทนาย และดุลพินิจศาลในการพิจารณาพยานหลักฐานนอกสถานที่
ก่อนเริ่มการพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น จำเลยแถลงว่าจะหาทนายความเอง และในระหว่างการพิจารณาไม่ปรากฏว่าจำเลยร้องขอให้ศาลตั้งทนายความให้ศาลจึงไม่จำต้องตั้งทนายความให้จำเลย
โจทก์ขอส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่น ศาลชั้นต้นสอบจำเลยแล้วจำเลยไม่ค้านและยังแถลงว่าไม่ตามประเด็นไปด้วย ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องผ่านเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครขอให้ส่งตัวจำเลยตามประเด็น ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วไม่เห็นสมควรและไม่อนุญาต ดังนี้ เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีอำนาจใช้ดุลพินิจสั่งได้ และเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบแล้ว
จำเลยฎีกาอ้างข้อเท็จจริงนอกสำนวน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
of 104