พบผลลัพธ์ทั้งหมด 65 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2442/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการกระทำผิดฐานปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า ต้องพิจารณาพฤติการณ์โดยรวม ไม่สามารถสันนิษฐานจากหลักฐานที่ไม่ชัดเจนได้
โจทก์ร่วมจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "แฮร์รีส" ไว้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศอื่น โจทก์ร่วมมอบให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ล. เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้านี้แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เครื่องหมายการค้าดังกล่าวเคยลงโฆษณาในวารสารที่จำเลยที่ 6 เป็นผู้จัดการฝ่ายโฆษณา จำเลยสั่งซื้อสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า "แฮร์รีส" ไปจากตัวแทนของโจทก์ร่วมหลายครั้งการที่จำเลยสั่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า "แฮร์รีส" เข้ามาจากไต้หวัน ตามเหตุผลเป็นข้อที่ชวนให้สงสัยในพฤติการณ์ของจำเลยว่าน่าจะรู้ว่าเครื่องหมายการค้านี้ความจริงเป็นของผู้ใด มีแหล่ง กำเนิดจากประเทศไหน การสั่งสินค้าซึ่งเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมจากไต้หวันเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย น่าจะเป็นหลักฐานเพียงพอให้ฟังได้แล้วว่าเป็นความผิด แต่เครื่องหมายการค้า "แฮร์รีส"ที่ปรากฏในวารสารดังกล่าวและในใบส่งสินค้าที่ตัวแทนโจทก์ร่วมส่งมอบแก่จำเลยมิได้ระบุชัด ถึงตัวผู้เป็นเจ้าของและแหล่งผลิตว่ามาจากประเทศใด ทั้งจำเลยก็ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้แล้วจนเกิดเป็นกรณีพิพาทในทางแพ่งกับโจทก์ร่วม ดังนั้นการที่จะถือเอาแต่ลำพังพฤติการณ์ตามที่ปรากฏแล้วสันนิษฐานว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิดในทางอาญาจึงยังฟังไม่ถนัด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2442/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการเลียนแบบเครื่องหมายการค้า จำเลยต้องมีความรู้หรือควรรู้ว่าเครื่องหมายการค้าเป็นของผู้อื่น
โจทก์ร่วมจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า 'แฮร์รีส' ไว้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศอื่น โจทก์ร่วมมอบให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ล. เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้านี้แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เครื่องหมายการค้าดังกล่าวเคยลงโฆษณาในวารสารที่จำเลยที่ 6 เป็นผู้จัดการฝ่ายโฆษณา จำเลยสั่งซื้อสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า 'แฮร์รีส' ไปจากตัวแทนของโจทก์ร่วมหลายครั้ง การที่จำเลยสั่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า 'แฮร์รีส'เข้ามาจากไต้หวัน ตามเหตุผลเป็นข้อที่ชวนให้สงสัยในพฤติการณ์ของจำเลยว่า น่าจะรู้ว่าเครื่องหมายการค้านี้ความจริงเป็นของผู้ใด มีแหล่งกำเนิดจากประเทศไหน การสั่งสินค้าซึ่งเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมจากไต้หวันเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย น่าจะเป็นหลักฐานเพียงพอให้ฟังได้แล้วว่าเป็นความผิด แต่เครื่องหมายการค้า 'แฮร์รีส' ที่ปรากฏในวารสารดังกล่าวและในใบส่งสินค้าที่ตัวแทนโจทก์ร่วมส่งมอบแก่จำเลยมิได้ระบุชัดถึงตัวผู้เป็นเจ้าของและแหล่งผลิตว่ามาจากประเทศใด ทั้งจำเลยก็ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้แล้วจนเกิดเป็นกรณีพิพาทในทางแพ่งกับโจทก์ร่วม ดังนั้นการที่จะถือเอาแต่ลำพังพฤติการณ์ตามที่ปรากฏแล้วสันนิษฐานว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิดในทางอาญาจึงยังฟังไม่ถนัด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ฉลากเครื่องหมายการค้าปลอม แม้ไม่เข้าข่ายปลอมแปลง แต่เข้าข่ายใช้เครื่องหมายการค้าผู้อื่นโดยมิชอบ
พยานหลักฐานโจทก์ซึ่งมีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยว่าจำเลยซื้อเครื่องหมายการค้าปลอมจากผู้อื่น แล้วให้ลูกจ้างของจำเลยปิดฉลากเครื่องหมายการค้านั้นที่ขวดซีอิ๊ว เพียงเท่านี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นตาม ป.อ.มาตรา 273 ตามที่โจทก์ฟ้อง แต่การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการเอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ และข้อความในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้ หรือทำให้ปรากฏที่สินค้า เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 272(1)แม้โจทก์มิได้ระบุขอให้ลงโทษตามมาตรานี้ แต่ตามคำบรรยายฟ้องโจทก์พอจะถือได้ว่าได้บรรยายฟ้องรวมการกระทำอันเป็นความผิดตามมาตรา272(1) ไว้ด้วยแล้ว ศาลลงโทษจำเลยตามมาตรา 272(1) ซึ่งมีโทษเบากว่ามาตรา 273 ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย และการกระทำผิดดังกล่าวเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีศาลพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยอื่น ๆ ที่มิได้ฎีกาด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2641/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาความผิดลิขสิทธิ์: จำเลยเข้าใจผิดว่าโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นมีสิทธิพิมพ์หนังสือได้ ฎีกายืนยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างและผู้จัดการโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จ้างจำเลยอื่นให้พิมพ์ปลอมหนังสือแบบเรียนและแบบพิมพ์ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมีลิขสิทธิ์ เอาชื่อในการประกอบการค้าและรูปเสมาธรรมจักรซึ่งเป็นเครื่องหมายราชการของกระทรวงศึกษาธิการมาใช้ แล้วส่งไปจำหน่ายแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรมพ.ศ. 2474 มาตรา 25,27 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521มาตรา 24,43 พระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482มาตรา 6,7,8 พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 19,57ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264,265,268,272(1)กรณีเป็นเรื่องการกระทำกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบทเมื่อบทหนักตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ฯ พระราชบัญญัติการพิมพ์ฯและประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265,268 ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงแล้วความผิดบทอื่น ๆ แม้จะมีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทก็ย่อมไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงด้วย จำเลยที่ 4 เป็นหัวหน้าแผนกจำหน่าย จำเลยที่ 5เป็นผู้จัดการฝ่ายการพิมพ์โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นแม้จะทราบว่ากรมการปกครองต้องขออนุญาตจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนต่อกระทรวงศึกษาธิการก่อนจึงจะจัดพิมพ์ได้ ก็เฉพาะในช่วงที่งบประมาณจัดพิมพ์เป็นของกรมการปกครองเมื่อกระทรวงมหาดไทยโอนงบประมาณในการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนเพื่อแจกแก่นักเรียนที่ยากจนยืมเรียนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจำเลยอาจเข้าใจว่าหน้าที่การขออนุญาตจัดพิมพ์เป็นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดก็ได้การที่จำเลยได้สั่งจ้างจำเลยที่ 1 จัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนเตรียมไว้ก่อนที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจะสั่งจ้างพิมพ์นั้นเป็นดุลยพินิจของจำเลยที่จะกระทำได้ ดังนี้ จำเลยที่ 4 ที่ 5กระทำไปโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดย่อมขาดเจตนาในการกระทำความผิดตามฟ้อง บริษัทจำเลยที่ 1 มีจำเลยอื่นอีก 5 คน เป็นกรรมการ และลูกจ้างย่อมเข้าใจว่าโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นเป็นส่วนราชการ สังกัดกระทรวงมหาดไทยเมื่อส่วนราชการมาจ้างพิมพ์ในนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดซึ่งพิมพ์ในรูปแบบเดียวกับ สมัยที่กรมการปกครองจัดพิมพ์ มีชื่อผู้จัดการโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นเป็นผู้พิมพ์ผู้โฆษณาเหมือนกันจำเลยย่อมจะต้องเข้าใจว่าส่วนราชการผู้ว่าจ้าง มีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะจ้างพิมพ์ได้ ย่อมไม่จำต้องไปตรวจสอบว่าผู้ว่าจ้างพิมพ์มีลิขสิทธิ์ในการสั่งพิมพ์ตามกฎหมายหรือไม่การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ฟ้องเพราะขาดเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3516/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความในคดีอาญา: ผลกระทบต่อการฟ้องคดี และการพิจารณาความผิดหลายบท
ในคดีความผิดอันยอมความกันได้ ผู้เสียหายแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าได้ทำสัญญาประนีประนอม โดยได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลย จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงไม่ติดใจเอาความแก่จำเลยทั้งหมด และจำเลยทั้งสี่กับผู้เสียหายได้ลงชื่อไว้ในท้ายรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น แสดงว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ยอมความกันถูกต้องตามกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272, 273 ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 273 ซึ่งเป็นบทหนักเมื่อปรากฏว่าความผิดตามมาตรา 272 เป็นความผิดอันยอมความได้และได้มีการยอมความกันโดยถูกต้องจนสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้วศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในความผิดตามมาตรา 272 คงให้ลงโทษตามมาตรา 273 เท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272, 273 ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 273 ซึ่งเป็นบทหนักเมื่อปรากฏว่าความผิดตามมาตรา 272 เป็นความผิดอันยอมความได้และได้มีการยอมความกันโดยถูกต้องจนสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้วศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในความผิดตามมาตรา 272 คงให้ลงโทษตามมาตรา 273 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3516/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความในคดีอาญา ความผิดอันยอมความได้ สิทธิในการฟ้องระงับ
ในคดีความผิดอันยอมความกันได้ ผู้เสียหายแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าได้ทำสัญญาประนีประนอม โดยได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลย จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงไม่ติดใจเอาความแก่จำเลยทั้งหมด และจำเลยทั้งสี่กับผู้เสียหายได้ลงชื่อไว้ในท้ายรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นแสดงว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ยอมความกันถูกต้องตามกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272, 273 ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 273 ซึ่งเป็นบทหนักเมื่อปรากฏว่าความผิดตามมาตรา 272 เป็นความผิดอันยอมความได้ และได้มีการยอมความกันโดยถูกต้องจนสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้วศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในความผิดตามมาตรา 272 คงให้ลงโทษตามมาตรา 273 เท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272, 273 ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 273 ซึ่งเป็นบทหนักเมื่อปรากฏว่าความผิดตามมาตรา 272 เป็นความผิดอันยอมความได้ และได้มีการยอมความกันโดยถูกต้องจนสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้วศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในความผิดตามมาตรา 272 คงให้ลงโทษตามมาตรา 273 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิมพ์ปกหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์และการใช้เครื่องหมายการค้าของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยพิมพ์ปกหนังสือแบบเรียนซึ่งเป็นหนังสือที่โจทก์ร่วมกันมีลิขสิทธิ์ขึ้นมีจำนวนถึง 5,000 แผ่น แสดงว่าเป็นการกระทำส่วนหนึ่งของการพิมพ์เพื่อคัดลอกหนังสือแบบเรียนนั้นขึ้นใหม่ทั้งเล่มเพื่อขาย การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งมีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดไว้โดยเฉพาะ หาใช่ลักษณะของการทำเอกสารปลอมไม่ จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 แต่การที่จำเลยเอาเครื่องหมายอักษร "ประชาช่าง" อยู่ภายในวงกลมของโจทก์ร่วมมาพิมพ์ไว้ที่ปกหนังสือของกลาง เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าหนังสือที่ใช้ปกดังกล่าวเป้นสินค้าของโจทก์ร่วมนั้น เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดลิขสิทธิ์และการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า: จำเลยพิมพ์ปกหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์และใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยพิมพ์ปกหนังสือแบบเรียนซึ่งเป็นหนังสือที่โจทก์ร่วมมีลิขสิทธิ์ขึ้นมีจำนวนถึง 5,000 แผ่น แสดงว่าเป็นการกระทำส่วนหนึ่งของการพิมพ์คัดลอกหนังสือแบบเรียนนั้นขึ้นใหม่ทั้งเล่มเพื่อขาย การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งมีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดไว้โดยเฉพาะหาใช่ลักษณะของการทำเอกสารปลอมไม่ จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 แต่การที่จำเลยเอาเครื่องหมายอักษร "ประชาช่าง" อยู่ภายในวงกลมของโจทก์ร่วมมาพิมพ์ไว้ที่ปกหนังสือของกลาง เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าหนังสือที่ใช้ปกดังกล่าวเป็นสินค้าของโจทก์ร่วมนั้น เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า จำเลยพิมพ์สำเนาหนังสือที่มีลิขสิทธิ์และใช้ตราสัญลักษณ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
หนังสือซึ่งตีพิมพ์มีข้อความสงวนลิขสิทธิ์ไว้พอที่จะฟังได้ว่าเจ้าของได้ปฏิบัติการครบถ้วนตามเงื่อนไขและวิธีการของประเทศอังกฤษซึ่งเป็นที่เกิดแห่งวรรณกรรมลิขสิทธิ์แห่งหนังสือนั้นได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ. 2474 มาตรา 29(ก) ซึ่งมาตรา 28 ถือเสมือนว่าวรรณกรรมนั้นได้โฆษณาเป็นครั้งแรกในประเทศไทยโดยที่ประเทศไทยและอังกฤษเป็นสมาชิกในสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรมตามประกาศกระทรวงการต่างประเทศ ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2474 การได้ลิขสิทธิ์ไม่ต้องจดทะเบียนการมีแม่พิมพ์เพื่อพิมพ์สำเนาจำลองและการพิมพ์สำเนาจำลองโดยไม่ได้รับความยินยอมของเจ้าของเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติ นั้น มาตรา 4, 20, 25 กระทงหนึ่ง กับมีความผิดฐานใช้ตรารูปเรือใบ และ ชื่อ "ลองแมน" ให้ประชาชนหลงเชื่อตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1) อีกกระทงหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบกางเกงที่เตรียมติดเครื่องหมายการค้าปลอม แม้ยังไม่ได้ติด ก็ถือเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดได้
กางเกงขายาวของกลางที่เจ้าพนักงานยึดได้พร้อมกางเกงขายาวที่ติดเครื่องหมายการค้าปลอม และแผ่นป้ายเครื่องหมายการค้าปลอมแม้จะยังไม่ได้ติดเครื่องหมายการค้าปลอม ก็ถือได้ว่าเป็นกางเกงที่เตรียมรอติดเครื่องหมายการค้าปลอม จึงเป็นของที่จำเลยมีไว้ด้วยเจตนาเพื่อใช้ในการกระทำความผิด พึงริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)