คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 180

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 74 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมแปลงเอกสารสิทธิเพื่อใช้ในการฟ้องร้อง และการแสดงหลักฐานเท็จต่อศาล
(1)เมื่อปรากฏว่า สัญญากู้เงินซึ่งเป็นเอกสารสิทธินั้นมีเรื่องที่แท้จริงรวมกันอยู่ 2 เรื่อง คือมีหนังสือสัญญากู้เงิน 1 มีบันทึกการชำระหนี้เงินกู้รายนี้บางส่วน 1 แต่จำเลยได้ลบบันทึกดังกล่าวออกเสียเอกสารสิทธินั้นก็จะมีหนังสือสัญญาอันเป็นเอกสารที่แท้จริงเหลืออยู่เพียงเรื่องเดียว การที่จำเลยลบบันทึกนั้นออกก็เพื่อให้โจทก์หรือศาลหลงเชื่อว่าเอกสารสิทธิมีหนังสือสัญญากู้เงินเพียงเรื่องเดียวซึ่งแสดงว่าไม่เคยผ่อนชำระหนี้กันเลยการกระทำเช่นนี้เป็นการตัดทอนหรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง เป็นผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264
(2)แม้จำเลยจะยังมิได้นำสืบ แต่ได้แสดงพยานหลักฐานเท็จต่อศาลแล้ว โดยส่งเอกสาร (หมาย จ.1) ซึ่งเดิมมีอยู่ 2 หลักฐาน แต่จำเลยส่งแสดงว่ามีหลักฐานเดียวย่อมเป็นการแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาลตามมาตรา 180 แล้ว
(3)การปลอมเอกสารซึ่งอยู่ในความยึดถือของจำเลยนั้นย่อมมีโอกาสทำได้ในที่ลับ เป็นการยากที่จะมีประจักษ์พยาน ฉะนั้น พยานประพฤติเหตุบ่งว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารไม่ผิดตัว ก็ฟังลงโทษจำเลยได้
(4)เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้นำพยานสืบแก้ฟ้องโจทก์แล้วยังอ้างผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมเพื่อตรวจพิสูจน์เอกสารที่โจทก์อ้างไว้ว่ามีรอยลอกอากรแสตมป์ และมีรอยลบข้อความบางประการออกหรือไม่ซึ่งข้อความที่จะนำสืบพยานผู้เชี่ยวชาญนี้พยานจำเลยไม่ได้เบิกความมาก่อนเลยและโจทก์ก็ไม่รู้ว่าจำเลยจะนำสืบประเด็นเช่นนี้ ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจให้โจทก์นำสืบแก้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 89 วรรค 3
หมายเหตุ หมายเลข (1) วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2508

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต่อศาลเกี่ยวกับหมายเรียก ส่งผลให้ชนะคดี ถือเป็นความเท็จที่สำคัญ
จำเลยได้ทราบหมายเรียกและสำเนาฟ้องของโจทก์แล้ว มาเบิกความอันเป็นเท็จว่าไม่ทราบเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อและอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีได้ และเป็นผลให้จำเลยชนะคดีโจทก์ในที่สุดนั้น ความเท็จที่จำเลยเบิกความถือว่าเป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต่อศาลเพื่อต่อสู้คดีแพ่ง ทำให้คู่ความชนะคดี เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ
จำเลยได้ทราบหมายเรียกและสำเนาฟ้องของโจทก์แล้ว มาเบิกความอันเป็นเท็จว่าไม่ทราบ เป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อและอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีได้ และเป็นผลให้จำเลยชนะคดีโจทก์ในที่สุดนั้น ความเท็จที่จำเลยเบิกความถือว่าเป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำความผิดเบิกความเท็จ: ศาลยกฟ้องเมื่อคดีเดิมถึงที่สุดแล้ว
ในคดีก่อน (อาญาแดงที่ 100/2503) โจทก์ฟ้องจำเลยว่า เบิกความในคดีแพ่งแดงที่ 953/2502 เป็นเท็จว่า "โจทก์จำนองที่ดินไว้กับจำเลย โจทก์ไม่เคยชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้จำเลยเลย" ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์กลับมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ว่าจำเลยเบิกความในคดีก่อน (อาญาแดงที่ 100/2503) ว่า "จำเลยไม่เคยเซ็นชื่อรับดอกเบี้ยจากโจทก์ และแสตมป์ในสัญญาจำเลยไม่ได้เป็นผู้ฆ่า" เป็นเท็จอีก ดังนี้เห็นได้ชัดว่า โจทก์นำคดีอาญาซึ่งศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วในความผิดที่โจทก์หาว่าจำเลยเบิกความเท็จมาฟ้องอีก จึงเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำความผิดเบิกความเท็จ: คดีถึงที่สุดแล้วห้ามฟ้องอีก
ในคดีก่อน (อาญาแดงที่ 100/2503) โจทก์ฟ้องจำเลยว่าเบิกความในคดีแพ่งแดงที่ 953/2502 เป็นเท็จว่า 'โจทก์จำนองที่ดินไว้กับจำเลย โจทก์ไม่เคยชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้จำเลยเลย' ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์กลับมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ว่าจำเลยเบิกความในคดีก่อน (อาญาแดงที่ 100/2503) ว่า'จำเลยไม่เคยเซ็นชื่อรับดอกเบี้ยจากโจทก์ และแสตมป์ในสัญญาจำเลยไม่ได้เป็นผู้ฆ่า' เป็นเท็จอีก ดังนี้ เห็นได้ชัดว่าโจทก์นำคดีอาญาซึ่งศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วในความผิดที่โจทก์หาว่าจำเลยเบิกความเท็จมาฟ้องอีก จึงเป็นฟ้องซ้ำ
of 8