คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 380

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 226 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2726/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าปรับตามสัญญาจ้างเหมาและการชดใช้ค่าเสียหาย กรณีงานล่าช้า และการหักกลบลบหนี้
ตามสัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยข้อ8ที่ระบุว่า'ผู้รับจ้างยินยอมรับผิดชอบค่าปรับอันเนื่องจากเหตุแห่งความล่าช้าจากกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ3(168วัน)โดยคิดตามส่วนของงานและเวลาที่ล่าช้าไปจากที่กำหนดกับอัตราค่าปรับที่โรงพิมพ์ธนบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยคิดปรับจากผู้ว่าจ้าง.....'นั้นหมายความว่าโจทก์ยินยอมรับผิดชอบค่าปรับตามอัตราค่าปรับที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคิดปรับจากจำเลยตามส่วนของงานและเวลาที่ล่าช้าไปจากที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ3มิใช่โจทก์ยินยอมเสียค่าปรับตามส่วนของงานและเวลาที่ล่าช้าจำนวนหนึ่งกับค่าปรับที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคิดปรับจากจำเลยอีกจำนวนหนึ่ง ค่าปรับก็คือค่าเสียหายที่คู่สัญญากำหนดจำนวนกันไว้ล่วงหน้าเมื่อกำหนดค่าปรับกันแล้วก็ไม่สมควรที่จะให้ได้รับค่าเสียหายจากกันอีกในกรณีค่าปรับกับค่าเสียหายใกล้เคียงกันศาลกำหนดให้จำเลยได้รับค่าเสียหายเท่ากับค่าปรับได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2536/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเลิกสัญญาซื้อขายและการริบเงินประกัน ย่อมตัดสิทธิในการเรียกร้องเบี้ยปรับรายวัน
จำเลยทำสัญญาขายเครื่องมือทดสอบคุณภาพสีให้โจทก์สัญญาข้อ8มีว่าเมื่อครบกำหนดส่งมอบสิ่งของตามสัญญาแล้วถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อหรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้องหรือส่งมอบสิ่งของไม่ครบจำนวนผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือสัญญาค้ำประกันเป็นจำนวนทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้แล้วแต่จะเห็นสมควรและถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่งแล้วแต่กรณีภายในกำหนด3เดือนนับแต่วันที่บอกเลิกสัญญาผู้ขายต้องยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ด้วยและสัญญาข้อ9มีว่าในกรณีผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ8ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละศูนย์จุดสอง(0.2)ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ขายได้นำสิ่งของมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนถูกต้องครบถ้วนในระหว่างที่มีการปรับถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ผู้ซื้อจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกันกับเรียกร้องให้ชดใช้ราคาเพิ่มขึ้นจากราคาที่กำหนดไว้ในสัญญาตามข้อ8นอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วยก็ได้ดังนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาในกรณีจำเลยไม่ส่งมอบของหรือส่งมอบไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนและมีสิทธิริบเงินประกันที่จำเลยวางไว้รวมทั้งมีสิทธิที่จะซื้อของจากผู้อื่นและเรียกราคาที่เพิ่มขึ้นจากจำเลยแต่ถ้าครบกำหนดเวลาแล้วโจทก์ไม่เลิกสัญญาและยินยอมให้จำเลยนำสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญามาส่งให้แก่โจทก์โจทก์จึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากจำเลยเป็นรายวันได้ในอัตราร้อยละศูนย์จุดสอง(0.2)ของราคาสิ่งของนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่จำเลยนำสิ่งของมาส่งให้แก่โจทก์จนถูกต้องครบถ้วนเมื่อจำเลยไม่ส่งสิ่งของให้แก่โจทก์เลยโจทก์ได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาและริบเงินประกันตามสัญญาอันเป็นการใช้สิทธิตามสัญญาข้อ8แล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกค่าปรับเป็นรายวันจากจำเลยตามสัญญา9ข้อได้อีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2536/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเลิกสัญญาซื้อขายและการเรียกร้องค่าปรับ กรณีผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้า ผู้ซื้อมีสิทธิเลือกใช้สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
จำเลยทำสัญญาขายเครื่องมือทดสอบคุณภาพสีให้โจทก์สัญญาข้อ8มีว่าเมื่อครบกำหนดส่งมอบสิ่งของตามสัญญานี้แล้วถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อหรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้องหรือส่งมอบสิ่งของไม่ครบจำนวนผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือสัญญาค้ำประกันเป็นจำนวนทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้แล้วแต่จะเห็นสมควรและถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่งแล้วแต่กรณีภายในกำหนด3เดือนนับแต่วันที่บอกเลิกสัญญาผู้ขายต้องยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ด้วย.....และสัญญาข้อ9มีว่าในกรณีผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ8ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละศูนย์จุดสอง(0.2)ของราคาสิ่งของมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนถูกต้องครบถ้วนในระหว่างที่มีการปรับถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ผู้ซื้อจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกันกับเรียกร้องให้ชดใช้ราคาเพิ่มขึ้นจากราคาที่กำหนดไว้ในสัญญาตามข้อ8นอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วยก็ได้ดังนี้เห็นว่าโจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาในกรณีที่จำเลยหรือผู้ขายไม่ส่งมอบของหรือส่งมอบไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนและมีสิทธิริบเงินประกันที่จำเลยวางไว้รวมทั้งมีสิทธิที่จะซื้อของจากผู้อื่นและเรียกราคาที่เพิ่มขึ้นจากจำเลยแต่ถ้าครบกำหนดเวลาแล้วโจทก์ไม่เลิกสัญญาและยินยอมให้จำเลยนำสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญามาส่งให้แก่โจทก์โจทก์จึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากจำเลยเป็นรายวันได้ในอัตราร้อยละศูนย์จุดสอง(0.2)ของราคาสิ่งของนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่จำเลยนำสิ่งของมาส่งให้แก่โจทก์จนถูกต้องครบถ้วนเมื่อจำเลยไม่ส่งสิ่งของให้แก่โจทก์เลยโจทก์ได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาและริบเงินประกันตามสัญญาอันเป็นการใช้สิทธิตามสัญญาข้อ8โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกค่าปรับเป็นรายวันจากจำเลยตามสัญญาข้อ9ได้อีก. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่4/2529)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2536/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการบอกเลิกสัญญาซื้อขายและการริบเงินประกัน ย่อมตัดสิทธิในการเรียกร้องค่าปรับรายวัน
จำเลยทำสัญญาขายเครื่องมือทดสอบคุณภาพสีให้โจทก์ สัญญาข้อ 8 มีว่า เมื่อครบกำหนดส่งมอบสิ่งของตามสัญญานี้แล้ว ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบสิ่งของไม่ครบจำนวน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือสัญญาค้ำประกัน เป็นจำนวนทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้แล้วแต่จะเห็นสมควรและถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่งแล้วแต่กรณีภายในกำหนด 3 เดือน นับแต่วันที่บอกเลิกสัญญา ผู้ขายต้องยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ด้วย.....และสัญญาข้อ 9 มีว่า ในกรณีผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 8 ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละศูนย์จุดสอง (0.2) ของราคาสิ่งของมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนถูกต้องครบถ้วนในระหว่างที่มีการปรับ ถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ผู้ซื้อจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกันกับเรียกร้องให้ชดใช้ราคาเพิ่มขึ้นจากราคาที่กำหนดไว้ในสัญญาตามข้อ 8 นอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วยก็ได้ ดังนี้เห็นว่าโจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาในกรณีที่จำเลยหรือผู้ขายไม่ส่งมอบของหรือส่งมอบไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน และมีสิทธิริบเงินประกันที่จำเลยวางไว้ รวมทั้งมีสิทธิที่จะซื้อของจากผู้อื่นและเรียกราคาที่เพิ่มขึ้นจากจำเลยแต่ถ้าครบกำหนดเวลาแล้วโจทก์ไม่เลิกสัญญาและยินยอมให้จำเลยนำสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญามาส่งให้แก่โจทก์ โจทก์จึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากจำเลยเป็นรายวันได้ในอัตราร้อยละศูนย์จุดสอง (0.2) ของราคาสิ่งของนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่จำเลยนำสิ่งของมาส่งให้แก่โจทก์จนถูกต้องครบถ้วนเมื่อจำเลยไม่ส่งสิ่งของให้แก่โจทก์เลย โจทก์ได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาและริบเงินประกันตามสัญญาอันเป็นการใช้สิทธิตามสัญญาข้อ 8 โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกค่าปรับเป็นรายวันจากจำเลยตามสัญญาข้อ 9 ได้อีก.
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2529)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายยังไม่เกิดขึ้น ความรับผิดชอบจำกัดเฉพาะการริบเงินประกันซองประกวดราคา
ในการประกวดราคาโจทก์กำหนดเงื่อนไขว่าผู้ได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ประกวดราคาได้จะต้องมาทำสัญญาซื้อขายภายใน7วันถ้าไม่มาทำสัญญาตามกำหนดโจทก์ริบเงินประกันซองประกวดราคาได้ทันทีและถ้าโจทก์ต้องซื้อสิ่งของรายการนี้จากบุคคลอื่นมีราคาสูงขึ้นเท่าใดผู้ประกวดราคาได้ครั้งนี้จะต้องรับผิดชอบใช้ค่าสิ่งของที่สูงขึ้นนั้นให้แก่โจทก์อีกโสดหนึ่งด้วยเห็นได้ว่าการตกลงซื้อขายรายนี้คู่กรณีมุ่งจะทำสัญญากันเป็นหนังสือจำเลยเป็นผู้ประกวดราคาได้แต่ไม่ไปทำสัญญาซื้อขายกับโจทก์ตามกำหนดที่โจทก์แจ้งให้ทราบจึงถือว่ายังไม่มีสัญญาซื้อขายต่อกันโจทก์จึงมีเพียงสิทธิริบเงินประกันซองประกวดราคาตามข้อตกลงในการประกวดราคาเท่านั้นจำเลยยังไม่มีความผูกพันตามสัญญาซื้อขายที่จะต้องมอบสิ่งของตามที่ประกวดราคาให้โจทก์ค่าเสียหายที่โจทก์ซื้อสิ่งของจากผู้อื่นในราคาที่เพิ่มขึ้นเป็นค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาซื้อขายไม่ใช่ค่าเสียหายอันเกิดจากข้อตกลงในการประกวดราคาเมื่อสัญญาซื้อขายยังไม่เกิดขึ้นโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายยังไม่เกิดขึ้น ค่าเสียหายจากการซื้อของจากผู้อื่นจึงไม่ใช่ความรับผิดตามสัญญา
ในการประกวดราคาโจทก์กำหนดเงื่อนไขว่าผู้ได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ประกวดราคาได้จะต้องมาทำสัญญาซื้อขายภายใน 7 วันถ้าไม่มาทำสัญญาตามกำหนด โจทก์ริบเงินประกันซอง ประกวดราคาได้ทันทีและถ้าโจทก์ต้องซื้อสิ่งของรายการนี้จากบุคคลอื่นมีราคาสูงขึ้นเท่าใดผู้ประกวดราคาได้ครั้งนี้จะต้องรับผิดชอบใช้ค่าสิ่งของที่สูงขึ้นนั้นให้แก่โจทก์อีกโสดหนึ่งด้วยเห็นได้ว่าการตกลงซื้อขายรายนี้คู่กรณีมุ่งจะทำสัญญากันเป็นหนังสือ จำเลยเป็นผู้ประกวดราคาได้แต่ไม่ไปทำสัญญาซื้อขายกับโจทก์ตามกำหนดที่โจทก์แจ้งให้ทราบจึงถือว่ายังไม่มีสัญญาซื้อขายต่อกัน โจทก์จึงมีเพียงสิทธิริบเงินประกันซอง ประกวดราคาตามข้อตกลงในการประกวดราคาเท่านั้นจำเลยยังไม่มีความผูกพันตามสัญญาซื้อขายที่จะต้องมอบสิ่งของตามที่ประกวดราคาให้โจทก์ ค่าเสียหายที่โจทก์ซื้อสิ่งของจากผู้อื่นในราคาที่เพิ่มขึ้นเป็นค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาซื้อขายไม่ใช่ค่าเสียหายอันเกิดจากข้อตกลงในการประกวดราคา เมื่อสัญญาซื้อขายยังไม่เกิดขึ้นโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาซื้อขายและการชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น กรณีซื้อสินค้าชนิดเดียวกันแต่ไม่ตรงตามที่ตกลง
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายครุภัณฑ์ฝึกฝีมือให้แก่โจทก์ซึ่งมีฉากตายรวมอยู่ด้วย สัญญาข้อ 8 วรรคสอง มีว่า ถ้าจำเลยที่ 1 (ผู้ขาย) ไม่ส่งมอบสิ่งของหรือส่งไม่ถูกต้องหรือส่งไม่ครบจำนวนตามสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้และถ้าโจทก์ซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะส่วนที่ขาดส่งภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันบอกเลิกสัญญา จำเลยที่ 1 ยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญา เมื่อจำเลยที่ 1 ผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาและสงวนสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 8 วรรคสอง ต่อมาโจทก์ได้จัดซื้อฉากตายใหม่ โดยทำสัญญาซื้อขายภายในกำหนดเวลาตามสัญญาข้อ 8 วรรคสองแล้วจำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น กรณีหาจำต้องรอให้การซื้อขายรายหลังมีการส่งมอบสิ่งของและชำระราคาที่ซื้อขายกันตามสัญญาเสียก่อนไม่ แต่การจัดซื้อสิ่งของตามสัญญาข้อ 8 วรรคสองนั้นหมายถึงซื้อสิ่งของชนิดเดียวกันกับสิ่งของที่ทำสัญญาซื้อจากจำเลยที่ 1 กล่าวคือ ต้องเป็นยี่ห้อและขนาดเดียวกัน มิใช่ว่าจะเลือกซื้อสิ่งของใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่าอย่างไรก็ได้ เพราะจะเป็นการได้เปรียบและไม่เป็นธรรมแก่คู่กรณี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาซื้อขายและสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ขายเมื่อสินค้าไม่เป็นไปตามสัญญา การซื้อสินค้าทดแทนต้องเป็นชนิดเดียวกัน
จำเลยที่1ทำสัญญาขายครุภัณฑ์ฝึกฝีมือให้แก่โจทก์ซึ่งมีฉากตายรวมอยู่ด้วยสัญญาข้อ8วรรคสองมีว่าถ้าจำเลยที่1(ผู้ขาย)ไม่ส่งมอบสิ่งของหรือส่งไม่ถูกต้องหรือส่งไม่ครบจำนวนตามสัญญาโจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้และถ้าโจทก์ซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะส่วนที่ขาดส่งภายในกำหนด3เดือนนับแต่วันบอกเลิกสัญญาจำเลยที่ 1ยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญาเมื่อจำเลยที่1ผิดสัญญาโจทก์บอกเลิกสัญญาและสงวนสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่1ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ8วรรคสองต่อมาโจทก์ได้จัดซื้อฉากตายใหม่โดยทำสัญญาซื้อขายภายในกำหนดเวลาตามสัญญาข้อ8วรรคสองแล้วจำเลยที่1ก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นกรณีหาจำต้องรอให้การซื้อขายรายหลังมีการส่งมอบสิ่งของและชำระราคาที่ซื้อขายกันตามสัญญาเสียก่อนไม่แต่การจัดซื้อสิ่งของตามสัญญาข้อ8วรรคสองนั้นหมายถึงซื้อสิ่งของชนิดเดียวกันกับสิ่งของที่ทำสัญญาซื้อจากจำเลยที่1กล่าวคือต้องเป็นยี่ห้อและขนาดเดียวกันมิใช่ว่าจะเลือกซื้อสิ่งของใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่าอย่างไรก็ได้เพราะจะเป็นการได้เปรียบและไม่เป็นธรรมแก่คู่กรณี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3210/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขาย, ค่าปรับ, การบอกเลิกสัญญา, หลักประกัน, การชดใช้ค่าเสียหาย
หลักประกันตามสัญญาซื้อขายของธนาคารที่จำเลยนำมามอบ แก่โจทก์เป็นการประกันเพื่อให้ปฏิบัติตามสัญญา หากผิดสัญญาโจทก์มีสิทธิริบเมื่อถือว่าเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่ง ย่อมนำมาคิดหักกันได้จากค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับเพราะต้องซื้อสินค้าจากบุคคลอื่นแพงขึ้น กรณีจำเลยไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงซื้อขายให้แก่โจทก์เลย โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเมื่อเห็นว่าจำเลยไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้และจำเลยยอมให้โจทก์ใช้สิทธิปรับจำเลยได้จนถึงวันบอกเลิกสัญญา ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่คู่กรณีสมัครใจทำกันขึ้น ทั้งไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ของ ประชาชน ย่อมมีผลผูกพันคู่กรณี โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าปรับได้ด้วย สินค้าที่ซื้อขายกันเป็นเงิน 37,400 บาท โจทก์ต้องซื้อสินค้าแพงขึ้น 25,125 บาท ซึ่งศาลพิพากษาให้ชดใช้ส่วนนี้แล้ว จำเลยผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาภายหลังนาน 2ปี ค่าปรับกรณีผิดสัญญาคิดเป็นรายวันเป็นเงินถึง 50,000บาทเศษ ซึ่งสูงเกินส่วน ศาลลดลงเป็นจำนวนพอสมควรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคแรก คงกำหนดค่าปรับให้โจทก์ 15,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3109/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความล่าช้าในการบอกเลิกสัญญาซื้อขายและการสิทธิในการปรับค่าเสียหายเมื่อจำเลยผิดสัญญา
โจทก์ยินยอมให้จำเลยต่ออายุหนังสือสัญญาต่อไปอีก 45 วันนับแต่วันครบกำหนดสัญญาเดิม จำเลยจะต้องส่งของให้โจทก์ภายในวันที่กำหนด แต่ก็ไม่ส่งซึ่งโจทก์ย่อมทราบดีว่าจำเลยไม่สามารถจะส่งสิ่งของตามซื้อให้โจทก์ได้อย่างแน่นอนแล้วแต่โจทก์กลับละเลยมิได้บอกเลิกสัญญา ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาถึง 132 วันโดยไม่ปรากฏเหตุผลแห่งการนี้ประกอบกับโจทก์ได้ริบเงินประกันอันเป็นส่วนหนึ่งของเบี้ยปรับไปแล้ว ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชดใช้เงินค่าเสียหายในส่วนที่โจทก์ไปซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นในราคาสูงขึ้นและไม่ครบจำนวนอีกแล้วด้วยแม้ตามสัญญาให้สิทธิโจทก์ปรับจำเลยได้อีกต่างหากก็ตาม เบี้ยปรับนี้ก็คือส่วนหนึ่งของค่าเสียหาย เมื่อค่าเสียหายที่ศาลอุทธรณ์กำหนดให้เหมาะสมแล้วทั้งโจทก์มิได้นำสืบให้ปรากฏความเสียหายเป็นพิเศษนอกเหนือจากนี้ โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายอีกไม่ได้
of 23