คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 380

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 226 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1482-1483/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากผิดสัญญาซื้อขายที่ดิน: หลักการชดใช้ความเสียหายให้กลับสู่สภาพเดิม
การให้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีผิดสัญญา ก็เพื่อที่จะชดใช้และให้ความพอใจแก่ฝ่ายที่ไม่ผิดสัญญาสำหรับความเสียหายที่ฝ่ายนั้นได้รับ ฉะนั้น จึงต้องกำหนดจำนวนเงินที่จะให้ให้เพียงพอที่จะทำให้ฝ่ายที่ไม่ผิดสัญญากลับไปอยู่ในฐานะเดิมเช่นเดียวกับเมื่อไม่มีการผิดสัญญาเกิดขึ้น
คดีโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่ให้โจทก์ตามสัญญาจะขายถ้าจำเลยโอนที่ให้โจทก์ โจทก์ก็ย่อมได้ที่ถ้าหากที่นั้นมีราคามากกว่าราคาที่ตกลงไว้ในสัญญา ราคาที่ผิดกันนั้น ย่อมเป็นผลประโยชน์ที่โจทก์สูญเสียไป จึงเป็นหลักค่าคำนวณค่าเสียหายได้
ในกรณีที่ผู้ขายที่ดินผิดสัญญา มีปัญหาว่าจะเอาราคาอันใด เมื่อได้ไปเทียบกับราคาในสัญญาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 222 ไม่ได้กำหนดข้อนี้ไว้ ทั้งเป็นกรณีไม่ได้กำหนดเบี้ยปรับกันไว้ในสัญญา จึงไม่เข้ามาตรา 380 เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อครบกำหนดโอนตามสัญญา จำเลยผัดผ่อนเรื่อยมาเพิ่งมาปฏิเสธไม่ยอมขายในภายหลัง จึงจะถือเอาราคาที่ดินในวันที่ครบกำหนดโอนตามสัญญาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1009/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยผิดสัญญาจะซื้อขายที่ดิน แม้มีข้อตกลงค่าเสียหาย โจทก์มีสิทธิฟ้องบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาได้
จำเลยได้ทำสัญญาจะขายที่ดินไว้กับโจทก์ โดยกำหนดวันโอนไว้แน่นอนแล้ว แต่ก่อนถึงกำหนดวันโอน จำเลยกลับเอาที่ดินไปขายแก่ผู้อื่นเสีย ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการผิดสัญญา โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาก่อนกำหนดได้ โดยจำเลยจะยกเงื่อนเวลามาเป็นประโยชน์แก่จำเลยไม่ได้
ในสัญญาจะซื้อขายที่ดินระบุไว้ว่า ถ้าฝ่ายใดผิดสัญญา ยอมให้อีกฝ่ายหนึ่งเรียกค่าเสียหายได้ 6000 บาท ดังนี้ ไม่แปลว่าเจ้าหนี้จะเรียกได้แต่ฉะเพาะค่าเสียหายเท่านั้น เจ้าหนี้อาจเลือกฟ้องขอให้ลูกหนี้ปฏิบัติตามสัญญาก็ได้ตามมาตรา 380 ป.ม.แพ่ง ฯ
(อ้างฎีกาที่ 131/2489)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1009/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายผิดนัด จำเลยโอนให้ผู้อื่นได้หรือไม่ และสิทธิของโจทก์คืออะไร
จำเลยได้ทำสัญญาจะขายที่ดินไว้กับโจทก์ โดยกำหนดวันโอนไว้แน่นอนแล้ว แต่ก่อนถึงกำหนดวันโอน จำเลยกลับเอาที่ดินไปขายแก่ผู้อื่นเสีย ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการผิดสัญญา โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาก่อนกำหนดได้ โดยจำเลยจะยกเงื่อนเวลามาเป็นประโยชน์แก่จำเลยไม่ได้
ในสัญญาจะซื้อขายที่ดินระบุไว้ว่า ถ้าฝ่ายใดผิดสัญญายอมให้อีกฝ่ายหนึ่งเรียกค่าเสียหายได้ 6,000 บาท ดังนี้ ไม่แปลว่าเจ้าหนี้จะเรียกได้แต่เฉพาะค่าเสียหายเท่านั้นเจ้าหนี้อาจเลือกฟ้องขอให้ลูกหนี้ปฏิบัติตามสัญญาก็ได้ตามมาตรา 380 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(อ้างฎีกาที่ 131/2489)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: การผิดนัดและการบังคับสัญญา แม้มีเบี้ยปรับ
การที่คู่สัญญาตกลงกันกำหนดวันใดวันหนึ่งให้ไปทำการโอนขายที่ดิน ก็เป็นข้อตกลงที่ใช้ได้ เมื่อฝ่ายใดบิดพลิ้วได้ชื่อว่าผิดนัด ไม่จำต้องรอไปจนสิ้นกำหนดตามข้อสัญญาเดิม
ในสัญญาจะขายที่ดิน การที่โจทก์สืบว่าจำเลยจะเอาที่ไปขายให้ผู้อื่นไม่เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น เป็นการสืบถึงเหตุประกอบข้อเจตนาบิดพลิ้วของจำเลย
ในข้อสัญญากำหนดเบี้ยปรับไว้เมื่ออีกฝ่ายผิดสัญญา ยังไม่เพียงพอให้สันนิษฐานว่า ผู้ซื้อจะเรียกได้แต่เพียงเบี้ยปรับในเมื่อผู้ขายผิดสัญญาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 380 ได้ให้สิทธิเจ้าหนี้เลือกเรียกเบี้ยปรับ หรือเลือกเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แต่อย่างใดอย่างหนึ่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดิน: การผิดนัดโอนกรรมสิทธิ์และการเลือกสิทธิเรียกร้อง
การที่คู่สัญญาตกลงกันกำหนดวันใดวันหนึ่งให้ไปทำการโอนขายที่ดิน ก็เป็นข้อตกลงที่ใช้ได้ เมื่อฝ่ายใดบิดพลิ้วได้ชื่อว่าผิดนัด ไม่จำต้องรอไปจนสิ้นกำหนดตามข้อสัญญาเดิม
ในสัญญาจะขายที่ดิน การที่โจทก์สืบว่าจำเลยจะเอาที่ไปขายให้ผู้อื่น ไม่เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น เป็นการสืบถึงเหตุประกอบข้อเจตนาบิดพลิ้วของจำเลย
ในข้อสัญญากำหนดเบี้ยปรับไว้เมื่ออีกฝ่ายผิดสัญญา ยังไม่เพียงพอให้สันนิษฐานว่า ผู้ซื้อจะเรียกได้แต่เพียงเบี้ยปรับในเมื่อผู้ขายผิดสัญญา ป.ม.แพ่ง ฯ ม.380 ได้ให้สิทธิ์เจ้าหนี้เลือกเรียกเบี้ยปรับ หรือเลือกเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แต่อย่างใดอย่างหนึ่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนสัญญาซื้อขาย, เหตุสุดวิสัย, การปฏิบัติตามสัญญา, เบี้ยปรับ, และการลดเบี้ยปรับ
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์แล้วโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้จำเลยแพ้ แต่จำเลยได้กล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ต้องยกขึ้นพิจารณาจะถือว่าประเด็นนั้นยุติแล้วไม่ได้
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา1(3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษ จำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆ ได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่เฉพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดังกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆ หนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้น จะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกัน ไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่
พฤติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนสัญญาซื้อขาย, เหตุสุดวิสัย, การผิดสัญญา และเบี้ยปรับ
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์แล้วโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้จำเลยแพ้ แต่จำเลยได้กล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ต้องยกขึ้นพิจารณาจะถือว่าประเด็นนั้นยุตติแล้วไม่ได้
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.1 (3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพะยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษจำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตต์ของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่ฉะเพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้ เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดั่งกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆหนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้นจะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤตติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกันไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่พฤตติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญาซื้อขาย: เจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องบังคับตามสัญญา แม้ไม่เรียกเบี้ยปรับ
สัญญาที่กำหนดเบี้ยปรับไว้นั้นถ้าเจ้าหนี้ไม่เรียกเบี้ยปรับ ก็ย่อมฟ้องขอบังคับตามสัญญาได้ โดยไม่ถือว่า เจ้าหนี้มีเจตนาจะเรียกฉะเพาะค่าปรับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20-21/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาซื้อขาย: สิทธิเรียกค่าปรับหรือบังคับชำระหนี้ได้
กรนีที่ถือว่าข้อความที่ 32 ระบุไว้สำหรับคู่สัญญาฝ่ายเดียว
สัญญาที่กำหนดเบี้ยปรับไว้นั้น คู่สัญญาจะเรียกเบี้ยปรับหรือขอไห้บังคับชำระหนี้ก็ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาจะซื้อขาย และการพิสูจน์การวางเงินมัดจำ
โจทได้ทำสัญญาขายที่รายพิพาทไห้ผู้อื่นพายหลัง เมื่อจำเลยบอกเลิกสัญญาจะขายที่รายพิพาทนี้จะถือว่าโจทต้องเสียหายเพราะจำเลยผิดสัญญาไม่ได้. โจทฟ้องเรียกเงินมัดจำ 200 บาทตามสัญญาคืน จำเลยต่อสู้ว่าโจทไม่ได้วางเงินมัดจำเช่นนี้จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบหักล้างได้.
of 23