คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประดิษฐ์ สิงหทัศน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 133 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี แม้มีการโอนสิทธิ
ปัญหาว่าสิทธิเรียกร้องใดไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีแม้คู่ความจะไม่ได้ฎีกาในปัญหานี้แต่บทบัญญัติดังกล่าวเป็นบทบัญญัติที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ประกอบมาตรา 246,247 จำเลยเป็นพนักงานของผู้ร้อง และหากจำเลยลาออกจากการเป็นพนักงานของผู้ร้องจำเลยย่อมมีสิทธิได้รับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเงินสุทธิจำนวนหนึ่ง แต่ก่อนจำเลยลาออกจากการเป็นพนักงานของผู้ร้อง จำเลยได้โอนสิทธิเรียกร้องในการรับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้แก่ผู้ร้อง เมื่อตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 มาตรา 24บัญญัติว่า สิทธิเรียกร้องเงินจากกองทุนไม่อาจโอนกันได้และไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีการที่จำเลยโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวให้ผู้ร้องจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 150 ผู้ร้องจะอ้างการที่เป็นโมฆะขึ้นอ้างต่อผู้ใดไม่ได้ แต่การอายัดทรัพย์เป็นการบังคับคดีอย่างหนึ่ง โจทก์ย่อมไม่อาจอายัดสิทธิเรียกร้องดังกล่าวได้เช่นกัน ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินจำนวนดังกล่าว เป็นการไม่ชอบ ผู้ร้องจึงไม่จำต้องปฏิบัติตามคำสั่งอายัดของศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องสอดไม่ชอบเมื่อขาดคำขอบังคับ และการไม่อุทธรณ์ข้อกฎหมายในชั้นอุทธรณ์ทำให้ฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ในชั้นอุทธรณ์ ผู้ร้องสอดขอให้ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้าเป็นคู่ความ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 57 (1) เพียงประการเดียว ดังนี้คำขอตามมาตรา 57 (2) จึงไม่ใช่ข้อที่ว่ากล่าวมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามป.วิ.พ.มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำขอตาม ป.วิ.พ.มาตรา 57 (1) เป็นคำร้องสอดที่มีลักษณะเป็นคำฟ้อง ย่อมอยู่ในบังคับ มาตรา 172 วรรคสอง จึงต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ แต่คำร้องสอดของผู้ร้องสอดไม่มีคำขอบังคับ จึงเป็นคำร้องสอดที่ไม่ชอบที่ศาลจะรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องสอดต้องมีคำขอบังคับชัดเจน มิฉะนั้นศาลไม่รับพิจารณา และการฎีกาต้องไม่เกินกรอบที่อุทธรณ์ไว้
ในชั้นอุทธรณ์ ผู้ร้องสอดขอให้ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ ผู้ร้องสอดเข้าเป็นคู่ความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) เพียง ประการเดียว ดังนี้คำขอตามมาตรา 57(2) จึงไม่ใช่ข้อที่ว่ากล่าวมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย คำขอตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1)เป็นคำร้องสอดที่มีลักษณะเป็นคำฟ้อง ย่อมอยู่ในบังคับมาตรา 172 วรรคสอง จึงต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพ แห่งข้อหาและคำขอบังคับ แต่คำร้องสอดของผู้ร้องสอด ไม่มีคำขอบังคับ จึงเป็นคำร้องสอดที่ไม่ชอบที่ศาลจะรับไว้พิจารณา
of 14