พบผลลัพธ์ทั้งหมด 207 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1334/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ในคดีภาษี: ผู้ถูกประเมินต้องพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างการประเมินไม่ถูกต้อง
ตามประมวลรัษฎากร ให้เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจแก้จำนวนเงินที่ประเมินแล้วแจ้งให้เสียภาษีเพิ่มได้ตามวิธีการที่กฎหมายบัญญัติไว้ ผู้รับแจ้งมีหน้าที่ต้องชำระเงินตามที่เจ้าพนักงานแจ้งให้ทราบ เว้นแต่ผู้รับแจ้งจะได้อุทธรณ์หรือฟ้องต่อศาลแล้วกรรมการพิจารณาอุทธรณ์หรือศาลจะมีคำวินิจฉัยหรือคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น ฉะนั้น เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องก็ย่อมเป็นการกล่าวอ้างว่า การเรียกเก็บภาษีของจำเลยซึ่งมีผลอยู่นั้นเป็นการไม่ถูกต้อง จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบว่าเป็นจริงดังที่โจทก์กล่าวอ้าง โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1334/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การนำสืบในคดีภาษี: ผู้ฟ้องต้องพิสูจน์ความไม่ถูกต้องของการประเมินภาษี
ตามประมวลรัษฎากร ให้เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจแก้จำนวนเงินที่ประเมินแล้วแจ้งให้เสียภาษีเพิ่มได้ตามวิธีการที่กฎหมายบัญญัติไว้ ผู้รับแจ้งมีหน้าที่ต้องชำระเงินตามที่เจ้าพนักงานแจ้งให้ทราบ เว้นแต่ผู้รับแจ้งจะได้อุทธรณ์หรือฟ้องต่อศาลแล้วกรรมการพิจารณาอุทธรณ์หรือศาลจะมีคำวินิจฉัยหรือคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น ฉะนั้น เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องก็ย่อมเป็นการกล่าวอ้างว่า การเรียกเก็บภาษีของจำเลยซึ่งมีผลอยู่นั้นเป็นการไม่ถูกต้อง จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบว่าเป็นจริงดังที่โจทก์กล่าวอ้าง โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 336/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระภาษีล่วงหน้า การประเมินภาษีใหม่ และสิทธิของเจ้าหนี้ในการรับชำระหนี้ภาษีหลังศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
ประมวลรัษฎากร มาตรา 78 บัญญัติให้ผู้ประกอบการค้ามีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าจากรายรับของทุกเดือนภาษี โดยผู้ประกอบการค้าจะต้องยื่นแบบแสดงรายการต่อเจ้าพนักงานภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปพร้อมกับชำระค่าภาษีตาม มาตรา 85 ทวิ และ86 ด้วยนั้นเป็นการชำระค่าภาษีการค้าล่วงหน้าไปก่อนตามรายการที่ยื่นไว้เท่านั้น ซึ่งเมื่อเจ้าพนักงานตรวจสอบรายการที่ยื่นเห็นว่าถูกต้องและพอใจ ก็ถือว่าเป็นการชำระหนี้ค่าภาษีโดยสมบูรณ์แล้ว ส่วนเงินค่าภาษีที่มิได้ยื่นแบบแสดงรายการหรือยื่นแบบแสดงรายการไว้ไม่ครบถ้วนบริบูรณ์จะถือว่าค่าภาษีสำหรับรายการดังกล่าวนั้นได้ถึงกำหนดชำระด้วยแล้วหาได้ไม่ เพราะเมื่อยังไม่ได้ยื่นแสดงรายการก็ยังไม่มีค่าภาษีที่ต้องชำระแต่เมื่อเจ้าพนักงานอาศัยอำนาจตาม มาตรา 19,20 ทำการไต่สวนและประเมินค่าภาษีใหม่สำหรับรายการตามแบบที่ยื่นไม่ถูกต้องครบถ้วนและสั่งให้นำเงินภาษีไปชำระเพิ่มเติมภายใน 30 วันแล้วค่าภาษีที่จะต้องเสียเพิ่มเติมใหม่นี้ก็ย่อมถึงกำหนดชำระภายใน 30 วันนับแต่วันที่เจ้าพนักงานได้แจ้งไป
หนี้ค่าภาษีอากรลูกหนี้ที่จะต้องเสียและถึงกำหนดชำระภายหลังที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดนั้นกฎหมายยอมให้เจ้าหนี้เข้ามาขอรับชำระหนี้ได้ และเมื่อหนี้ค่าภาษีนี้เป็นหนี้ที่จะได้รับในลำดับก่อนหนี้อื่นๆแล้ว ก็หาทำให้การที่จะได้รับชำระหนี้นั้นเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใดไม่
หนี้ค่าภาษีอากรลูกหนี้ที่จะต้องเสียและถึงกำหนดชำระภายหลังที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดนั้นกฎหมายยอมให้เจ้าหนี้เข้ามาขอรับชำระหนี้ได้ และเมื่อหนี้ค่าภาษีนี้เป็นหนี้ที่จะได้รับในลำดับก่อนหนี้อื่นๆแล้ว ก็หาทำให้การที่จะได้รับชำระหนี้นั้นเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินได้ต้องได้รับจริง จึงจะนำมาคำนวณภาษีได้ สิทธิเรียกร้องในอนาคตไม่ใช่เงินได้
ความในมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากรนั้นเงินได้อันจะนำมาคำนวณภาษีจะต้องเป็นสิ่งที่ได้รับมาแล้วไม่ใช่เป็นแต่เพียงสิทธิเรียกร้องที่จะได้รับมาในภายหน้า
สิทธิเรียกร้องที่จะได้รับมาในภายหน้าในขณะครบรอบระยะเวลาบัญชี ยังไม่เป็นเงินได้ตามมาตรา 39 ที่จะนำไปคิดเป็นกำไรสุทธิซึ่งได้จากกิจการตามมาตรา 65
คำว่า 'กิจการที่กระทำ' ในมาตรา 65 นั้น หมายความถึงกิจการที่กระทำจนได้เงินมาเป็นเงินได้แล้ว
สิทธิเรียกร้องที่จะได้รับมาในภายหน้าในขณะครบรอบระยะเวลาบัญชี ยังไม่เป็นเงินได้ตามมาตรา 39 ที่จะนำไปคิดเป็นกำไรสุทธิซึ่งได้จากกิจการตามมาตรา 65
คำว่า 'กิจการที่กระทำ' ในมาตรา 65 นั้น หมายความถึงกิจการที่กระทำจนได้เงินมาเป็นเงินได้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ออกใบรับเงินเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประมวลรัษฎากร ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงภาษี
การที่จำเลยขายของไม่ออกใบรับเงินนั้น เป็นเรื่องไม่กระทำ คือไม่ออกใบรับมีบทบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้โดยเฉพาะอยู่แล้วตาม มาตรา 105 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ.2502 มาตรา 55 หาเป็นความผิดฐานหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ตามมาตรา 37(2) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ.2502 มาตรา 14 ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีการกระทำด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331-332/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานประเมินในการสั่งให้ชำระภาษีเพิ่มเติมกรณีรายการที่ยื่นไว้ไม่ถูกต้อง
โจทก์ชำระเงินภาษีแล้วต่อมาเจ้าพนักงานประเมินเห็นว่ารายการที่ยื่นไว้นั้นต่ำไป จึงตรวจสอบหลักฐานและเรียกโจทก์ไปสอบถามปรากฏจากการตรวจสอบไต่สวนและคำรับสารภาพของโจทก์ว่าโจทก์ยื่นรายการเสียภาษีไว้ต่ำกว่าจำนวนที่ควรต้องเสียจึงมีคำสั่งให้โจทก์ชำระเงินภาษีเพิ่มเติมอีกเช่นนี้เป็นอำนาจที่เจ้าพนักงานประเมินกระทำได้ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 19,20 ในเมื่อรายการที่โจทก์ทำยื่นไว้แล้วนั้นไม่ถูกต้องตามความจริงในกรณีเช่นนี้ไม่ต้องขออนุมัติอธิบดีตาม มาตรา 86(ก่อนแก้ไข) เพราะไม่ได้ใช้อำนาจกำหนดยอดเงินที่จะต้องคำนวณเพื่อเสียภาษีขึ้นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้บ้านพักเป็นสถานการค้าตามประมวลรัษฎากร: การควบคุมดูแลกิจการทำไม้หมอน
โจทก์มีภูมิลำเนาในพระนครแต่ทำไม้หมอนจากป่าในจังหวัดสุราษฎร์ธานีส่งให้การรถไฟ ค่าไม้หมอนจ่ายกันที่พระนครโจทก์ต้องไปควบคุมดูแลกิจการทำไม้หมอน เดือนละครั้งสองครั้งครั้งละ 3-4 วันเนื่องจากที่พักคนงานอยู่ในป่าห่างตลาดราว 10 กิโลเมตร เมื่อตรวจดูกิจการแล้วโจทก์ก็กลับมาอาศัยค้างคืนที่บ้านของ ส. ในตลาดตามปกติโจทก์ไปจ่ายค่าจ้างคนงานที่ในป่า แต่มีอยู่บ้างที่คนงานมาขอรับเงินจากโจทก์ในขณะที่พักอยู่ที่บ้านของ ส. ดังนี้จะถือว่าโจทก์ใช้บ้านของ ส.เป็นสถานการค้าตามเจตนารมณ์ของมาตรา 78 แห่งประมวลรัษฎากรตามที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยฉบับที่ 10 พ.ศ.2496 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1484/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารสัญญากู้ไม่ติดอากรแสตมป์ แต่จำเลยรับสารภาพ ย่อมใช้เป็นหลักฐานได้
แม้เอกสารสัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยมิได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ อันจะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ก็ตาม หากจำเลยให้การรับว่าได้ทำเอกสารนั้นให้โจทก์ไว้จริง ก็ย่อมฟังได้ว่า จำเลยกู้เงินโจทก์โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ โดยไม่ต้องอาศัยฟังจากเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานภาษีโภคภัณฑ์: การลงบัญชีไม่ครบถ้วนกับไม่ทำบัญชี มีความแตกต่างกันทางโทษ
เจ้าหน้าที่สรรพากรได้มีคำสั่งบังคับให้โจทก์เสียภาษีโภคภัณฑ์และเงินเพิ่มจนถึงกับจะยึดทรัพย์โจทก์เพื่อเอาชำระค่าภาษีนั้น นับว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของโจทก์แล้ว โจทก์มีอำนาจฟ้องศาลได้
ประมวลรัษฎากร มาตรา 190 เป็นบทความผิดสำหรับผู้ค้าโภคภัณฑ์ที่มีโภคภัณฑ์ขาดหรือเกินบัญชี ภ.ภ.11 คือลงบัญชีไว้ไม่ครบถ้วนส่วน มาตรา 197 เป็นบทความผิดผู้ที่ไม่ทำบัญชี ภ.ภ.11 หรือทำแล้วไม่เก็บบัญชีไว้ 5 ปี เป็นการแยกความผิดฐานลงบัญชีไม่ครบถ้วน กับการไม่ทำบัญชีเสียเลยให้มีโทษหนักเบาต่างกัน
โจทก์ได้สั่งโภคภัณฑ์เข้ามาเป็นคราวๆ และได้ลงบัญชีภ.ภ.11 แล้ว แต่คราวสุดท้ายไม่ลงบัญชีเลย ดังนี้ ไม่ใช่เรื่องลงบัญชีไม่ครบถ้วนอันเป็นเหตุให้มีโภคภัณฑ์ขาดหรือเกินจากบัญชี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 190 แต่ต้องถือว่าไม่ได้ทำบัญชีตาม มาตรา 197 เจ้าพนักงานจึงเรียกเก็บภาษีและเงินเพิ่มจากโจทก์ไม่ได้
ประมวลรัษฎากร มาตรา 190 เป็นบทความผิดสำหรับผู้ค้าโภคภัณฑ์ที่มีโภคภัณฑ์ขาดหรือเกินบัญชี ภ.ภ.11 คือลงบัญชีไว้ไม่ครบถ้วนส่วน มาตรา 197 เป็นบทความผิดผู้ที่ไม่ทำบัญชี ภ.ภ.11 หรือทำแล้วไม่เก็บบัญชีไว้ 5 ปี เป็นการแยกความผิดฐานลงบัญชีไม่ครบถ้วน กับการไม่ทำบัญชีเสียเลยให้มีโทษหนักเบาต่างกัน
โจทก์ได้สั่งโภคภัณฑ์เข้ามาเป็นคราวๆ และได้ลงบัญชีภ.ภ.11 แล้ว แต่คราวสุดท้ายไม่ลงบัญชีเลย ดังนี้ ไม่ใช่เรื่องลงบัญชีไม่ครบถ้วนอันเป็นเหตุให้มีโภคภัณฑ์ขาดหรือเกินจากบัญชี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 190 แต่ต้องถือว่าไม่ได้ทำบัญชีตาม มาตรา 197 เจ้าพนักงานจึงเรียกเก็บภาษีและเงินเพิ่มจากโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ภาษีเกินกำหนด: ศาลไม่รับฟ้อง แม้มีคำวินิจฉัยเนื้อหา
เมื่อปรากฏว่า โจทก์ได้อุทธรณ์การประเมินภาษีของเจ้าพนักงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเกินกำหนด 15 วันแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งยกอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดแล้วแม้สั่งวินิจฉัยเนื้อหาที่อุทธรณ์มาด้วยก็ไม่ทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลรื้อการประเมินขึ้นโต้แย้งต่อไปได้
การอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา24 วรรค 3 มาตรา 227,247 นั้น เสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
การอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา24 วรรค 3 มาตรา 227,247 นั้น เสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.