คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1379

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2760/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดิน: ผู้ซื้อสามารถดำเนินการออก น.ส.3 เองได้ แม้ผู้ขายไม่สามารถทำได้
จำเลยตกลงขายที่ดินแก่โจทก์ แต่ออก น.ส.3 ไม่ได้เพราะมีผู้คัดค้านจึงโอนกันต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ได้ เหตุเช่นนี้ไม่เป็นเหตุสุดวิสัยที่จะออก น.ส.3 ไม่ได้ ที่พิพาทผู้ซื้อยึดถือครอบครองอยู่แล้ว เพียงแต่โอนโดยแสดงเจตนาของผู้ขายก็พอที่ผู้ซื้อจะดำเนินการออก น.ส.3 ได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 479/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิครอบครองที่ดินมือเปล่า แม้สัญญาซื้อขายไม่สมบูรณ์ การแสดงเจตนาเช่าหลังสัญญาซื้อขายถือเป็นการโอนการครอบครอง
จำเลยทำสัญญาขายที่นาให้โจทก์โดยมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อที่นานั้นเป็นที่ดินมือเปล่ามีแต่เพียงสิทธิครอบครองและจำเลยซึ่งเคยครอบครองอยู่ได้ขอเช่าที่นานั้นจากโจทก์หลังจากทำสัญญาซื้อขายแล้ว กรณีจึงต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 วรรคหนึ่ง ว่า การโอนไปซึ่งการครอบครองย่อมเป็นผล ถ้าผู้โอนแสดงเจตนาว่าต่อไปจะยึดถือทรัพย์สินไว้แทนผู้รับโอน ถือได้ว่าได้มีการโอนการครอบครองให้โจทก์แล้วโดยถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 479/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิครอบครองที่ดินมือเปล่า แม้ไม่มีสัญญาซื้อขายที่เป็นหนังสือ การแสดงเจตนาเช่าถือเป็นการโอนสิทธิ
จำเลยทำสัญญาขายที่นาให้โจทก์โดยมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อที่นานั้นเป็นที่ดินมือเปล่ามีแต่เพียงสิทธิครอบครองและจำเลยซึ่งเคยครอบครองอยู่ได้ขอเช่าที่นานั้นจากโจทก์หลังจากทำสัญญาซื้อขายแล้ว กรณีจึงต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 วรรคหนึ่ง ว่าการโอนไปซึ่งการครอบครองย่อมเป็นผล ถ้าผู้โอนแสดงเจตนาว่าต่อไปจะยึดถือทรัพย์สินไว้แทนผู้รับโอน ถือได้ว่าได้มีการโอนการครอบครองให้โจทก์แล้วโดยถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 928/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนเชิด, สัญญาเช่า, การรับซื้อฝาก, สิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่า, สิทธิการฟ้องขับไล่
จำเลยบอกเลิกสัญญาเช่ากับโจทก์ โจทก์มีหนังสือยอมตกลงเลิกสัญญาเช่ากับจำเลย ถือว่าสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยระงับแล้ว
จำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 1 เป็นแม่ลูกกันและอยู่บ้านเดียวกัน จำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาให้เช่าตึกแถวซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และจำเลยที่ 1 ได้ยอมผูกพันและปฏิบัติตนตามสัญญาเช่าที่จำเลยที่ 2 ทำกับผู้เช่า ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้เชิดจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนไปทำสัญญาเช่ากับผู้เช่า สัญญาเช่านั้นจึงมีผลผูกพันจำเลยที่ 1 ด้วย
โจทก์รับซื้อฝากตึกพิพาทจากจำเลยทั้งๆที่รู้ดีแล้วว่าตึกพิพาทนั้นจำเลยได้ให้คนเช่าอยู่ โจทก์จึงต้องรับโอนตึกพิพาทนั้นไปทั้งสิทธิและหน้าที่ สัญญาเช่าจึงมีผลผูกพันโจทก์ด้วย เมื่อยังไม่ครบกำหนดตามสัญญาเช่า โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่า
เมื่อจำเลยต่อสู้ว่า จำเลยทำสัญญาเช่ากับจำเลยที่2 และมีผลผูกพันโจทก์สัญญาเช่านั้นมีผลผูกพันโจทก์หรือไม่ ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงมูลฐานซึ่งเป็นต้นเหตุให้จำเลยที่ 2 ไปทำสัญญาเช่า การที่ศาลวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 เชิดจำเลยที่ 2 ให้ไปทำสัญญาเช่าจึงไม่เป็นเรื่องนอกประเด็น
โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยออกไปจากทรัพย์พิพาทปรากฏว่าสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยระงับแล้ว และจำเลยมิได้เกี่ยวข้องกับทรัพย์พิพาท ก็ไม่จำต้องพิพากษาบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 928/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่าเมื่อมีการซื้อฝากและตัวแทนเชิด ศาลพิจารณาถึงผลผูกพันของสัญญาเช่าต่อผู้รับซื้อฝาก
จำเลยบอกเลิกสัญญาเช่ากับโจทก์ โจทก์มีหนังสือยอมตกลงเลิกสัญญาเช่ากับจำเลย ถือว่าสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยระงับแล้ว
จำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 1 เป็นแม่ลูกกันและอยู่บ้านเดียวกัน จำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาให้เช่าตึกแถวซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และจำเลยที่ 1 ได้ยอมตนผูกพันและปฏิบัติตนตามสัญญาเช่าที่จำเลยที่ 2 ทำกับผู้เช่า ถือได้ว่า จำเลยที่ 1 ได้เชิดจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนไปทำสัญญาเช่ากับผู้เช่า สัญญาเช่านั้นจึงมีผลผูกพันจำเลยที่ 1 ด้วย
โจทก์รับซื้อฝากตึกพิพาทจากจำเลย ทั้ง ๆ ที่รู้ดีแล้วว่าตึกพิพาทนั้นจำเลยได้ให้คนเช่าอยู่ โจทก์จึงต้องรับโอนตึกพิพาทนั้นไปทั้งสิทธิและหน้าที่ สัญญาเช่าจึงมีผลผูกพันโจทก์ด้วย เมื่อยังไม่ครบกำหนดตามสัญญาเช่าโจทก์จึงยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่า
เมื่อจำเลยต่อสู้ว่า จำเลยทำสัญญาเช่ากับจำเลยที่ 2 และมีผลผูกพันโจทก์ สัญญาเช่านั้นมีผลผูกพันโจทก์หรือไม่ ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงมูลฐานซึ่งเป็นต้นเหตุให้จำเลยที่ 2 ไปทำสัญญาเช่า การที่ศาลวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 เชิดจำเลยที่ 2 ให้ไปทำสัญญาเช่าจึงไม่เป็นเรื่องนอกประเด็น
โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยออกไปจากทรัพย์พิพาท ปรากฏว่าสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยระงับแล้ว และจำเลยมิได้เกี่ยวข้องกับทรัพย์พิพาท ก็ไม่จำต้องพิพากษาบังคับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154-155/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินไม่มีโฉนด การได้สิทธิครอบครอง และสิทธิในการฟ้องขับไล่ผู้บุกรุก
ยกที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญมอบการครอบครองให้แล้วผู้รับย่อมได้สิทธิครอบครองโดยมิต้องทำหนังสือและจดทะเบียนการให้เมื่อมีผู้บุกรุกรบกวน ผู้รับย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154-155/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญให้ผู้อื่น ทำให้ผู้รับได้สิทธิครอบครองและมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกได้
ยกที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญมอบการครอบครองให้แล้ว ผู้รับย่อมได้สิทธิครอบครองโดยมิต้องทำหนังสือและจดทะเบียนการให้ เมื่อมีผู้บุกรุกรบกวน ผู้รับย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้กรรมสิทธิ์ที่ดินด้วยวาจาไม่สมบูรณ์ และการโอนการครอบครองต่างจากสละสิทธิในที่ดิน
การให้กรรมสิทธิ์ที่ดินจะให้กันโดยปากเปล่า ไม่มีผล
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1379 เป็นเรื่องการโอนการครอบครอง ไม่ใช่เรื่องสละสิทธิในส่วนได้ในที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้กรรมสิทธิที่ดินโดยปากเปล่าไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย และการโอนการครอบครองต่างจากสละสิทธิในที่ดิน
การให้กรรมสิทธิที่ดินจะให้กันโดยปากเปล่าไม่มีผล
ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1379 เป็นเรื่องการโอนการครอบครอง ไม่ใช่เรื่องสละสิทธิในส่วนได้ในที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์สินก่อนตายโดยความเจตนาของผู้ตาย: ทรัพย์สินตกเป็นของจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง
ผู้ตายกับจำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายผู้ตายได้มอบสังหาริมทรัพย์ของผู้ตายซึ่งจำเลยยึดถืออยู่แล้ว ให้แก่จำเลยก่อนตายทรัพย์ต่างๆ จึงตกเป็นของจำเลยตามเจตนาของผู้ตาย โจทก์จะฟ้องเรียกเอาว่าเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายอีกไม่ได้
of 4