พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7500/2552
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด: ต้องมีถิ่นที่อยู่ถูกต้องตามกฎหมาย
คนต่างด้าวที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไม่อาจขอรับโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ หากประสงค์ที่จะขอรับโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุด ก็ชอบที่จะดำเนินการให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในห้องชุดตามป.พ.พ. มาตรา 1382 เพื่อไม่ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6294/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยปลดหนี้สัญญา: การที่คนต่างด้าวป่วยเป็นเหตุให้จำเลยไม่สามารถส่งตัวออกนอกราชอาณาจักรได้ตามสัญญา ไม่ถือเป็นการผิดสัญญา
จำเลยไม่ส่งตัว ห. คนต่างด้าวออกไปนอกราชอาณาจักรเพราะห. ป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยจำเลยไม่มีเจตนาปฏิบัติผิดเงื่อนไขสัญญาที่ต้องจัดการให้ ห.เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรภายในกำหนด จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าปรับตามสัญญา ผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ คนเข้าเมืองที่จะอนุญาตให้คนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องร้องดำเนินคดีในฐานะคู่สัญญากับจำเลยตามกฎหมาย เมื่อผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองมีคำสั่งเห็นชอบผ่อนผันระงับการปรับจำเลย ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงและชอบด้วยกฎหมายทั้งในฐานะคู่สัญญากับจำเลยโดยตรงแล้วหนี้ค่าปรับจึงระงับสิ้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6000/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการพิสูจน์สัญชาติไทย: การยื่นคำร้องต่อศาลหลังพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อนุมัติ
ผู้ร้องได้ยื่นคำขอพิสูจน์สัญชาติไทยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองแล้วพนักงานเจ้าหน้า ที่มีคำสั่งประการใดแล้วถ้าผู้ร้องไม่พอใจ ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาได้เพราะผู้ร้องได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 57 โดยถูกต้องแล้วไม่จำต้องฟ้องเป็นคดีมีข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4744/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิสัญชาติ: การพิจารณาความเป็นไทยของบุตรจากมารดาที่ถูกถอนสัญชาติ และอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอ
ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 ข้อ 1(3) ที่ให้ถอนสัญชาติไทยแก่บุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรไทยโดยบิดาเป็นคนต่างด้าวหรือมารดาเป็นคนต่างด้าว แต่ไม่ปรากฏบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายและขณะที่เกิดบิดาหรือมารดานั้นเป็นผู้ที่มาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดย ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองนั้น ข้อความที่ว่า"ผู้ที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทย" ย่อมเป็นที่เข้าใจว่าหมายถึงคนต่างด้าวที่มิได้มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักรไทย เพราะเป็นข้อความที่ใช้ถ้อยคำติดต่อกันตลอดไม่มีลักษณะที่จะให้เข้าใจได้ว่าต้องการจะให้แยกความหมายของคำว่า "เข้ามา" กับคำว่า "อยู่"ออกจากกันเหมือนดังที่บัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 54 ที่ใช้คำว่า "เข้ามาหรืออยู่" ซึ่งเห็นได้ชัดว่าต้องการให้มีผลบังคับถึงคนต่างด้าวทั้งที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร กับที่อยู่ในราชอาณาจักรอยู่แล้วโดยมิได้เดินทางมาจากนอกราชอาณาจักรด้วย โดยที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 ข้อ 1(3)เป็นกฎหมายที่มีลักษณะถอนสิทธิของบุคคลจึงต้องแปลความโดยเคร่งครัดดังนั้น กรณีของนาง ท. มารดาโจทก์ทั้งสามเกิดในราชอาณาจักรไทยแม้จะถูกถอนสัญชาติไทย ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337ข้อ 1(3) กลายเป็นคนต่างด้าวและอยู่ในราชอาณาจักรไทยต่อมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ก็มิใช่เป็นผู้ที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยตามความหมายแห่งประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว โจทก์ทั้งสามเป็นบุตรนาง ท. และเกิดในราชอาณาจักรไทยจึงมิใช่บุคคลตามข้อ 1แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 แม้โจทก์ทั้งสามจะเกิดภายหลังที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 ใช้บังคับแล้วก็ไม่ต้องด้วยกรณีที่จะไม่ได้สัญชาติไทย ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337ข้อ 2 โจทก์ทั้งสามจึงได้สัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 มาตรา 7(3) และไม่ถูกถอนสัญชาติไทยโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 337 ข้อ 1(3)
แม้จะปรากฏตามคำฟ้องว่าโจทก์ระบุชื่อนาย ส. เป็นจำเลยโดยไม่ได้ระบุตำแหน่งของจำเลยในฐานะเป็นนายอำเภอบึงกาฬมาด้วยก็ตามแต่การจะพิจารณาว่าโจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะใดนั้น จะต้องพิจารณาถึงข้อความในฟ้องประกอบกันด้วย ซึ่งโจทก์บรรยายฟ้องไว้แล้วว่าจำเลยเป็นข้าราชการมีตำแหน่งเป็นนายอำเภอบึงกาฬจังหวัดหนองคาย เมื่อผู้แทนโดยชอบธรรมของโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้จดทะเบียนให้โจทก์เป็นคนสัญชาติไทยต่อจำเลย จำเลยมีหน้าที่จดทะเบียนสัญชาติไทยให้แก่โจทก์ แต่จำเลยเพิกเฉย จึงถือว่าโจทก์ได้ฟ้องจำเลยในฐานะเป็นนายอำเภอบึงกาฬแล้ว โจทก์หาได้ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวไม่ ปรากฏว่าเมื่อบิดาของโจทก์ทั้งสามได้ยื่นคำร้องต่อจำเลยให้จดทะเบียนให้โจทก์ทั้งสามเป็นคนสัญชาติไทย แต่จำเลยเพิกเฉยการกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในเรื่องสัญชาติแล้ว โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะนายอำเภอบึงกาฬให้จดทะเบียนสัญชาติไทยให้แก่โจทก์ได้.
แม้จะปรากฏตามคำฟ้องว่าโจทก์ระบุชื่อนาย ส. เป็นจำเลยโดยไม่ได้ระบุตำแหน่งของจำเลยในฐานะเป็นนายอำเภอบึงกาฬมาด้วยก็ตามแต่การจะพิจารณาว่าโจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะใดนั้น จะต้องพิจารณาถึงข้อความในฟ้องประกอบกันด้วย ซึ่งโจทก์บรรยายฟ้องไว้แล้วว่าจำเลยเป็นข้าราชการมีตำแหน่งเป็นนายอำเภอบึงกาฬจังหวัดหนองคาย เมื่อผู้แทนโดยชอบธรรมของโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้จดทะเบียนให้โจทก์เป็นคนสัญชาติไทยต่อจำเลย จำเลยมีหน้าที่จดทะเบียนสัญชาติไทยให้แก่โจทก์ แต่จำเลยเพิกเฉย จึงถือว่าโจทก์ได้ฟ้องจำเลยในฐานะเป็นนายอำเภอบึงกาฬแล้ว โจทก์หาได้ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวไม่ ปรากฏว่าเมื่อบิดาของโจทก์ทั้งสามได้ยื่นคำร้องต่อจำเลยให้จดทะเบียนให้โจทก์ทั้งสามเป็นคนสัญชาติไทย แต่จำเลยเพิกเฉยการกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในเรื่องสัญชาติแล้ว โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะนายอำเภอบึงกาฬให้จดทะเบียนสัญชาติไทยให้แก่โจทก์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3220/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดคนต่างด้าวเข้าเมือง: อายุความ, กฎหมายเก่า, และความผิดต่อเนื่อง
จำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่ พ.ศ.2489ซึ่งในขณะนั้นใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2480 พระราชบัญญัติดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติความผิดในกรณีผู้เข้าอยู่โดยไม่ได้ยื่นรายการตามแบบกำหนดไม่ผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่และไม่เข้าช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองและเขตท่าสถานี หรือท้องที่ฯ การที่จำเลยเข้ามาดังกล่าวจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2480 สำหรับความผิดฐานเข้ามาโดยไม่มีหนังสือเดินทางอันถูกต้องตามกฎหมายนั้น แม้จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2480 ก็ตาม เมื่อฟังได้ว่าจำเลยเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่ พ.ศ.2489 นับถึงวันฟ้อง คดีโจทก์จึงขาดอายุความแล้ว ส่วนฟ้องโจทก์ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 81 นั้น เมื่อฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อเนื่องกันจนถึงปัจจุบันจำเลยจึงต้องมีความผิดตามบทกฎหมายดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2557/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สัญชาติไทยตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ต้องเป็นการโต้แย้งการเข้าเมือง ไม่ใช่การถอนสัญชาติโดยชอบ
การขอพิสูจน์ว่าตนมีสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองนั้น ผู้ขอจะต้องเป็นคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยอ้างว่าเป็นคนมีสัญชาติไทย แต่ถูกพนักงานเจ้าหน้าที่โต้แย้งเกี่ยวกับการเข้ามาในราชอาณาจักรว่าเป็นคนต่างด้าวจึงจะร้องขอพิสูจน์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ และเมื่อไม่พอใจคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ก็มีสิทธิร้องขอต่อศาลให้พิจารณา โดยยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทได้
ผู้ร้องเป็นชายสัญชาติไทยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับหญิงสัญชาติญวนรับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเพียงชั่วคราว มีบุตรเกิดด้วยกัน ทางจังหวัดสั่งถอนสัญชาติไทยของบุตร ผู้ร้องจะใช้สิทธิทางศาลตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 57 ขอพิสูจน์สัญชาติของบุตรไม่ได้ เมื่อเป็นการโต้แย้งสิทธิเกี่ยวกับสัญชาติของบุตรผู้เยาว์ ก็ชอบที่จะฟ้องผู้โต้แย้งสิทธิเป็นคดีมีข้อพิพาทต่อศาลได้ ปัญหานี้แม้ผู้คัดค้านมิได้ยกขึ้นโต้แย้งแต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้
ผู้ร้องเป็นชายสัญชาติไทยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับหญิงสัญชาติญวนรับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเพียงชั่วคราว มีบุตรเกิดด้วยกัน ทางจังหวัดสั่งถอนสัญชาติไทยของบุตร ผู้ร้องจะใช้สิทธิทางศาลตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 57 ขอพิสูจน์สัญชาติของบุตรไม่ได้ เมื่อเป็นการโต้แย้งสิทธิเกี่ยวกับสัญชาติของบุตรผู้เยาว์ ก็ชอบที่จะฟ้องผู้โต้แย้งสิทธิเป็นคดีมีข้อพิพาทต่อศาลได้ ปัญหานี้แม้ผู้คัดค้านมิได้ยกขึ้นโต้แย้งแต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาให้พักอาศัยเพื่อรักษาพยาบาล ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และเงินไทยไม่ใช่ 'ของ' ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร
จำเลยที่ 2 ให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกสะใภ้และเป็นคนลาว เข้าพักอาศัยในบ้านเพราะมีครรภ์แก่จวนคลอดเพื่อจะให้แพทย์ตรวจรักษา มิใช่ให้เข้าพักเพื่อให้พ้นจากการจับกุม จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมืองฯ ม.64
ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ไทยมิใช่สิ่งของอันอาจนำไปจำหน่ายเป็นสินค้าอย่างธรรมดาทั่วๆไปได้ จึงมิใช่ "ของ" ตามความใน พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ม.27 ฉะนั้นการที่จำเลยที่ 2กับพวกนำเงินไทยดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักร จึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ม.27
ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ไทยมิใช่สิ่งของอันอาจนำไปจำหน่ายเป็นสินค้าอย่างธรรมดาทั่วๆไปได้ จึงมิใช่ "ของ" ตามความใน พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ม.27 ฉะนั้นการที่จำเลยที่ 2กับพวกนำเงินไทยดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักร จึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ม.27
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะบุคคล: การพิสูจน์สัญชาติและผลกระทบต่อสิทธิในอาวุธปืนของผู้อพยพและบุตร
โจทก์ที่ 1 เป็นคนสัญชาติญวน เข้ามาในราชอาณาจักรไทยในฐานะญวนอพยพมิใช่บุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5ซึ่งเป็นบุตรโจทก์ที่ 1 แม้เกิดในราชอาณาจักรไทยก็ไม่ได้สัญชาติไทย ทั้งนี้โดยผลแห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตรวจคนเข้าเมือง: บุคคลต่างด้าวที่มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ต้องผ่านการตรวจเมื่อเข้ามาในราชอาณาจักร
บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรต้องผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง 2493มาตรา 21 นั้นหมายรวมถึงบุคคลต่างด้าวที่มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ และออกไปนอกราชอาณาจักรตาม มาตรา 26 แล้วเข้ามาในราชอาณาจักรด้วย