คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 587

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 604 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่ต้องรับผิดในละเมิดของผู้อื่นเมื่อจ้างทำของ ไม่ใช่นายจ้างลูกจ้าง
จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์คันเกิดเหตุ ได้ว่าจ้าง พ.ไปยึดรถคันดังกล่าวคืนมา พ.ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ทำการยึดอีกต่อหนึ่ง เมื่อยึดรถได้แล้วจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาเพื่อมอบให้ พ. ระหว่างทางจำเลยที่ 2 ขับรถโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย ดังนี้ การที่จำเลยที่ 1 จ้าง พ.ไปยึดรถยนต์เป็นการจ้างทำของมิใช่จ้างแรงงาน เพราะเป็นการถือเอาความสำเร็จของงานเป็นวัตถุประสงค์ของสัญญา มิใช่สัญญาระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง เมื่อ พ.จ้างจำเลยที่ 2 ไปยึดรถอีกต่อหนึ่ง จำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้อยู่ในฐานะนายจ้างและไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับจำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในฐานะนายจ้าง: สัญญาจ้างทำของ vs. สัญญาจ้างแรงงาน และขอบเขตความรับผิดต่อการกระทำละเมิดของผู้อื่น
จำเลยที่ 14 เป็นเจ้าของรถยนต์คันเกิดเหตุ ได้ว่าจ้าง พ. ไปยึดรถคันดังกล่าวคืนมา พ. ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ทำการยึดอีกต่อหนึ่ง เมื่อยึดรถได้แล้วจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาเพื่อมอบให้ พ. ระหว่างทางจำเลยที่ 2ขับรถโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย ดังนี้ การที่จำเลยที่ 1 จ้างพ. ไปยึดรถยนต์เป็นการจ้างทำของมิใช่จ้างแรงงาน เพราะเป็นการถือเอาความสำเร็จของงานเป็นวัตถุประสงค์ของสัญญา มิใช่สัญญาระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง เมื่อ พ. จ้างจำเลยที่ 2 ไปยึดรถอีกต่อหนึ่ง จำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้อยู่ในฐานะนายจ้างและไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับจำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727-1728/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าจ้างติดตั้งเครื่องปรับอากาศ: จ้างทำของ ไม่ใช่ทำเพื่ออุตสาหกรรม
การที่ผู้รับจ้างทำการติดตั้งเครื่องปรับอากาศโดยมิได้อยู่ในความควบคุมของผู้ว่าจ้าง เครื่องมือต่าง ๆ สำหรับใช้ทำการติดตั้งให้สำเร็จผู้รับจ้างก็เป็นผู้จัดหา เมื่อติดตั้งสำเร็จแล้วจะได้สินจ้างจากผู้ว่าจ้างนั้น เป็นการจ้างทำของและแม้การติดตั้งเครื่องปรับอากาศดังกล่าวจะได้ติดตั้งในโรงแรมของผู้ว่าจ้าง ก็ไม่ใช่เป็นการที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรมของผู้ว่าจ้าง เพราะคำว่า "อุตสาหกรรม" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) ตอนท้ายนั้น หมายถึงการประดิษฐ์หรือผลิตหรือทำสิ่งของขึ้นให้เป็นสินค้าเพื่อจำหน่ายขายสินค้านั้น ๆ ไป การติดตั้งเครื่องปรับอากาศเป็นเพียงเพื่อปล่อยความเย็นเข้าไปในห้องหรือสถานที่ของโรงแรมเท่านั้น หาได้มีการประดิษฐ์หรือผลิตหรือทำสิ่งของขึ้นจากเครื่องปรับอากาศให้เป็นสินค้าหรือจำหน่ายขายสินค้านั้น ๆ ไปไม่ อายุความสิทธิเรียกร้องค่าจ้างติดตั้งเครื่องปรับอากาศดังกล่าวจึงมีกำหนด 2 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทำของ vs. สัญญาเช่าซื้อ: เอกสารหลักฐานการรับมอบงานและการชำระค่าจ้าง ไม่ผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อ
การที่จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ต่อรถยนต์บรรทุกน้ำมันเข้าลักษณะเป็นสัญญาจ้างทำของ ซึ่งกฎหมายมิได้บังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือ แม้จำเลยจะได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ให้โจทก์ไว้เพราะค้างชำระค่าจ้าง จำเลยก็มีสิทธิที่จะนำสืบพยานว่า ความจริงเป็นกรณีจำเลยว่าจ้างโจทก์ต่อรถยนต์บรรทุกน้ำมันอันเป็นสัญญาจ้างทำของ และเอกสารสัญญาเช่าซื้อที่จำเลยทำไว้ให้แก่โจทก์เป็นเพียงหลักฐานการรับมอบการงานที่ว่าจ้างและการชำระสินจ้างที่ยังค้างชำระอยู่เท่านั้น มิได้มีเจตนามุ่งผูกพันกันตามสัญญาเช่าซื้อ ไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ไม่ตัดสิทธิโจทก์และจำเลยจะไปฟ้องร้องกันใหม่นั้นเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะพิพากษาดังกล่าวได้ในเมื่อพิจารณาเห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทำของ vs. สัญญาเช่าซื้อ: หลักฐานการรับมอบงานและชำระค่าจ้างไม่ผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อ
การที่จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ต่อรถยนต์บรรทุกน้ำมันเข้าลักษณะเป็นสัญญาจ้างทำของ ซึ่งกฎหมายมิได้บังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือ แม้จำเลยจะได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ให้โจทก์ไว้เพราะค้างชำระค่าจ้าง จำเลยก็มีสิทธิที่จะนำสืบพยานว่า ความจริงเป็นกรณีจำเลยว่าจ้างโจทก์ต่อรถยนต์บรรทุกน้ำมันอันเป็นสัญญาจ้างทำของ และเอกสารสัญญาเช่าซื้อที่จำเลยทำไว้ให้แก่โจทก์เป็นเพียงหลักฐานการรับมอบการงานที่ว่าจ้าง และการชำระสินจ้างที่ยังค้างชำระอยู่เท่านั้น มิได้มีเจตนามุ่งผูกพันกันตามสัญญาเช่าซื้อ ไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ และจำเลยจะไปฟ้องร้องกันใหม่นั้นเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะพิพากษาดังกล่าวได้ในเมื่อพิจารณาเห็นสมควร เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจองเช่าที่ดินที่ไม่ผูกพันเจ้าของที่ดิน และการคืนเงินค่าก่อสร้างตามส่วนประโยชน์ที่ได้รับ
เจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้ไปขออนุญาตสร้างตึกแถวจำเลยที่ 1 รับจ้างคนอื่น ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน สร้างขึ้น จำเลยที่ 1 เอาตึกแถวไปให้โจทก์เช่าไม่ได้สัญญาจองเช่าตึกแถวระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ไม่ผูกพันเจ้าของที่ดิน จำเลยที่ 1 ต้องคืนเงินช่วยค่าก่อสร้างแก่โจทก์ตามส่วนนอกจากที่โจทก์ได้เข้าอยู่ในตึกแถวมาแล้ว
เอกสารสัญญาที่ตกลงว่าโจทก์ชำระค่าช่วยก่อสร้างแล้วจำเลยจะจัดการให้โจทก์ได้เช่าตึกแถวกับเจ้าของที่ดิน เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่ง ประมวลรัษฎากร มิได้กำหนดให้ปิดอากรแสตมป์อย่างจ้างทำของรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนายความ: พิจารณาจากผลสำเร็จของงาน แม้มีการฟ้องคดีอาญาควบคู่ไปด้วย
จำเลยตกลงว่าจ้างโจทก์เป็นทนายความฟ้อง อ.ขอหย่าและแบ่งสินสมรสทุนทรัพย์ 697,200 บาท ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด โดยตกลงให้ค่าจ้าง 60,000 บาท ดังนี้ตามพฤติการณ์ที่โจทก์จำเลยปฏิบัติต่อกันเห็นได้ว่าจำเลยจะชำระค่าจ้าง 60,000 บาท ดังนี้ ตามพฤติการณ์ที่โจทก์จำเลยปฏิบัติต่อกันเห็นได้ว่าจำเลยจะชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์เมื่อจำเลยได้รับชำระเงินจาก อ. การที่โจทก์ยื่นฟ้อง อ. และคดียุติด้วยการทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยและ อ. ตกลงหย่าขาดจากกัน อ. ยอมแบ่งสินสมรสให้จำเลย 600,000 บาท ซึ่งศาลพิพากษาไปตามยอม ต่อมาเมื่อ อ. ผิดสัญญายอม โจทก์ดำเนินการบังคับคดี แก้ต่างในคดีร้องขัดทรัพย์และฟ้อง อ. เป็นคดีล้มละลาย แม้จำเลยจะมอบให้ ค. เป็นทนายฟ้อง อ. เป็นคดีอาญาเรื่องฉ้อโกงเจ้าหนี้ และ อ. ยอมชำระเงินให้จำเลย ก็ถือได้ว่าการทำงานของโจทก์มีส่วนเป็นผลให้งานสำเร็จเป็นส่วนใหญ่เพราะที่ ค. ฟ้องคดีอาญาก็มีส่วนให้อ. ชำระเงินตามยอมด้วย จึงสมควรกำหนดค่าจ้างให้โจทก์ 40,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนายความ: การประเมินผลสำเร็จของงานและการชำระค่าจ้างเมื่อได้รับเงินจากคู่กรณี
จำเลยตกลงว่าจ้างโจทก์เป็นทนายความฟ้อง อ.ขอหย่าและแบ่งสินสมรสทุนทรัพย์ 697,200 บาท ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุดโดยตกลงให้ค่าจ้าง 60,000 บาท ดังนี้ตามพฤติการณ์ที่โจทก์จำเลยปฏิบัติต่อกันเห็นได้ว่าจำเลยจะชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์เมื่อจำเลยได้รับชำระเงินจาก อ. การที่โจทก์ยื่นฟ้อง อ.และคดียุติด้วยการทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยและ อ.ตกลงหย่าขาดจากกัน.อ.ยอมแบ่งสินสมรสให้จำเลย 600,000 บาท ซึ่งศาลพิพากษาไปตามยอม ต่อมาเมื่อ อ.ผิดสัญญายอม โจทก์ดำเนินการบังคับคดี แก้ต่างในคดีร้องขัดทรัพย์และฟ้อง อ.เป็นคดีล้มละลาย แม้จำเลยจะมอบให้ ค.เป็นทนายฟ้องอ.เป็นคดีอาญาเรื่องฉ้อโกงเจ้าหนี้และอ.ยอมชำระเงินให้จำเลย ก็ถือได้ว่าการทำงานของโจทก์มีส่วนเป็นผลให้งานสำเร็จเป็นส่วนใหญ่เพราะที่ ค.ฟ้องคดีอาญาก็มีส่วนให้อ.ชำระเงินตามยอมด้วย จึงสมควรกำหนดค่าจ้างให้โจทก์ 40,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้จากการจ้างทำของในคดีล้มละลาย ศาลพิจารณาเหตุไม่สมควรให้ล้มละลายได้ แม้จำเลยไม่ได้ยกข้อต่อสู้
จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ทำการโฆษณาสินค้าและภาพยนตร์ซึ่งเป็นการจ้างทำของ หนี้รายนี้จึงมีอายุความให้ฟ้องร้องได้ภายในกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา165(1) เมื่อนับจากวันที่หนี้รายนี้เกิดขึ้นถึงวันที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายเนื่องจากค้างชำระสินจ้างดังกล่าวเป็นเวลาเกินสองปีแล้ว หนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องจึงขาดอายุความ
คดีล้มละลายจำเลยไม่จำต้องให้การสู้คดีเช่นคดีแพ่งสามัญจึงไม่มีประเด็นอย่างใดเกิดขึ้น. การพิจารณาคดีล้มละลายผิดแผกแตกต่างกับการพิจารณาคดีแพ่งสามัญ เพราะพระราชบัญญัติล้มละลายเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลจึงต้องพิจารณาเอาความจริงตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ว่าคดีมีเหตุที่ควรหรือไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายหรือไม่ฉะนั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าหนี้ตามฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ จึงเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามมาตรา 94(1) ถือได้ว่าเป็นเหตุที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายตามมาตรา 14 ดังกล่าวศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้จากการจ้างทำของขาดอายุความเป็นเหตุไม่ควรให้ล้มละลาย แม้จำเลยมิได้ยกข้อต่อสู้
จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ทำการโฆษณาสินค้าและภาพยนตร์ซึ่งเป็นการจ้างทำของ หนี้รายนี้จึงมีอายุความให้ฟ้องร้องได้ภายในกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) เมื่อนับจากวันที่หนี้รายนี้เกิดขึ้นถึงวันที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายเนื่องจากค้างชำระสินจ้างดังกล่าวเป็นเวลาเกินสองปีแล้ว หนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องจึงขาดอายุความ
คดีล้มละลายจำเลยไม่จำต้องให้การสู้คดีเช่นคดีแพ่งสามัญจึงไม่มีประเด็นอย่างใดเกิดขึ้น การพิจารณาคดีล้มละลายผิดแผกแตกต่างกับการพิจารณาคดีแพ่งสามัญเพราะพระราชบัญญัติล้มละลายเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลจึงต้องพิจารณาเอาความจริงตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลจึงต้องพิจารณาเอาความจริงตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ว่าคดีมีเหตุที่ควรหรือไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายหรือไม่ ฉะนั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าหนี้ตามฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ จึงเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามมาตรา 94 (1) ถือได้ว่าเป็นเหตุที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายตามมาตรา 14 ดังกล่าว ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
of 61