พบผลลัพธ์ทั้งหมด 384 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2132/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อผิดนัด การคำนวณค่าเสียหายจากรถยนต์เสื่อมสภาพ และขอบเขตการบังคับชำระหนี้
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ จากโจทก์ในราคา 66,384 บาทผ่อนชำระได้ 22,128 บาท แล้วผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาและติดตามยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อ คืนมาได้ หลังจากวันทำสัญญาเช่าซื้อแล้วถึง1 ปี 5 เดือนเศษ รถยนต์ คันที่เช่าซื้อ ย่อมทรุดโทรมเสื่อมราคาไปเพราะการใช้ของจำเลยที่ 1 ราคาในขณะที่โจทก์ติดตาม ยึดคืนมาได้จึงต้องต่ำกว่าขณะทำสัญญาเช่าซื้อ โจทก์ได้ นำออกขายทอดตลาดได้เงิน13,000 บาท เมื่อนำเงินค่าเช่าซื้อที่ชำระแล้วมารวมกับเงินที่โจทก์ได้จากการขายทอดตลาดแล้วยังต่ำ กว่าราคาเช่าซื้อ ประกอบกับตามสัญญาเช่าซื้อระบุให้จำเลยที่ 1 ต้อง รับผิดใช้ค่าเสียหายต่าง ๆตลอดจนค่าเสื่อมราคาเมื่อมีการเลิกสัญญาเช่าซื้อ จึงเห็นได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยที่ 1 ผิดสัญญา และจำเลยที่ 1 ต้องชดใช้ให้แก่โจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2132/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อผิดนัด การคำนวณค่าเสียหายและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ จากโจทก์ในราคา 66,384 บาทผ่อนชำระได้ 22,128 บาท แล้วผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาและติดตามยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนมาได้หลังจากวันทำสัญญาเช่าซื้อแล้วถึง1 ปี 5 เดือนเศษ รถยนต์ คันที่เช่าซื้อ ย่อมทรุดโทรมเสื่อมราคาไปเพราะการใช้ของจำเลยที่ 1 ราคาในขณะที่โจทก์ติดตามยึดคืนมาได้จึงต้องต่ำกว่าขณะทำสัญญาเช่าซื้อ โจทก์ได้นำออกขายทอดตลาดได้เงิน13,000 บาท เมื่อนำเงินค่าเช่าซื้อที่ชำระแล้วมารวมกับเงินที่โจทก์ได้จากการขายทอดตลาดแล้วยังต่ำกว่าราคาเช่าซื้อ ประกอบกับตามสัญญาเช่าซื้อระบุให้จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายต่าง ๆ ตลอดจนค่าเสื่อมราคาเมื่อมีการเลิกสัญญาเช่าซื้อ จึงเห็นได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยที่ 1 ผิดสัญญา และจำเลยที่ 1 ต้องชดใช้ให้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1139/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายอากรแสตมป์ปลอมทำให้โจทก์เสียหายและถูกปรับ โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลย
จำเลยจำหน่ายอากรแสตมป์ปลอมให้แก่โจทก์ พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจ พบจึงแจ้งให้โจทก์ชำระเงินค่าอากรแสตมป์ปลอมและปรับอีก6 เท่าของค่าอากรแสตมป์ปลอม โจทก์ชำระค่าอากรแสตมป์และค่าปรับแล้วชอบที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1108/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินในเขตป่าสงวน การผิดสัญญา และเบี้ยปรับ
ค่าเสียหายที่กำหนดไว้ในสัญญาถือ ว่าเป็นเบี้ยปรับซึ่ง โจทก์มีสิทธิเรียกเอาได้ แต่ ศาลมี อำนาจที่จะพิจารณาว่าเป็นจำนวนพอสมควรหรือไม่เพียงใด และการเรียกค่าเสียหายอันเป็นเบี้ยปรับกับการไม่คืนเงินมัดจำเป็นคนละกรณีกัน การที่ศาลอุทธรณ์กำหนดค่าเสียหายให้โจทก์เพิ่มขึ้นเพราะจำเลยไม่คืนเงินมัดจำให้โจทก์ย่อมไม่เป็นการสมควร เพราะโจทก์ต้อง ได้ รับเงินมัดจำคืนตาม ฟ้องซึ่ง ศาลวินิจฉัยให้คืนอยู่แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถมดินปิดกั้นลำธารทำให้เสียหาย: ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ให้ชดใช้ค่าเสียหาย
ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกานั้น คู่ความจะต้อง กล่าวไว้โดย ชัดแจ้งในฎีกาและต้อง เป็นข้อที่ได้ ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องแย้งของโจทก์และยกฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสาม โจทก์อุทธรณ์ จำเลยทั้งสามมิได้อุทธรณ์ ดังนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสามจึงเป็นอันยุติตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้น เพราะเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ โจทก์นำสืบถึง ความเสียหายที่ได้ รับจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 แม้จะมิได้นำสืบว่าข้าวราคาเกวียนละเท่าใดศาลก็มีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ได้ ตาม ที่เห็น สมควร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันในคดีค่าเสียหาย: ไม่ถือเป็นการซ้ำซ้อนหากเป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่างานเพิ่มและค่าปรับให้แก่โจทก์จำนวน 17,328,145.10 บาท พร้อมดอกเบี้ยโดยให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดชำระเงินดังกล่าวเป็นจำนวน3,718,526.33 บาท พร้อมดอกเบี้ย การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกันร่วมรับผิดต่อโจทก์เพิ่มขึ้นอีก3,533,741.03 บาท นั้น มิได้เป็นการพิพากษาให้จำเลยที่ 2ชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์อีกต่างหากจากเงินค่าปรับและค่าเสียหายจำนวน 17,328,145.10 บาท จึงไม่เป็นการพิพากษาให้ค่าเสียหายซ้ำซ้อนแก่โจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันและการไม่ถือเป็นการชำระค่าเสียหายซ้ำซ้อน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่างานเพิ่มและค่าปรับให้แก่โจทก์จำนวน 17,328,145.10 บาท พร้อมดอกเบี้ยโดยให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดชำระเงินดังกล่าวเป็นจำนวน3,718,526.33 บาท พร้อมดอกเบี้ย การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกันร่วมรับผิดต่อโจทก์เพิ่มขึ้นอีก3,533,741.03 บาท นั้น มิได้เป็นการพิพากษาให้จำเลยที่ 2ชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์อีกต่างหากจากเงินค่าปรับและค่าเสียหายจำนวน 17,328,145.10 บาท จึงไม่เป็นการพิพากษาให้ค่าเสียหายซ้ำซ้อนแก่โจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าหมดอายุ-ทำสัญญาใหม่ไม่มีกำหนด-บอกเลิกสัญญา-ค่าเช่า-ค่าเสียหาย-การพิสูจน์ค่าเช่าที่สูงขึ้น
จำเลยได้เช่าตึกแถวพิพาทหลังจากที่โจทก์ซื้อมานานเกือบ 10 ปีโดยไม่ปรากฏว่าก่อนหรือหลังจากที่ให้จำเลยเช่าได้มีการต่อเติมตึกแถวพิพาทแต่อย่างใด เงินที่จำเลยอ้างว่าให้โจทก์เพื่อช่วยค่าก่อสร้าง จึงหาใช่เงินช่วยค่าก่อสร้างตึกแถวพิพาทอันจะทำให้สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาไม่ เมื่อได้มีการบอกเลิกการเช่าโดยชอบแล้ว โจทก์ย่อมฟ้องขับไล่จำเลยได้ สัญญาเช่าตึกแถวพิพาทกำหนดอัตราค่าเช่าไว้เดือนละ 1,000บาท เมื่อครบกำหนดอายุการเช่า 1 ปี จำเลยยังคงอยู่ในตึกแถวพิพาทต่อมาโดยโจทก์ไม่ทักท้วง มาตรา 570 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้ถือว่าโจทก์จำเลยเป็นอันทำสัญญาใหม่ต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา ซึ่งหมายความว่าข้อตกลงเกี่ยวกับกำหนดเวลาไม่มีผลบังคับกันต่อไป ส่วนข้อสัญญาอื่นคงเป็นไปตามสัญญาเช่าเดิมรวมทั้งอัตราค่าเช่าด้วย ดังนั้นเมื่อโจทก์จะขอบังคับให้จำเลยชำระค่าเช่าหลังจากครบอายุการเช่า 1 ปี ในอัตราค่าเช่าที่สูงกว่าที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าโจทก์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อจำเลยมาแสดงว่า ได้มีการตกลงขึ้นค่าเช่าดังที่โจทก์อ้าง การที่โจทก์นำพยานบุคคลมาสืบว่าได้มีการตกลงขึ้นค่าเช่าจึงเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 โจทก์ฟ้องให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในการที่จำเลยครอบครองตึกแถวพิพาททำให้โจทก์ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ในอัตราเดือนละ18,000 บาท จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ในเรื่องดังกล่าว เท่ากับจำเลยยอมรับถึงผลประโยชน์ของตึกแถวพิพาทว่าเป็นจำนวนเงินตามที่โจทก์อ้างจำเลยจึงต้องใช้ค่าเสียหายนั้นแก่โจทก์โดยศาลชั้นต้นไม่จำต้องกำหนดประเด็นในเรื่องค่าเสียหายไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4170/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับสัญญาซื้อขาย: การบอกเลิกสัญญาทำให้มีสิทธิเรียกร้องเบี้ยปรับตามสัญญาข้อ 8 ไม่ใช่ข้อ 9 และจำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มเติม
สัญญาซื้อขายเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซิน ข้อ 8 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้และวรรคสองระบุว่า ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือค้ำประกันแล้วแต่ผู้ซื้อจะเห็นสมควร ส่วนสัญญาข้อ 9 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาต่อผู้ขาย ยังคงยอมให้ผู้ขายนำสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญาส่งให้แก่ผู้ซื้อต่อไป ผู้ซื้อจึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากผู้ขายเป็นรายวันได้นับแต่วันถัดจากวันครบกำหนดตามสัญญาจนกว่าผู้ขายได้นำสิ่งของมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนครบถ้วน เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเนื่องจากจำเลยส่งมอบเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินทั้งหมดไม่ถูกต้องตามสัญญาซื้อขาย จึงเป็นเรื่องโจทก์ไม่ได้รับเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินที่ไม่ถูกต้องตามที่สัญญากำหนดไว้ถือได้ว่าจำเลยไม่ได้ส่งมอบสิ่งของตามสัญญา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยส่งมอบสิ่งของให้โจทก์ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามสัญญาและโจทก์ได้ยอมรับไว้โดยจะใช้สิทธิปรับเป็นรายวันตามสัญญาข้อ 9 แต่อย่างใด โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับตามสัญญา ข้อ 8 วรรคสอง เท่านั้น หามีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับเป็นรายวันตามสัญญาข้อ 9 ไม่
แม้สัญญาซื้อขายจะได้กำหนดค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิดชดใช้ให้แก่โจทก์ไว้ก็ตาม แต่การที่โจทก์ได้รับความเสียหายเนื่องจากจำเลยผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 วรรคสอง
โจทก์แจ้งความซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินเพื่อใช้ในราชการในการจัดซื้อจะต้องตั้งงบประมาณและต้องได้รับอนุมัติจำนวนเงินที่จะจัดซื้อจากรัฐบาล ซึ่งพ่อค้าเช่นจำเลยย่อมจะต้องทราบ เมื่อจำนวนเงินที่โจทก์ได้รับจากเงินงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้สามารถซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินจากจำเลยได้ 10 เครื่องตามความต้องการของโจทก์ จำเลยย่อมคาดเห็นล่วงหน้าแล้วว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาไม่อาจส่งมอบเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินให้แก่โจทก์ได้โจทก์จะต้องได้รับความเสียหาย เมื่อโจทก์ไม่สามารถจะซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินที่จะใช้ทำงานได้ตามความต้องการของโจทก์จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
แม้สัญญาซื้อขายจะได้กำหนดค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิดชดใช้ให้แก่โจทก์ไว้ก็ตาม แต่การที่โจทก์ได้รับความเสียหายเนื่องจากจำเลยผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 วรรคสอง
โจทก์แจ้งความซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินเพื่อใช้ในราชการในการจัดซื้อจะต้องตั้งงบประมาณและต้องได้รับอนุมัติจำนวนเงินที่จะจัดซื้อจากรัฐบาล ซึ่งพ่อค้าเช่นจำเลยย่อมจะต้องทราบ เมื่อจำนวนเงินที่โจทก์ได้รับจากเงินงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้สามารถซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินจากจำเลยได้ 10 เครื่องตามความต้องการของโจทก์ จำเลยย่อมคาดเห็นล่วงหน้าแล้วว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาไม่อาจส่งมอบเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินให้แก่โจทก์ได้โจทก์จะต้องได้รับความเสียหาย เมื่อโจทก์ไม่สามารถจะซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินที่จะใช้ทำงานได้ตามความต้องการของโจทก์จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4170/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสัญญาซื้อขายเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซิน: การบอกเลิกสัญญา, เบี้ยปรับ, และค่าเสียหายจากการผิดสัญญา
สัญญาซื้อขายเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซิน ข้อ 8 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อหรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้และวรรคสองระบุว่า ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือค้ำประกันแล้วแต่ผู้ซื้อจะเห็นสมควร ส่วนสัญญาข้อ 9 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาต่อผู้ขาย ยังคงยอมให้ผู้ขายนำสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญาส่งให้แก่ผู้ซื้อต่อไป ผู้ซื้อจึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากผู้ขายเป็นรายวันได้นับแต่วันถัดจากวันครบกำหนดตามสัญญาจนกว่าผู้ขายได้นำสิ่งของมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนครบถ้วน เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเนื่องจากจำเลยส่งมอบเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินทั้งหมดไม่ถูกต้องตามสัญญาซื้อขาย จึงเป็นเรื่องโจทก์ไม่ได้รับเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินที่ไม่ถูกต้องตามที่สัญญากำหนดไว้ถือได้ว่าจำเลยไม่ได้ส่งมอบสิ่งของตามสัญญา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยส่งมอบสิ่งของให้โจทก์ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามสัญญาและโจทก์ได้ยอมรับไว้โดยจะใช้สิทธิปรับเป็นรายวันตามสัญญาข้อ 9แต่อย่างใด โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับตามสัญญา ข้อ 8วรรคสอง เท่านั้น หามีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับเป็นรายวันตามสัญญาข้อ 9 ไม่ แม้สัญญาซื้อขายจะได้กำหนดค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิดชดใช้ให้แก่โจทก์ไว้ก็ตาม แต่การที่โจทก์ได้รับความเสียหายเนื่องจากจำเลยผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 วรรคสอง โจทก์แจ้งความซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินเพื่อใช้ในราชการในการจัดซื้อจะต้องตั้งงบประมาณและต้องได้รับอนุมัติจำนวนเงินที่จะจัดซื้อจากรัฐบาล ซึ่งพ่อค้าเช่นจำเลยย่อมจะต้องทราบ เมื่อจำนวนเงินที่โจทก์ได้รับจากเงินงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้สามารถซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินจากจำเลยได้ 10 เครื่องตามความต้องการของโจทก์ จำเลยย่อมคาดเห็นล่วงหน้าแล้วว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาไม่อาจส่งมอบเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินให้แก่โจทก์ได้โจทก์จะต้องได้รับความเสียหาย เมื่อโจทก์ไม่สามารถจะซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินที่จะใช้ทำงานได้ตามความต้องการของโจทก์จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์.