พบผลลัพธ์ทั้งหมด 179 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824-825/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ราชพัสดุเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โอนไม่ได้เว้นแต่มีกฎหมายเฉพาะ
ที่ราชพัสดุได้เคยใช้เป็นที่ปลูกสร้างโรงงานฆ่าสัตว์แต่เลิกไป ปัจจุบันใช้เป็นที่ปลูกบ้านพักนายอำเภอและโรงเก็บรถดับเพลิง เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ซึ่งใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยใช้เป็นที่ปลูกสร้างสำนักราชการบ้านเมืองอันราชการใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1304(3) จะโอนแก่กันมิได้เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะ หรือพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 1305 เท่านั้นและจะยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับแผ่นดินมิได้ตามมาตรา 1306
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2511)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824-825/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ราชพัสดุเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โอนไม่ได้เว้นแต่กฎหมายเฉพาะ อายุความใช้ไม่ได้
ที่ราชพัสดุได้เคยใช้เป็นที่ปลูกสร้างโรงงานฆ่าสัตว์แต่เลิกไปปัจจุบันใช้เป็นที่ปลูกบ้านพักนายอำเภอและโรงเก็บรถดับเพลิงเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ซึ่งใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยใช้เป็นที่ปลูกสร้างสำนักราชการบ้านเมืองอันราชการใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1304(3) จะโอนแก่กันมิได้เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 1305 เท่านั้นและจะยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับแผ่นดินมิได้ตามมาตรา 1306(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824-825/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ราชพัสดุเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สิทธิในที่ดินโอนไม่ได้ตามกฎหมาย
ที่ราชพัสดุได้เคยใช้เป็นที่ปลูกสร้างโรงงานฆ่าสัตว์แต่เลิกไป. ปัจจุบันใช้เป็นที่ปลูกบ้านพักนายอำเภอและโรงเก็บรถดับเพลิง. เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ซึ่งใช้เพื่อสาธารณประโยชน์. โดยใช้เป็นที่ปลูกสร้างสำนักราชการบ้านเมืองอันราชการใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ. จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1304(3). จะโอนแก่กันมิได้เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะ. หรือพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 1305 เท่านั้น.และจะยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับแผ่นดินมิได้ตามมาตรา 1306.(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2511).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ราชพัสดุเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้มีการจดทะเบียนโอน สิทธิไม่สมบูรณ์ เอกสารมหาชนมีน้ำหนักใช้พิสูจน์ได้
ที่ราชพัสดุราชการใช้สำหรับรับเสด็จและเป็นที่พักกรมการอำเภอ สุขาภิบาลใช้ปลูกสร้างที่ทำการประปา ที่ประชุมสุขาภิบาล. จึงเป็นทรัพย์สินใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ. จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(3). แม้จะได้มีการจดทะเบียนโอนไปยังบุคคลภายนอกโดยสุจริต และเสียค่าตอบแทนก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิประการใด.
ทะเบียนที่ราชพัสดุที่จำเลยอ้าง เป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้น ย่อมให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง. เป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายัน จะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือไม่ถูกต้องแห่งเอกสาร. จำเลยไม่จำต้องนำพยานบุคคลมาสืบประกอบ. เมื่อโจทก์สืบหักล้างเอกสารไม่ได้. ศาลก็รับฟังทะเบียนที่ราชพัสดุเป็นพยานได้.
ทะเบียนที่ราชพัสดุที่จำเลยอ้าง เป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้น ย่อมให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง. เป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายัน จะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือไม่ถูกต้องแห่งเอกสาร. จำเลยไม่จำต้องนำพยานบุคคลมาสืบประกอบ. เมื่อโจทก์สืบหักล้างเอกสารไม่ได้. ศาลก็รับฟังทะเบียนที่ราชพัสดุเป็นพยานได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ราชพัสดุเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้มีการจดทะเบียนโอน สิทธิไม่สมบูรณ์ เอกสารมหาชนมีน้ำหนักเชื่อถือได้
ที่ราชพัสดุราชการใช้สำหรับรับเสด็จและเป็นที่พักกรมการอำเภอ สุขาภิบาลใช้ปลูกสร้างที่ทำการประปา ที่ประชุมสุขาภิบาล จึงเป็นทรัพย์สินใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(3)แม้จะได้มีการจดทะเบียนโอนไปยังบุคคลภายนอกโดยสุจริต และเสียค่าตอบแทนก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิประการใด
ทะเบียนที่ราชพัสดุที่จำเลยอ้าง เป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้น ย่อมให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องเป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายัน จะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือไม่ถูกต้องแห่งเอกสารจำเลยไม่จำต้องนำพยานบุคคลมาสืบประกอบ เมื่อโจทก์สืบหักล้างเอกสารไม่ได้ศาลก็รับฟังทะเบียนที่ราชพัสดุเป็นพยานได้
ทะเบียนที่ราชพัสดุที่จำเลยอ้าง เป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้น ย่อมให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องเป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายัน จะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือไม่ถูกต้องแห่งเอกสารจำเลยไม่จำต้องนำพยานบุคคลมาสืบประกอบ เมื่อโจทก์สืบหักล้างเอกสารไม่ได้ศาลก็รับฟังทะเบียนที่ราชพัสดุเป็นพยานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ราชพัสดุเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้มีการจดทะเบียนโอน สิทธิไม่สมบูรณ์ ทะเบียนที่ราชพัสดุมีน้ำหนักเป็นพยาน
ที่ราชพัสดุราชการใช้สำหรับรับเสด็จและเป็นที่พักกรมการอำเภอ สุขาภิบาลใช้ปลูกสร้างที่ทำการประปา ที่ประชุมสุขาภิบาล จึงเป็นทรัพย์สินใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (3) แม้จะได้มีการจดทะเบียนโอนไปยังบุคคลภายนอกโดยสุจริต และเสียค่าตอบแทนก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิประการใด
ทะเบียนที่ราชพัสดุที่จำเลยอ้าง เป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้น ย่อมให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง เป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายัน จะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือไม่ถูกต้องแห่งเอกสาร จำเลยไม่จำต้องนำพยานบุคคลมาสืบประกอบ เมื่อโจทก์สืบหักล้างเอกสารไม่ได้ ศาลก็รับฟังทะเบียนที่ราชพัสดุเป็นพยานได้
ทะเบียนที่ราชพัสดุที่จำเลยอ้าง เป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้น ย่อมให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง เป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายัน จะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือไม่ถูกต้องแห่งเอกสาร จำเลยไม่จำต้องนำพยานบุคคลมาสืบประกอบ เมื่อโจทก์สืบหักล้างเอกสารไม่ได้ ศาลก็รับฟังทะเบียนที่ราชพัสดุเป็นพยานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินแม้ตื้นเขินก็ยังคงเป็นของรัฐ เอกชนไม่มีสิทธิครอบครองหรือโอน
ลำคลองอันเป็นทางน้ำที่ประชาชนใช้สัญจรไปมาร่วมกัน.เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304. แม้ลำคลองนั้นได้ตื้นเขินขึ้นโดยธรรมชาติ. ไม่มีสภาพเป็นลำคลองมาประมาณ 30 ปีเศษ. และไม่มีราษฎรได้ใช้ประโยชน์ก็ตาม. แต่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพลำคลองนั้นจากการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 8 วรรคสอง และทางราชการยังถือเป็นที่หลวงหวงห้ามลำคลองนั้นจึงยังคงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน. จะโอนแก่กันมิได้. และจะยกอายุความขึ้นต่อสู้แผ่นดินก็ไม่ได้. ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305,1306.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำคลองตื้นเขินยังคงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้ไม่มีผู้ใช้ประโยชน์และไม่ได้ถอนสภาพ
ลำคลองอันเป็นทางน้ำที่ประชาชนใช้สัญจรไปมาร่วมกัน เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 แม้ลำคลองนั้นได้ตื้นเขินขึ้นโดยธรรมชาติ ไม่มีสภาพเป็นลำคลองมาประมาณ 30 ปีเศษ และไม่มีราษฎรได้ใช้ประโยชน์ก็ตาม แต่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพลำคลองนั้นจากการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 8 วรรค 2 และทางราชการยังถือเป็นที่หลวงหวงห้าม ลำคลองนั้นจึงยังคงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จะโอนแก่กันมิได้ และจะยกอายุความขึ้นต่อสู้แผ่นดินก็ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305, 1306
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้ตื้นเขินก็ยังไม่อาจโอนกรรมสิทธิ์ได้ จนกว่าจะมีกฤษฎีกาถอนสภาพ
ลำคลองอันเป็นทางน้ำที่ประชาชนใช้สัญจรไปมาร่วมกันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 แม้ลำคลองนั้นได้ตื้นเขินขึ้นโดยธรรมชาติ ไม่มีสภาพเป็นลำคลองมาประมาณ 30 ปีเศษ และไม่มีราษฎรได้ใช้ประโยชน์ก็ตามแต่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพลำคลองนั้นจากการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 8 วรรคสอง และทางราชการยังถือเป็นที่หลวงหวงห้ามลำคลองนั้นจึงยังคงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จะโอนแก่กันมิได้ และจะยกอายุความขึ้นต่อสู้แผ่นดินก็ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305,1306
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769-770/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพาทเกี่ยวกับที่ดินงอกริมตลิ่งและทางสาธารณะ ศาลต้องสืบพยานประเด็นสำคัญก่อนตัดสิน
ระหว่างที่พิพาทซึ่งเป็นที่งอกริมตลิ่งกับที่ของโจทก์มีทางเดินคั่นกลางซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นทางเอกชน ที่พิพาทเป็นที่งอกหน้าที่ดินของโจทก์ จึงเป็นของโจทก์ จำเลยสู้ว่าทางเดินระหว่างที่พิพาทเป็นทางสาธารณะ ที่พิพาทเป็นที่งอกจากทางสาธารณะ จำเลยได้ครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของมานานหลายปีแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิให้จำเลยรื้อถอนโรงเรือนจากที่พิพาท ประเด็นที่ว่าทางเดินระหว่างที่พิพาทกับที่โจทก์เป็นทางเอกชนหรือทางสาธารณะ เป็นประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยจากคำพยานโจทก์จำเลย ศาลจึงชอบที่จะให้สืบพยานโจทก์จำเลยในประเด็นดังกล่าวให้สิ้นกระแสความก่อน.