พบผลลัพธ์ทั้งหมด 32 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความภาษี: การประเมินใหม่หลังคำพิพากษาศาลฎีกาไม่ถือเป็นการฟ้องคดี ทำให้สิทธิเรียกร้องยังไม่ขาดอายุความ
โจทก์ได้รับแจ้งการประเมินให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลแล้วถือว่าเจ้าพนักงานประเมินของจำเลยได้ใช้สิทธิเรียกร้องบังคับเอาแก่โจทก์แล้วเป็นการที่เจ้าหนี้ได้กระทำการอันนับว่ามีผลเป็นอย่างเดียวกันกับการฟ้องคดีเพราะประมวลรัษฎากรมาตรา12ให้อธิบดีมีอำนาจสั่งยึดหรืออายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรค้างได้โดยมิต้องขอให้ศาลออกหมายยึดหรือสั่งจึงเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา173เดิม(ปัจจุบันคือมาตรา193/14(2)ระยะเวลาที่ได้ล่วงไปก่อนนั้นย่อมไม่นับเข้าในอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา181วรรคหนึ่งเดิม(ปัจจุบันคือมาตรา193/15วรรคหนึ่ง) ต่อมาโจทก์อุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และฟ้องคดีต่อศาลภาษีอากรกลางศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินโดยให้โจทก์เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากรมาตรา76ทวิและ70ทวิคงเดิมแต่แก้หลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณกำไรสุทธิของโจทก์ใหม่จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาศาลฎีกาพิพากษายืนและได้มีคำสั่งคำร้องศาลฎีกาอธิบายคำพิพากษาดังกล่าวด้วยว่า"ตามคำพิพากษาดังกล่าวจำเลยจะต้องประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลใหม่ตามวิธีการและหลักเกณฑ์ที่ปรากฏในคำพิพากษาศาลฎีกาจะบังคับให้โจทก์ชำระภาษีตามจำนวนที่จำเลยอ้างว่าคำนวณตามคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วทันทีโดยที่โจทก์ยังไม่ยอมรับว่าถูกต้องนั้นหาได้ไม่"ผลของคำพิพากษาดังกล่าวย่อมเป็นการก่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้องแก่เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยซึ่งมิได้เป็นฝ่ายฟ้องคดีให้ต้องผูกพันที่จะต้องประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลของโจทก์ขึ้นใหม่โดยคำพิพากษาชั้นที่สุดของศาลฎีกาตามวิธีการและหลักเกณฑ์ที่ปรากฏในคำพิพากษาศาลฎีกากรณีหาใช่ศาลพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินตามคำฟ้องของโจทก์โดยโจทก์ไม่ต้องรับผิดตามประมวลรัษฎากรมาตรา76ทวิและ70ทวิตามมูลเหตุแห่งการประเมินไม่ถือไม่ได้ว่าการประเมินอันมีผลเป็นอย่างเดียวกับการฟ้องคดีต้องถูกยกฟ้องที่จะไม่นับว่าเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงเจ้าพนักงานประเมินของจำเลยจึงมีอำนาจประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลของโจทก์ตามสิทธิเรียกร้องอันตั้งหลักฐานขึ้นใหม่โดยคำพิพากษาชั้นที่สุดของศาลฎีกาดังกล่าวได้ภายใน10ปีตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา168เดิม(ปัจจุบันคือมาตรา193/32)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1898/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำฟ้องในคดีตั๋วสัญญาใช้เงิน: อายุความสะดุดหยุดเมื่อมีการฟ้อง และสามารถแก้ไขคำฟ้องได้แม้พ้น 3 ปี
เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินภายในกำหนดอายุความ 3 ปี นับแต่วันที่ตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดแล้วอายุความย่อมสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173 เดิม และโจทก์ย่อมมีสิทธิขอแก้ไขคำฟ้องได้ภายในกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180 แม้จะยื่นคำร้องขอแก้ไขเมื่อพ้นกำหนด 3 ปี นับแต่วันที่ตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นถึงกำหนดแล้วก็ตาม ก็ไม่ทำให้คดีขาดอายุความ