คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ม. 6

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15241/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายค้ามนุษย์หลังมี พ.ร.บ. 2551 ทำให้ฟ้องเดิมขาดองค์ประกอบความผิด
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 3 ยกเลิก พ.ร.บ.มาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าหญิงและเด็ก พ.ศ.2540 แม้ความผิดฐานสมคบและรับ หน่วงเหนี่ยว หรือกักขัง ซึ่งเด็ก ที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษ ยังคงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 โดยให้ถือว่าเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ตามมาตรา 6 และมาตรา 9 ก็ตาม แต่องค์ประกอบความผิดตามกฎหมายใหม่ต้องเป็นการกระทำ "เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ" โดยมาตรา 4 นิยามคำว่า "แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ" หมายความว่า การแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น การเอาคนลงเป็นทาส การนำคนมาขอทาน การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ การบังคับตัดอวัยวะเพื่อการค้า หรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ดังนั้น ฟ้องโจทก์ต้องบรรยายฟ้องให้ครบองค์ประกอบความผิดดังกล่าวด้วย เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องโดยไม่ปรากฏว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 3 เป็นการกระทำ "เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ" ตามที่กฎหมายใหม่บัญญัติไว้ ฟ้องโจทก์จึงขาดองค์ประกอบความผิด ไม่อาจฟังลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3 ตามกฎหมายใหม่ได้ เป็นกรณีที่ตามบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังให้การกระทำตามฟ้องไม่เป็นความผิดต่อไป จำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 2 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานรับตัวผู้เยาว์เพื่อการอนาจารและการกระทำชำเรา โดยไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์
ด. พรากผู้เสียหายไปเสียจาก อ. ผู้ดูแล โดยผู้เสียหายไม่เต็มใจไปด้วยเพื่อการอนาจาร และจำเลยรับตัวผู้เสียหายไว้จาก ด. แล้วกระทำชำเราผู้เสียหาย แต่พฤติการณ์ที่จำเลยรับตัวผู้เสียหายไว้และกระทำชำเราผู้เสียหายอันเป็นการกระทำความผิดฐานรับตัวผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากเพื่อการอนาจารตาม ป.อ. มาตรา 318 วรรคสาม ไม่ปรากฏว่าจำเลยรับตัวผู้เสียหายเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 แต่อย่างใด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้ามนุษย์, ความผิดหลายกรรม, การยกเลิกกฎหมายเก่า, และผลกระทบต่อโทษจำคุก
จำเลยทั้งสามร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร แม้กระทำต่อผู้เสียหายหลายคนในคราวเดียวกัน แต่ก็เป็นการกระทำต่อผู้เสียหายแต่ละคนโดยเฉพาะ จึงเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน
ภายหลังกระทำความผิด ได้มี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ให้ยกเลิก พ.ร.บ.มาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าหญิงและเด็ก พ.ศ.2540 โดยไม่ได้บัญญัติให้การกระทำความผิดฐานค้าหญิงโดยหญิงนั้นยินยอมตามที่จำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามมาตรา 5, 7 วรรคหนึ่งและวรรคสองเป็นความผิดอีกต่อไป จำเลยที่ 1 จึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดฐานนี้ตาม ป.อ. มาตรา 2
of 2