พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้อง, การรับฟังพยานหลักฐาน, ความชัดเจนของฟ้อง, การตกลงเล่นการพนัน, การยืนยันเอกสารของกลาง
(1) ขอแก้ฟ้องเกี่ยวกับจำนวนเงินของกลางที่จับได้เป็นการแก้ไขรายละเอียดเรื่องของกลางซึ่งต้องแถลงในฟ้อง
(2) ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าพยานเบิกความว่าวันเกิดเหตุเวลา 8 นาฬิกาได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่บ้านจำเลยเล่นการพนัน แต่ศาลอุทธรณ์ฟังว่ามีสายลับมาแจ้งพยานเมื่อเวลา 4 โมงเช้า ถือว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน แต่กล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเวลาซึ่งคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อยเท่านั้น
(3) ฟ้องโจทก์กล่าวเพียงว่าจำเลยเป็นเจ้ามือรับแทงสลากกินรวบจากผู้เล่นทั่วไป ไม่กล่าวให้ชัดว่ารับแทงจากใคร ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
(4) จำเลยเป็นเจ้ามือรับเงินที่แทงจากผู้แทงไป ถือว่าได้ตกลงเล่นการพนันกันแล้ว
(5) ภายหลังที่โจทก์ถามติงพยานโจทก์แล้วโจทก์ขอให้พยานดูเอกสารที่ส่งศาลไว้แล้ว พยานดูแล้วว่าใช่ของกลางที่จับได้จากจำเลยตามที่เบิกความแล้วดังนี้ ไม่ใช่เรื่องถามติง เป็นแต่เพียงให้พยานยืนยันเอกสารที่พยานเบิกความถึงมาแล้ว
(2) ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าพยานเบิกความว่าวันเกิดเหตุเวลา 8 นาฬิกาได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่บ้านจำเลยเล่นการพนัน แต่ศาลอุทธรณ์ฟังว่ามีสายลับมาแจ้งพยานเมื่อเวลา 4 โมงเช้า ถือว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน แต่กล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเวลาซึ่งคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อยเท่านั้น
(3) ฟ้องโจทก์กล่าวเพียงว่าจำเลยเป็นเจ้ามือรับแทงสลากกินรวบจากผู้เล่นทั่วไป ไม่กล่าวให้ชัดว่ารับแทงจากใคร ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
(4) จำเลยเป็นเจ้ามือรับเงินที่แทงจากผู้แทงไป ถือว่าได้ตกลงเล่นการพนันกันแล้ว
(5) ภายหลังที่โจทก์ถามติงพยานโจทก์แล้วโจทก์ขอให้พยานดูเอกสารที่ส่งศาลไว้แล้ว พยานดูแล้วว่าใช่ของกลางที่จับได้จากจำเลยตามที่เบิกความแล้วดังนี้ ไม่ใช่เรื่องถามติง เป็นแต่เพียงให้พยานยืนยันเอกสารที่พยานเบิกความถึงมาแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้อง การรับฟังพยานหลักฐาน และองค์ประกอบความผิดฐานเล่นการพนัน
(1) ขอแก้ฟ้องเกี่ยวกับจำนวนเงินของกลางที่จับได้เป็นการแก้ไขรายละเอียดเรื่องของกลางซึ่งต้องแถลงในฟ้อง (2) ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าพยานเบิกความว่าวันเกิดเหตุเวลา 8 นาฬิกาได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่บ้านจำเลยเล่นการพนัน แต่ศาลอุทธรณ์ฟังว่ามีสายลับมาแจ้งพยานเมื่อเวลา 4 โมงเช้าถือว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน แต่กล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเวลาซึ่งคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อยเท่านั้น (3) ฟ้องโจทก์กล่าวเพียงว่าจำเลยเป็นเจ้ามือรับแทงสลากกินรวบจากผู้เล่นทั่วไป ไม่กล่าวให้ชัดว่ารับแทงจากใคร ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม (4) จำเลยเป็นเจ้ามือรับเงินที่แทงจากผู้แทงไป ถือว่าได้ตกลงเล่นการพนันกันแล้ว (5) ภายหลังที่โจทก์ถามติงพยานโจทก์แล้ว โจทก์ขอให้พยานดูเอกสารที่ส่งศาลไว้แล้ว พยานดูแล้วว่าใช่ของกลางที่จับได้จากจำเลยตามที่เบิกความแล้ว ดังนี้ไม่ใช่เรื่องถามติง เป็นแต่เพียงให้พยานยืนยันเอกสารที่พยานเบิกความถึงมาแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษฐานแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง เมื่อมีเจตนาใช้สอยเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
จำเลยได้ซื้อไม้ยางแปรรูปแล้ว เพื่อใช้ในการปลูกห้องแถวของจำเลยเอง จำเลยย่อมได้รับยกเว้นโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 50(4)
เมื่อจำเลยมิได้มีไม้ยางของกลางไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้แล้ว ก็ริบไม่ได้
คำถามที่เกิดจากการถามค้าน แม้ข้อความที่ตอบคำถามไว้ชัดเจนแล้วก็ดี จำเลยก็ถามติงได้
เมื่อจำเลยมิได้มีไม้ยางของกลางไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้แล้ว ก็ริบไม่ได้
คำถามที่เกิดจากการถามค้าน แม้ข้อความที่ตอบคำถามไว้ชัดเจนแล้วก็ดี จำเลยก็ถามติงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษและผลกระทบต่อการริบของกลางในความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ เมื่อจำเลยใช้ไม้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
จำเลยได้ซื้อไม้ยางแปรรูปแล้ว เพื่อใช้ในการปลูกห้องแถวของจำเลยเอง จำเลยย่อมได้รับยกเว้นโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 50(4)
เมื่อจำเลยมิได้มีไม้ยางของกลางไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ. ป่าไม้แล้ว ก็ริบไม่ได้
คำถามที่เกิดจากการถามค้าน แม้ข้อความที่ตอบคำถามไว้ชัดเจนแล้วก็ดี จำเลยก็ถามติงได้
เมื่อจำเลยมิได้มีไม้ยางของกลางไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ. ป่าไม้แล้ว ก็ริบไม่ได้
คำถามที่เกิดจากการถามค้าน แม้ข้อความที่ตอบคำถามไว้ชัดเจนแล้วก็ดี จำเลยก็ถามติงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่คัดค้านพยานจำเลยในชั้นศาลชั้นต้น ทำให้ไม่อุทธรณ์ฎีกาในประเด็นนั้นได้
ในศาลชั้นต้นเมื่อพะยานจำเลยเบิกความโจทก์มิได้คัดค้านข้อความเหล่านั้นไว้โจทก์จะมาอุทธรณ์ฎีกาในข้อความเหล่านั้นไม่ได้
โจทก์ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินราคา 800 บาท และเรียกค่าเสียหายไม้ที่ปลูก 400 บาทเศษศาลชั้นต้นให้ที่เป็นของโจทก์ ส่วนต้นไม้เป็นของจำเลย ศาลอุทธรณ์ตัดสินยกฟ้องทั้งหมดโจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
โจทก์ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินราคา 800 บาท และเรียกค่าเสียหายไม้ที่ปลูก 400 บาทเศษศาลชั้นต้นให้ที่เป็นของโจทก์ ส่วนต้นไม้เป็นของจำเลย ศาลอุทธรณ์ตัดสินยกฟ้องทั้งหมดโจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในการเปลี่ยนคำให้การ & การสืบพยานใหม่หลังย้อนสำนวน
ในคดีอุกฉกรรจ์จำเลยให้การรับสารภาพต่อหน้าศาล. แต่ในระหว่างที่ศาลนัดสืบพยานโจทก์ประกอบคำให้การรับสารภาพ.จำเลยขอให้การใหม่เป็นปฏิเสธฟ้องโจทก์เช่นนี้. ย่อมทำได้เพราะตามกฎหมายย่อมให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดีอาญาได้เต็มที่. ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์สั่งให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ในคดีอุฉกรรจ์นั้น. เมื่อไม่เป็นการเสียหายแก่คดีโจทก์. โจทก์จะไม่นำพยานเข้าสืบใหม่โดยขอให้สืบพยานจำเลยต่อไปย่อมทำได้. เพราะถือว่าการสืบครั้งก่อนได้สืบต่อหน้าจำเลยแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในการเปลี่ยนคำให้การจากรับสารภาพเป็นปฏิเสธ และขอบเขตการพิจารณาพยานใหม่ของศาล
ในคดีอุกฉกรรจ์จำเลยให้การรับสารภาพต่อหน้าศาล แต่ในระหว่างที่ศาลนัดสืบพยานโจทก์ประกอบคำให้การรับสารภาพจำเลยขอให้การใหม่เป็นปฏิเสธฟ้องโจทก์เช่นนี้ ย่อมทำได้เพราะตามกฎหมายย่อมให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดีอาญาได้เต็มที่ ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์สั่งให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาหใหม่ในคดีอุกฉกรรจ์นั้น เมื่อไม่เป็นการเสียหายแก่คดีโจทก์โจทก์จะไม่นำพยานเข้าสืบใหม่โดยขอให้สืบพยานจำเลยต่อไปย่อมทำได้ เพราะถือว่าการสืบครั้งก่อนได้สืบต่อหน้าจำเลยแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271-272/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินบริคณห์: โฉนดชื่อผู้เดียวไม่ตัดสิทธิสามีในทรัพย์สิน หากพิสูจน์ไม่ได้เป็นสินส่วนตัว
ภริยามีชื่อในโฉนดแต่ผู้เดียวแสดงว่าเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เท่านั้น จะถือว่าที่ดินนั้นเป็นสินส่วนตัวไม่ได้ เพราะอาจเป็นสินเดิมหรือสินสมรส จึงต้องถือเป็นสินบริคณห์.กรณีถือว่าโจทก์ให้การรับว่าผู้ร้องเป็นสามีจำเลย.