พบผลลัพธ์ทั้งหมด 516 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2860/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องรื้อรั้วปิดทาง: การบรรยายฟ้องทางสาธารณะ ทางภารจำยอม และทางจำเป็น ไม่เคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ทางพิพาทนอกจากเป็นถนนสาธารณะแล้วยังเป็นทางภารจำยอมและทางจำเป็นแก่ที่ดินของโจทก์ จำเลยทำรั้วปิดกั้นทางพิพาทโดยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย ขอให้รื้อรั้วและทำสภาพที่ดินให้เหมือนเดิม ดังนี้ ข้อหาตามฟ้องคือจำเลยปิดกั้นทางพิพาทโดยจำเลยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย และคำขอบังคับคือให้จำเลยรื้อรั้วและทำสภาพที่ดินให้เหมือนเดิม ส่วนข้อความที่ว่าทางพิพาทเป็นถนนสาธารณะ เป็นทางภารจำยอม และเป็นทางจำเป็น เป็นเพียงข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ศาลจะต้องพิจารณาต่อไปว่าความจริงเป็นอย่างไร คำบรรยายฟ้องของโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นการบรรยายโดยแจ้งชัดเท่าที่โจทก์จะกระทำได้ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ตามนัยแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 172 ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2860/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนในการบรรยายฟ้องกรณีทางพิพาท: ศาลพิจารณาจากข้อหาและคำขอเป็นหลัก
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ทางพิพาทนอกจากเป็นถนนสาธารณะแล้วยังเป็นทางภาระจำยอมและทางจำเป็นแก่ที่ดินของโจทก์จำเลยทำรั้วปิดกั้นทางพิพาทโดยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย ขอให้รื้อรั้วและทำสภาพที่ดินให้เหมือนเดิม ดังนี้ ข้อหาตามฟ้องคือจำเลยปิดกั้นทางพิพาทโดยจำเลยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย และคำขอบังคับคือให้จำเลยรื้อรั้วและทำสภาพที่ดินให้เหมือนเดิม ส่วนข้อความที่ว่าทางพิพาทเป็นถนนสาธารณะ เป็นทางภาระจำยอม และเป็นทางจำเป็นเป็นเพียงข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ศาลจะต้องพิจารณาต่อไปว่าความจริงเป็นอย่างไรคำบรรยายฟ้องของโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นการบรรยายโดยแจ้งชัดเท่าที่โจทก์จะกระทำได้ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2769/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอม แม้มีการโอนสิทธิ และการรุกล้ำทางภาระจำยอม
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ศาลพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดแล้ว แต่เมื่อจำเลยยังมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมให้ครบถ้วนและถูกต้อง แม้โจทก์ทำหนังสือสัญญายกที่ดินสามยทรัพย์ให้บุตร และต่อมาบุตรโจทก์ได้ฟ้องจำเลยเกี่ยวกับทางภาระจำยอมรายเดียวกันนี้ก็ตาม สิทธิของโจทก์ที่จะขอให้บังคับคดีนี้ต่อไป อันเป็นบุคคลสิทธิก็ยังคงมีอยู่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ และคำพิพากษาตามยอมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคแรก
จำเลยเป็นเจ้าของภารยทรัพย์ ปลูกสร้างตึกแถวรุกล้ำทางภาระจำยอมและถมดินลงในลำกระโดงสาธารณะให้โจทก์ใช้แทนทางภาระจำยอมเดิมบางส่วน เป็นการประกอบกรรมอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1390 และเมื่อจำเลยกระทำดังกล่าวขึ้นภายหลังที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมโจทก์ชอบที่จะขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนตึกแถวที่จำเลยปลูกสร้างรุกล้ำทางภาระจำยอม และทำทางภาระจำยอมให้อยู่ในสภาพที่โจทก์จะใช้ได้โดยสะดวกเหมือนเดิมได้.
จำเลยเป็นเจ้าของภารยทรัพย์ ปลูกสร้างตึกแถวรุกล้ำทางภาระจำยอมและถมดินลงในลำกระโดงสาธารณะให้โจทก์ใช้แทนทางภาระจำยอมเดิมบางส่วน เป็นการประกอบกรรมอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1390 และเมื่อจำเลยกระทำดังกล่าวขึ้นภายหลังที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมโจทก์ชอบที่จะขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนตึกแถวที่จำเลยปลูกสร้างรุกล้ำทางภาระจำยอม และทำทางภาระจำยอมให้อยู่ในสภาพที่โจทก์จะใช้ได้โดยสะดวกเหมือนเดิมได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2769/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แม้มีการโอนสิทธิ และการรุกล้ำทางภาระจำยอม
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ศาลพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดแล้ว แต่เมื่อจำเลยยังมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมให้ครบถ้วนและถูกต้อง แม้โจทก์ทำหนังสือสัญญายกที่ดินสามยทรัพย์ให้บุตร และต่อมาบุตรโจทก์ได้ฟ้องจำเลยเกี่ยวกับทางภาระจำยอมรายเดียวกันนี้ก็ตาม สิทธิของโจทก์ที่จะขอให้บังคับคดีนี้ต่อไป อันเป็นบุคคลสิทธิก็ยังคงมีอยู่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ และคำพิพากษาตามยอมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคแรก
จำเลยเป็นเจ้าของภารยทรัพย์ ปลูกสร้างตึกแถวรุกล้ำทางภาระจำยอมและถมดินลงในลำกระโดงสาธารณะให้โจทก์ใช้แทนทางภาระจำยอมเดิมบางส่วน เป็นการประกอบกรรมอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1390 และเมื่อจำเลยกระทำดังกล่าวขึ้นภายหลังที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมโจทก์ชอบที่จะขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนตึกแถวที่จำเลยปลูกสร้างรุกล้ำทางภาระจำยอม และทำทางภาระจำยอมให้อยู่ในสภาพที่โจทก์จะใช้ได้โดยสะดวกเหมือนเดิมได้.
จำเลยเป็นเจ้าของภารยทรัพย์ ปลูกสร้างตึกแถวรุกล้ำทางภาระจำยอมและถมดินลงในลำกระโดงสาธารณะให้โจทก์ใช้แทนทางภาระจำยอมเดิมบางส่วน เป็นการประกอบกรรมอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1390 และเมื่อจำเลยกระทำดังกล่าวขึ้นภายหลังที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมโจทก์ชอบที่จะขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนตึกแถวที่จำเลยปลูกสร้างรุกล้ำทางภาระจำยอม และทำทางภาระจำยอมให้อยู่ในสภาพที่โจทก์จะใช้ได้โดยสะดวกเหมือนเดิมได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2554/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางในที่ดินของผู้อื่นโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของเดิม ไม่ถือเป็นการได้สิทธิภาระจำยอมโดยอายุความ
ทางพิพาทเป็นทางผ่านเข้าออกในที่ดินของจำเลยที่ 1 ที่มีมาอยู่แต่เดิมแล้วก่อนที่โจทก์จะใช้เป็นทางผ่านเข้าออก โจทก์เริ่มใช้ทางพิพาทเข้าออกขณะพี่ชายโจทก์มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินนั้นแทนคณะพ่อค้า และโจทก์เป็นคณะกรรมการดูแลที่ดินคนหนึ่ง จึงเป็นการใช้ทางโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดิน ทั้งตามพฤติการณ์ถือได้ว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทโดยการถือวิสาสะมิใช่เป็นการใช้สิทธิปรปักษ์ แม้โจทก์จะใช้ทางพิพาทในที่ดินของจำเลยที่ 1 ติดต่อกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบปี ทางพิพาทก็ไม่ตกเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์โดยอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2554/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางโดยอาศัยสิทธิเจ้าของที่ดิน มิใช่การได้มาซึ่งภาระจำยอมตามอายุความ
ทางพิพาทเป็นทางผ่านเข้าออกในที่ดินของจำเลยที่ 1 ที่มีมาอยู่แต่เดิมแล้วก่อนที่โจทก์จะใช้เป็นทางผ่านเข้าออกโจทก์เริ่มใช้ทางพิพาทเข้าออกขณะพี่ชายโจทก์มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินนั้นแทนคณะพ่อค้า และโจทก์เป็นคณะกรรมการดูแลที่ดินคนหนึ่ง จึงเป็นการใช้ทางโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดิน ทั้งตามพฤติการณ์ถือได้ว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทโดยการถือวิสาสะมิใช่เป็นการใช้สิทธิปรปักษ์ แม้โจทก์จะใช้ทางพิพาทในที่ดินของจำเลยที่ 1 ติดต่อกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบปี ทางพิพาทก็ไม่ตกเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์โดยอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตประเด็นข้อพิพาท: ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยทางพิพาทเป็นภาระจำยอมได้ แม้ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นเป็นทางสาธารณประโยชน์
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า ทางพิพาทเป็นทางสาธารณประโยชน์หรือไม่ และจำเลยมีสิทธิปิดกั้นทางพิพาทหรือไม่ การที่ศาลพิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอม จำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้น ย่อมอยู่ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนด ไม่เป็นการนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการวินิจฉัยศาลอุทธรณ์: ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้ถึงทางภาระจำยอม แม้ประเด็นเดิมเป็นทางสาธารณะ
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า ทางพิพาทเป็นทางสาธารณประโยชน์หรือไม่ และจำเลยมีสิทธิปิดกั้นทางพิพาทหรือไม่ การที่ศาลพิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอม จำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้น ย่อมอยู่ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไม่เป็นการนอกประเด็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมโดยการใช้ต่อเนื่องเกิน 10 ปี สิทธิในภาระจำยอมตกสู่ผู้รับโอน
เจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 2676 คนเดิม ได้ใช้ทางเดินผ่านเข้าออกในที่ดินจำเลยกับพวกโฉนดเลขที่ 1683 ออกไปสู่ทางสาธารณะเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วโดยไม่มีผู้ใดโต้แย้งขัดขวาง ทางพิพาทก็ตกอยู่ในภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 2676 เมื่อที่ดินแปลงดังกล่าวโอนมาเป็นของโจทก์ที่ 1 สิทธิในภาระจำยอมย่อมตกมาเป็นของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 และผู้อยู่ในที่ดินดังกล่าวย่อมมีสิทธิใช้ทางพิพาท จำเลยไม่มีสิทธิห้ามมิให้ใช้ทางพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางเดินโดยถือวิสาสะ ไม่ก่อให้เกิดภาระจำยอม แม้ใช้ต่อเนื่องนานปี
โจทก์ใช้ทางพิพาทเดินผ่านเข้าออกจากบ้านของโจทก์ไปสู่ถนนสาธารณะตลอดมาโดยถือวิสาสะเช่นนี้แม้จะใช้ทางพิพาทนานเท่าใดก็ตามทางพิพาทก็ไม่อาจเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์แต่อย่างใด.